ปืนบรื๋อออ์!ผีต้อนตือหน้าหงาย4-0

ปืนบรื๋อออ์!ผีต้อนตือหน้าหงาย4-0

ปืนบรื๋อออ์!ผีต้อนตือหน้าหงาย4-0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลอนปืนใหญ่อาร์เซนอลที่เหลือ 10 ตัวซะกลับลอนดอนไม่ถูกหลังสอนเชิงไล่ถล่มแหลก 4-0 พูลสวัดิส์ทั้งๆที่ไม่มีคริสติอาโด้ โรนัลโด้โดยเทพเฟลทเชอร์ฟื้นคืยชีพเป็นที่รักของเร้ดอาร์มี่ด้วยการเหมาคนเดียวสองประตูเข้ารอบ 8 ทีมเอฟเอ คัพอย่างสมเกียรติ

บรรยายเกมโดยนาฬิกาทราย

แมนฯยูฯ 4-0 อาร์เซนอล

ประตู :
1-0 รูนี่ย์ น.16,2-0 เฟลทเชอร์ น.20,3-0 นานี่ น.38,4-0 เฟลทเชอร์ น.74

เนื่องจากจะมีโปรแกรมใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกช่วงกลางสัปดาห์ จึงทำให้ ทั้งคู่ต่างดร็อปตัวหลักๆไว้หลายคนทีเดียว โดยแมนฯยูไนเต็ด ไม่มีชื่อคริสติอาโน่ โรนัลโด้,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และไรอัน กิ๊กส์ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง โดยเกมนี้วางรูนีย์ที่เพิ่งพ้นโทษแบน เป็นกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวเท่านั้น

ในขณะที่กันเนอร์ส เกมนี้ก็พักมาติเยอ ฟลามินี่ และอาเดบายอร์ไว้เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น โดยที่แดนหน้าให้โอกาส นิคลาส เบนด์เนอร์ มาจับคู่กับเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

เริ่มเกมขึ้นมาเป็นแมนฯยูไนเต็ด ที่เล่นได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด นาทีที่ 8 อันเดร์สัน หาพื้นที่ว่างได้เยี่ยม ก่อนตะบันไกลจากระยะ 25 หลาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเหมือนจรวดมิสไซล์ แต่เยนส์ เลห์มันน์ยืนตำแหน่งได้เยี่ยมเซฟเอาไว้สวย

อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 16ปิศาจแดงก็มาเอาประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อนานี่เปิดคอร์เนอร์ยาวไปถึงนอกเขตโทษ อันเดร์สันโหม่งตั้งไปที่หน้าประตู ที่มีเวย์น รูนีย์ กับจัสติน ฮอยต์ ยืนแย่งตำแหน่งกันอยู่ แต่สุดท้ายรูนีย์เบียดชนะได้ ขึ้นโขกเต็มหัว บอลพุ่งแสกหน้าเลห์มันน์เข้าไปตุงตาข่าย ส่งให้แมนฯยูไนเต็ดขยับสกอร์ไปเป็น 1-0

และเมื่อได้ประตูสกอร์ก็ไหลเป็นน้ำทันที อีกแค่สี่นาทีต่อมาเท่านั้น เหล่าเรด เดวิลส์ ก็ได้เฮกันลั่นอีกครั้ง เมื่อได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 บอลเริ่มจากนานี่ ที่กระชากไปจนสุดริมเส้นด้านซ้าย ก่อนตักเข้ามาหน้าประตู ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ สอดหัวขึ้นโหม่งจ่อๆแค่ 2 หลาเข้าประตูอย่างง่ายดาย ชนิดที่เลห์มันน์ หมดสิทธิ์เซฟด้วยประการทั้งปวง

รูนีย์ในเกมนี้นับว่าเป็นตัวสร้างปัญหาให้อาร์เซนอลอย่างแท้จริง เมื่อเขามีโอกาสอีกครั้ง ในนาทีที่ 34 จากลูกครอสของพาร์ก จี ซอง เจ้าหมูพลิ้วเอาบอลลงได้ก่อนตวัดยิงเร็วทันที แต่บอลเด้งถากเสาออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

อาร์เซนอลยิ่งเล่นยิ่งรวนไปหมด ไม่เพียงแต่จะตอบโต้ไม่ได้เท่านั้น พวกเขายังมาโดนลูกที่ 3 ในนาทีที่ 38 เมื่อไมเคิล คาร์ริก เปิดบอลยาวตั้งแต่กลางสนาม แต่กองหลังปืนโตยืนตำแหน่งกันพลาดไปหมด เลยโดนนานี่ วิ่งมาเก็บบอล และอัดเปรี้ยงด้วยซ้ายผ่านมือเลห์มันน์ไปแบบสบายเท้าเหลือเกิน

เข้าสู่ครึ่งหลังแมนฯยูไนเต็ดยังดาหน้าบุกแหลก เล่นเอาคนดูงงไปหมดว่า นี่คืออาร์เซนอลตัวจริงรึเปล่า นาทีที่ 48 เวย์น รูนีย์ มาปั่นฟรีคิกเน้นๆจากระยะ 20 หลา บอลแฉลบกำแพงนิดๆ พุ่งเข้าไปที่มุมซ้ายล่าง แต่เลห์มันน์ ไม่ยอมเสียเพิ่มอีกแล้ว ตะครุบเอาไว้ได้เยี่ยม

สถานการณ์ของอาร์เซนอลที่ว่าแย่แล้ว ยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิมอีกเท่าตัว เมื่อเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหน กระโดดกังฟูใส่เอวร่าเต็มๆท้อง จนดิ้นพราดๆลงไปกับพื้น ผู้ตัดสินไวลีย์ ไม่ลังเลใจชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

นาทีที่ 61 แมนฯยูไนเต็ดน่าจะได้ประตูที่ 4 สุดๆเมื่อได้สองจังหวะติดต่อกัน ครั้งแรกตูเร่ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ แต่รูนีย์ไม่สนจะเอาลูกโทษ เล่นในจังหวะได้เปรียบทันที แต่ดันยิงผ่านหน้าปากประตูออกไปนิดเดียว ต่อจากนั้นอีกไม่กี่วินาที รูนีย์คนเดิมหลบกับดักล้ำหน้าได้สวย ก่อนแป ไปติดเลห์มันน์ที่เซฟไว้ได้อย่างจวนเจียนสุดๆ

การเหลือสิบคนทำให้ทีมเยือนหมดสภาพอย่างแท้จริง และก็มาโดนบวกเพิ่มจนได้ในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่นานี่ ยึกยักๆอยู่บริเวณริมเส้นด้านซ้าย ก่อนจะตักบอลเข้าไปที่เสาสอง ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ทะยานเหินหาวเข้าโขกเต็มๆ สุดปัญญาที่เลห์มันน์จะทำอะไรได้ ตุงตาข่ายเข้าไป สกอร์ไหลเป็น 4-0

บรรยากาศในเกมนั้นเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเหล่านักเตะอาร์เซนอล ที่หงุดหงิดมากๆและมาระบายด้วยการไล่หวดผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ด

ช่วงนาทีสุดท้ายของเกม หลุยส์ ซาฮา เกือบจะมีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดได้ จากจังหวะที่คาร์ริก แทงคิลเลอร์พาสให้ซาฮาหลุดเดี่ยว แต่จังหวะสุดท้ายหอกหน้าปลาดุก ดันซัดไปโดนเลห์มันน์เซฟ

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้ผลการแข่งขันเปลี่ยนไป แมนฯยูไนเต็ด ถล่มอาร์เซนอลไปกระจุยกระจาย 4-0 กรีธาทัพ เข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลไปอย่างยิ่งใหญ่


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯยูฯ :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ 6,เวส บราว์น 7,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7 ,เนมันย่า วิดิช,ปาทริซ เอวร่า 7,ดาร์เรน เฟลทเชอร์ 8 ,ไมเคิ่ล คาร์ริค 7,อันแดร์สัน 7(สโคลส์ น.72,6),ปาร์ค จี ซอง 6,เวย์น รูนี่ย์ 8 (ซาฮา น.71),นานี่ 9*

อาร์เซนอล : เยนส์ เลห์มันน์ 6,จัสติน ฮอยท์ 4,วิลเลี่ยม กัลลาส์ 4,โคโล่ ตูเร่ 5,อาร์มันด์ ตูเร่ 4,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 4 ,เชสก์ ฟาเบรกัส 5(ฟลามินี่ น.70,5),กิลแบร์โต้ 5 ,อเล็กซานเดอร์ คเล็บ 5(อเดบายอร์ น.70,5 ),เอดูอาร์โด้ 4 (เซนเดรอส น.71,5),เบนด์เนอร์ 5






















 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากซ๊อคเกอร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์