เอลนิญโญ่ดาวยิงเทวดา

เอลนิญโญ่ดาวยิงเทวดา
คอลัมน์โดย : โทริ



เมื่อคืนตื่นขึ้นมาดูฟุตบอลคู่ เวสต์แฮม v ลิเวอร์พูล ตอนเวลาประมาณตี 1 เศษๆ (เวลาของญี่ปุ่น ซึ่งจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) โดยที่เกมเริ่มเตะเวลา 01.30 น. (เวลาที่ไทย 23.30 น.) ถ้าจะให้รอดูโดยไม่นอนก่อนนี่บอกตามตรงครับว่าอาจมีน็อคได้ เนื่องจากเวลาที่นี่เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมงนั่นเอง ที่ญี่ปุ่นเลยไม่มีรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลให้ชมกัน อาจจะเป็นเพราะว่าคนญี่ปุ่นส่วนมากนิยมกีฬาเบสบอลกันเข้าไส้นั่นเอง ฟุตบอลจึงเป็นกีฬาที่รองลงมาอีก คือพูดง่ายๆว่า
ไม่นิยมว่างั้นเถอะ และเมื่อคืนนี้ถือเป็นการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วอินเตอร์เน็ตระดับ 50 mb ว่ามันจะแรงสักแค่ไหนกัน

ลิเวอร์พูลที่เพิ่งผ่านเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์มา มีโอกาสได้พักผ่อนแค่ 2 วัน เท่านั้น ในขณะที่ไม่ว่าจะเชลซีหรือแมนฯยู คู่แข่งสำคัญกับได้พักตั้ง 4 วันเต็มๆ เออนะ...คิดดูแล้วเหมือนจัดโปรแกรมแกล้งกันยังไงยังงั้นเลย ...พับผ่าซิ...เกมนี้เลยออกไปเยือนถิ่น อัพตัน ปาร์ค ของเวสต์แฮม ด้วยสภาพความฟิตที่เป็นรองหลายขุมทีเดียว

บทสรุปจากเกมับเวสต์แฮมเมื่อคืนนี้ นับเป็นเกมที่ยากลำบากอีกเกมหนึ่งของลิเวอร์พูล เมื่อนักเตะหลายกันต่างพากันฟอร์มตก ที่เห็นกันชัดๆเลยคือคู่กองหลังอย่างคัมภีร์ลูกหนังเจมี่ คาร์ราเกอร์ และไอ้พรีเดเตอร์มาร์ติน สเคอร์เทล ที่ทำให้แฟนบอล เดอะค็อป ได้นั่งกัดนิ้วลุ้นกันกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะรายแรกนั้น จากการกรำศึกหนักมาอย่างยาวนาน กอปรกับอายุที่ปาเข้าไป 31 ปีกว่าๆ คาร์ราเกอร์ในวันนี้ช่างไม่เหลือภาพความเก๋าของคาร์ร่าคนเดิมเหลืออยู่เลย ถ้าหากไม่ได้พระเอกฟอร์มเทวดา เฟอร์นันโด ตอร์เรส ยิงช่วยทีมไว้ในนาทีที่ 75 ของเกมแล้วล่ะก็ รับรองคาร์ร่าโดนสวดเละแน่นอน กับ 3 จังหวะที่คนเดียวพลาดเต็มๆ จังหวะสปีดของคาร์ร่านั้นต้องบอกว่าช้ามากๆ ช้ากว่าคาร์ตัน โคล กองหน้าเวสต์แฮม 1 จังเลยก็ว่าได้ ส่วนสเคอร์เทลนั้นจังหวะสกัดบอลมีเสียวตลอดเหมอนกัน แต่ก็ยังพอเอาตัวรอดมาได้ เราจึงไม่ค่อยได้เห็นเกล็น จอห์นสันขึ้นมาเต็มเกมรุกบ่อยๆเหมือนเดิม เนื่องจากต้องคอยพะวงกับ 2 เซ็นเตอร์แบ็กของทีมนั่นเอง ในขณะที่กัปตันทีมตัวเก่งนั้น เป็นอีกเกมที่สตีวี่จีฟอร์มดาวน์ลงไป ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะการที่ได้พักมาน้อยนั่นเอง หลังจากที่ต้องวิ่งเป็นม้าในเกมเมื่อกลางสัปดาห์กับเดเบรเซ่น สรุปแล้ว เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและเดิร์ก เค้าท์ ที่ฟอร์มการเล่นต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง

ในขณะที่ ลูคัส เลว่า มีเกมที่ดีในเกมนี้ทั้งการช่วยตัดเกมและทำเกมรุกทำได้ดีทีเดียว และเริ่มจะพัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว ในขณะที่เอมิลิอาโน่ อินซัว นั้นก็ทำหน้าที่ทางฝั้งซ้ายได้อย่างดี เกมรับไม่มีพลาด แถมยังคอยช่วยเหลืองานของเบนายูน และ เจอร์ราร์ด ได้ตลอดเกมทีเดียว เบนายูนก็พาแบ็กขวาของเวสต์แฮมทัวร์ตลอดเกมเหมือนกัน ส่วนฮาร์เวียร์ มาสเคราโน่กับเกล็น จอห์นสันนั้น ก็เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง

แต่พระเอกในงานของเราต่างหากล่ะที่ฟอร์มเทวดาจริงๆสำหรับ เอลนิญโญ่เฟอร์นันโด ตอร์เรส ที่ยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูลบุกเฉือนชนะเวสต์แฮมถึงถิ่นอัพตัน ปาร์ค ได้แบบหืดจับ 2-3 และนับว่าเป็น 3 แต้มที่ล้ำค่าเหลือเกิน

ประตูแรกที่ตอร์เรสยิงให้ทีมขึ้นนำ 0-1 นั้นต้องบอกว่าคลาสสิค เป็นการโชว์ความสามารถเฉพาะตัว ลากบอลเข้าไปจิ้มแสกหน้า โรเบิร์ต กรีน เสียบเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม ส่วนประตูที่ 3 นั้น ก็เป็นการเปิดบอลอย่างเหมาะเหม็งของ ไรอัน บาเบล ให้ตอร์เรสเทกตัวขึ้นโขกเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ไม่เพียงแค่นั้น เกมนี้ตอร์เรสยังขยันเหลือเกิน ทั้งปั่นป่วนกองหลังเวสต์แฮม จนแดเนี่ยล แก็บบิดอน กับ เจมส์ ทอมกิ้นส์ถึงกับเสียหมาไปหลายครั้งเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้น ดาวยิงแก้มแดงยังขยันวิ่งไล่บอลทำลายเกมของเวสต์แฮมได้หลายต่อหลายครั้ง

ผ่านไป 6 นัด กับผลงานการถลุงตาข่ายไป 5 เม็ดของดาวยิงไฟพะเนียง เฟอร์นันโด ตอร์เรส บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าฟอร์มเทวดากลับมาแล้ว และทำให้เจ้าตัวขึ้นมาติดชาร์จอันดับ 1 ร่วมดาวซัลโวอยู่ ณ เวลานี้ นับเป็นการฉลองการเปิดตัวหนังสืออัตชีวะประวัติของตอร์เรสเอง ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้อย่างงดงามเลยทีเดียว


ลิเวอร์พูลทำผลงานชนะรวด 4 นัดติดต่อกัน (1 นัดในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก) มี 12 คะแนน ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตารางชั่วคราวแล้ว แล้วคืนนี้เราจะมาติดตามกันว่า 2 บิ๊กแม็ตช์ ศึกดาร์บี้แมตช์ ทั้ง 2 คู่ ทั้งคู่ของแมนฯยู v แมนฯซิตี้และ เชลซี vสเปอร์ ผลการแข่งขันจะเป็นใจให้ลิเวอร์พูลได้มากหรือน้อยขนาดไหน มันช่างน่าติดตามยิ่งนัก










ที่มา LIVERPOOLTHAILAND.COM

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์