ไล่ลิงกัง!หงส์ยันปอร์โต้ลิ้นห้อย

ลิเวอร์พูลสะบักสะบอมเอาตัวรอดออกจากเอสตาดิโอ โด ดราเกาอย่างไม่น่าเชื่อหลังถูกเอฟซี ปอร์โต้ขึงเกมอยู่ข้างเดียวและต้องโดนจุดโทษลูกที่สี่ในหกเกมในซีซั่นนี้อีกแล้วยังดีที่เดิร์ค เคาท์โขกตีเสมอเร็วก่อนที่เพนแนนท์จะถูกไล่ออกในครึ่งหลังแต่ก็ยังยันเสมอฉกแต้มสำคัญด้วยสกอร์ 1-1 ในที่สุด

ปอร์โต้ 1-1 ลิเวอร์พูล

สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา

ประตู : 1-0 ลูโช่ กอนซาเลซ น.8 (จุดโทษ) , 1-1 เดิร์ค เคาท์ น.17

เกมเริ่มต้นที่ดราเกา ด้วยความเมามันของเจ้าถิ่นที่เปิดฉากจู่โจมอย่างรวดเร็วก่อนทำเอาทีมเยือนแทบตั้งตัวไม่ติดและหวุดหวิดจะเสียประตูจากความผิดพลาดง่ายๆเมื่อฟินแนนเตะเคลียร์ไม่ดีไปติดกวาเรสม่า ก่อนที่ลูกจะมาเข้าทางลิซานโดร โลเปซ ยังดีที่เปเป้ เรน่าตัดสินใจออกมาดักทางบล็อกลูกยิงของหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ได้ทันเวลา

จากนั้นปอร์โต้ก็มีโอกาสอีกจากลูกวอลเลย์ของกวาเรสม่า
 
ที่เหินข้ามคานไป ก่อนที่ปอร์โต้จะมาได้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 8 เมื่อเซ็คติอุย วิ่งแซงฮูเปียเข้าไปในเขตโทษก่อนจะโดนเรน่า รวบล้ม ผู้ตดสินลูบอส มิเชลเป่าเป็นจุดโทษทันที และลูโช่ กอนซาเลซ ก็สังหารไม่พลาดทำให้ทีม "มังกรน้ำเงิน" ขึ้นนำ 1-0

ลิเวอร์พูล โดนประตูนี้ไปก็พยายามจะรวบรวมเกมกลับมา แต่จังหวะจะโคนยังไม่ลงล็อกดูร้อนรนไปหมด ทว่าในนาทีที่ 17 ก็ยังมาตีเสมอได้ เมื่อฟินแนน วางบอลให้ฮูเปียโขกตั้งกลับเข้ามาถึงเคาท์ โขกจ่อๆเข้าไปตุงตาข่ายให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

หลังจากนั้น
 
ทั้งสองทีมก็สู้กันไปตลอดอย่างสูสีโดยที่เจ้าถิ่นดูดีกว่าในเรื่องของความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะโดยเฉพาะควาเรสม่าที่พลิ้วเกินห้ามใจสุดๆแต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้อีก ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันเหมือนเดิม แม้ว่าในจังหวะลุ้นทำประตูเจ้าถิ่นจะดีกว่าก็ตาม

เข้าสู่ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนตัว

ขณะที่รูปเกมนั้นทางปอร์โต้ ค่อยๆครองบอลเปิดฉากบุกได้มากกว่าโดยเฉพาะกวาเรสม่า ที่โยกไปขึ้นเกมทางฝั่งขวาได้น่ากลัว สามารถเล่นงานอาร์เบลัวจนป่วนไปหมด

แต่แล้วนาทีที่ 58

ลิเวอร์พูลก็ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อเจอร์เมน เพนแนนท์ โชว์ความทุ่มเทแบบไม่เข้าท่าไปเบียดแย่งบอลกับฟูซิเล่ในจังหวะที่บอลกำลังจะออกหลังแล้วไปรวบใส่คู่แข่ง ทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกไป เมื่อเหลือผู้เล่นน้อยกว่า ลิเวอร์พูลก็เริ่มออกอาการรนหนักเข้าไปอีก และเกือบเสียท่าง่ายๆเมื่อเรน่า ออกมาชกบอลไม่ดี กวาเรสม่าเก็บบอลได้ก่อนจะหมุนตัวยิง แต่ยังมีฮูเปียที่เคลียร์บอลได้ก่อนจะเข้าประตู

เฆซูอาลโด้ แฟร์ไรร่า

ไม่รีรออีกส่งมาเรียโน่ กอนซาเลซและเออร์เนสโต้ ฟาริอาส สองตัวรุกลงมาเสริมอีกทันทีกะจะบี้หงส์ให้ตายคาดราเกาให้ได้ ช่วงเวลาส่วนใหญ่เจ้าถิ่นขึงเกมพับสนามเกือบตลอดแต่ลิเวอร์พูลก็โชว์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าแพ็กเกมแน่น ค่อยๆดึงจังหวะเกมให้ช้าลงทำให้ปอร์โต้ยิ่งเล่นยิ่งอึดอัดกันเอง ก่อนที่สุดท้ายจะจบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1