ประสบการณ์ที่อาจทำให้ผีเข้าและปืนร่วง

"ประสบการณ์"ที่อาจทำให้ผีเข้าและปืนร่วง

กลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาทิ้งทวนสัปดาห์นี้ไปเลยนะครับเมื่อกลายเป็นว่าลิเวอร์พูลคือทีมเดียวในสี่ตัวแทนของอังกฤษที่ได้ชัยชนะในแชมเปี้ยนส์ลีกนทั้งๆที่ถูกวิกฤติรุมเร้ารอบด้านมากกว่าใครทั้งหมด

แต่สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผลเสมอ 1-1 พร้อมกับอเวย์โกล์เปรียบเสมือนร่างทรงของชัยชนะและมีโอกาสสูงที่สุดต่อจาก"หงส์แดง"ที่จะฝ่าด่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

โอลิมปิก ลียงคุมสถานการณ์และปิดกั้นโอกาสยูไนเต็ดตลอด 87 นาทีแต่การพลาดท่าเพียงครั้งเดียวกลายเป็นประตูตีเสมอของคาร์ลอส เตเบซที่ทำให้พวกเค้ารู้สึกเหมือนแพ้ไปแล้วครึ่งตัว

แท็คติกส์หน้าเดี่ยวของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันทำให้เวย์น รูนี่ย์แทบไม่มีจังหวะเหน่งๆนอกจากลูกเปิดย้อยข้ามหัวกองหลังของไรอัน กิกส์ให้หลุดเข้าไปยิงให้คูเปร์เซฟเหลือเชื่อในครึ่งแรกเท่านั้น

กลางของเจ้าถิ่นเป็น key ที่ทำให้ยูไนเต็ดรูปเกมค่อนข้างเป็นรอง เรียกว่าการเข้าบีบเร็วและให้แบ็คทั้งสองข้างคุมพื้นที่ตรงริมเส้นแค่นี้เกมของ"ปิศาจแดง"ถึงกับใบกินทันตาเห็น

ที่พอจะสร้างอันตรายได้ก็เป็นในรูปแบบให้มิดฟิลด์สอดขึ้นมาตามช่องในเขตโทษแต่เกมมาช็อตเอาดื้อๆหลังปล่อยให้คาริม เบนเซามยิงลูก half chance หน้าเขตโทษทั้งๆที่มีกองหลังรายล้อมเป็นฝูงถึง 3-4 คน

ผมว่าซิดนีย์ โกวูมีส่วนสำคัญต่อการขึ้นเกมของเจ้าถิ่นมากกว่าใครทั้งหมดเพราะแกบังบอลพิงบอลตรงปีกซ้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเรียกว่าตัวประกบอย่างเวส บราว์นไม่เคยเอาอยู่และถูกพลิกหนีกลายเป็นการสร้างพื้นที่ให้แถวสองดาหน้ากันขึ้นมาทันเวลาแทบทุกครั้ง

ลียงพลาดเองที่ปล่อยให้โอกาสทองในช่วงยูไนเต็ดโหมบุกหนักต้องหลุดลอยเนื่องจากจังหวะสวนกลับทำประตูตอกฝาโลงมีมากพอที่จะเปลี่ยนสกอร์เป็น 2-0

ใครก็ตามที่เล่นกับ"ปิศาจแดง"ต้องสำเหนียกไว้อย่างครับว่าหากเวลาไม่หมดจริงๆคุณพร้อมถูกยิงได้ทุกเมื่อและลูกตีเสมอของเตเบซอารมณ์ไม่ต่างจากวันที่โหมเอาคืนจนรอดตายคารังไวท์ฮาร์ทเลนเมื่อเดือนก่อน

ลูกตะบันเผาขนของหอกทีมชาติอาร์เจนติน่ามาจากจังหวะต่อเนื่องที่ยูไนเต็ดน่าจะทำได้จากลูกเตะมุมก่อนหน้านี้และพอนานี่เปิดเข้ามาตรงระยะ 6 หลามาถูกขาเฟร็ดตัวสำรองที่ไม่รู้จะทำยังไงจนมาเข้าทางเตเบซในที่สุด

ลูกเปิดจากส่วนไหนของสนามก็ตามหากกองหลังหรือผู้รักษาประตูไม่สามรถเคลียร์จนปล่อยให้ตกพื้นในเขตโทษตัวเองโอกาสถูกสำเร็จโทษมีสูงมากครับและแค่ 6 หลาคงไม่ต้องพูดถึงนะครับ

เกมที่เป็นใจให้ลียงทุกๆเหลี่ยมแบบนี้แต่เอาชนะยูไนเต็ดไม่ได้ทำให้การบ้านนัดต่อไปในวันที่ 4 มีนาคมค่อนข้างน่าเป็นห่วงไม่น้อยจริงๆครับ

แค่ลำพังต้องพยายามบุกเพื่อทวงอเวย์โกล์โดยต้องท่องไว้ในใจห้ามเสียด้วยก็หนักพอแล้วแต่โอแอลมีผลงานอกบ้านในทุกรายการที่ซำเหมาสุดๆครับคือยังไม่ชนะใครเลยนับตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนปีที่แล้วนู่นเลย

เชื่อขนมกินได้ครับสูตรบุกฆ่าคู่ต่อสู้ให้ตายในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดตามแบบฉบับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันใช้ได้ในทุกๆสถานการณ์เหมือนเดิม

ลียงที่เตรียมตัวทุกอย่างมาดีหมดแล้วไม่ว่าจะเล่นอย่างรัดกุมในเกมของตัวเองหรือสกัดกั้นช่องทางบุกของ"ปิศาจแดง"ได้ดีในระดับนึงรวมทั้งขึ้นเกมบุกแต่มียั้งระวังหลังบ้านยังถูก"ปิศาจแดง"สวนกลับจนได้จบสกอร์หลายครั้ง

ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าสุดท้ายแล้วแมนฯยูฯที่เก๋ากว่าและจ่อส่งหน้าคู่อย่างเตเบซ+รูนีย์จะลงมาปิดสกอร์เขี่ยลียงจบเส้นทางไว้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไว้ไม่ยากครับ

ในขณะที่คนละอารมณ์และความรู้สึกสำหรับอาร์เซนอลที่แม้จะไม่เสียอเวย์โกล์ให้เอซี มิลานในเอมิเรสต์ สเตเดียมแต่จากโอกาสจะแจ้งนับไม่ถ้วนเท่ากับเป็นการปล่อยให้ความได้เปรียบในเกมแรกหลุดลอยอย่างไม่น่าให้อภัย

ยิ่งแฟน"ปืนใหญ่"เห็นลูกโขกชนคานแค่ 2 หลาของเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 หัวใจยิ่งสลายหนักเข้าไปอีกเพราะมั่นใจได้เลยว่าภาพนี้จะติดตาไปอีกนานหากเลกสองหวยไปออกที่มิลาน

ทีมเยือนพยายามรับต่ำให้"ปืนใหญ่"มีพื้นที่สุดท้ายเหลือน้อยที่สุดแต่สุดท้ายไม่เวิร์คเพราะหลายต่อหลายครั้งปล่อยให้แข้งยังกันส์หลุดถึงเส้นหลังกรอบโทษเยอะจนนับไม่ไหว

ประสบการณ์ของ"ปิศาจแดงดำ"ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้พวกเค้าเอาตัวรอดออกจากเอมิเรสต์ สเตเดียมแต่เป็นปัญหาเดิมๆของอาร์เซนอลที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกนัด คือถ้าวันไหนยิงเป็นเข้ากดเป็นตุงเกมอาจจบอย่างรวดเร็วภายในครึ่งเดียวแต่ดันไม่ใช่ในเกมสำคัญในรอบน็อกเอาท์กับโคตรทีมอย่างมิลาน

แล้วขึ้นชื่อว่ามิลานถ้าไม่ลงยันต์ฆ่าให้ตายผมว่าคราวนี้ประสบการณ์ในเวทียุโรปรวมทั้งฐานะแชมป์เก่าจะกลายเป็นอาวุธสำคัญตัดสินเกมในเลกให้พวกเค้าอีกคำรบ

ทีนี้เรื่องของเรื่องคืออาร์แซน เวนเกอร์คงต้องออกแรงกระตุ้นเด็กให้หนักๆเลยเพราะการมาเยือนในเกมกดดันหาใช่ในลักษณะที่แพ้สเปอร์สหรือแมนฯยูฯถล่มทลาย

การมีกฏอเวย์โกล์เข้ามาเป็นเงื่อนไขด้วยทำให้ผมเชื่อว่าอาร์เซนอลไม่ถึงกับเสียหายหนักและในทางกลับกันมิลานเองก็คงเล่นเกมรุกบุ่มบ่ามไม่ได้เช่นกัน

แต่ผมแอบหวั่นใจแทนขุนพล"ปืนใหญ่"ยังไงชอบกลไม่รู้เพราะเกมใหญ่นัดเดียวแบบนี้มิลานแทบไม่เคยพลาดให้เห็นเลย...