ลิเวอร์พูลโฉมใหม่ : คุยสบายๆ สไตล์ เอกราช เก่งทุกทาง

คอลัมน์ คุยสบายๆ สไตล์ เอกราช เก่งทุกทาง

ดูฟอร์มจากนัดอุ่นเครื่องมาหลายนัด ก็พอจะเห็นแล้วนะครับว่า พรีเมียร์ลีกอังกฤษปีนี้น่าจะมีอะไรใหม่ๆ ให้ตื่นเต้นกันแน่

ถึงเต็งแชมป์จะเป็นเชลซี แต่ผู้ท้าชิงคนสำคัญอาจเป็นลิเวอร์พูล

การคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อนทำให้หงส์แดงเติบโตแบบก้าวกระโดด จากทีมสร้างใหม่กลายเป็นทีมที่เล่นกันอย่างมั่นใจและพัฒนาขึ้นแทบทุกด้าน

ลิเวอร์พูลตอนนี้ไม่ใช่พวกวันแมนโชว์ หวังพึ่งซูเปอร์สตาร์ สตีเว่น เจอราร์ด เหมือนเมื่อก่อน แต่สามารถยืนหยัดด้วยตัวเอง รู้จักเล่นเป็นทีม ใช้ระบบการเล่นและแท็กติกเป็นหัวใจ ซึ่งถือว่าใช่เลย สำหรับการสร้างพื้นฐานเพื่อก้าวไปสู่จุดสุดยอด

มันก็ถูกที่หงส์แดงคือแชมเปี้ยนของยุโรป แต่ทุกคนก็ยอมรับความจริงว่า เรื่องนั้นเป็นปรากฏการณ์นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง แถมมีวาสนาเข้ามาเอี่ยวอีกต่างหาก

ในความเป็นจริง การคว้าแชมป์ยุโรปน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสำหรับลิเวอร์พูลซะมากกว่า เส้นทางไกลแค่ไหนไม่รู้ แต่มันก็เริ่มแล้วแหละครับ

นอกจากเล่นเป็นทีมดีขึ้น จุดแข็งยังกลายเป็นเกมรุก แทนที่จะเป็นเกมรับแนวบุกของลิเวอร์พูลไม่น้อยหน้าทีมไหนทั้งนั้น หลังจากราฟา เบนิเตซ ตั้งใจเสริมความเฉียบขาดตั้งแต่กองกลางยันกองหน้าแบบเน้นเป็นพิเศษ การเข้ามาของ เบาเดไวน์ เซนเด้น โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ รวมทั้งปีเตอร์ เคราซ์ จะทำให้ทีมครบเครื่องกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะเรื่องการเก็บบอล ครองบอล ซึ่งเล่นกันไม่ชัวร์เมื่อปีก่อน ตอนนี้ราฟาแก้ปัญหาแล้ว ใครได้ดูลิเวอร์พูลเล่นช่วงพรีซีซั่นก็คงเห็นว่าลีลาผิดหูผิดตาไปเยอะจริงๆ

กองกลางจะเป็นหัวใจในการตัดสินเกมส่วนใหญ่ค่อนข้างแน่

แล้วมิดฟิลด์หงส์แดงก็ไม่ใช่แค่ทำเกมบุกดีขึ้น แน่นอนขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเพรสซิ่ง ไล่บีบพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและดุดันอีกต่างหาก

เห็นแบบนี้ก็เลยไม่แปลก ถ้าราฟาจะอัดกองกลางเข้าไปถึง 5 คน เหลือกองหน้าตัวเป้าแค่คนเดียวในบางนัดที่ต้องการเน้นผลการแข่งขันจริงๆ

ลิเวอร์พูลคงฟันแต้มได้มากกว่าเดิม และฟอร์มนอกบ้านก็ไม่น่าจะโหลยโท่ยเหมือนปีก่อนอีก

ถ้าจะสรุปภาพรวม ก็ต้องบอกว่า หงส์แดงเล่นกันฉลาด นักเตะหลายคนปรับตัวเข้ากับเกมของกุนซือได้ดีกว่าเดิม แม้กระทั่ง มิลาน บารอส ที่เคยก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลุยไปคนเดียว ก็รู้จักเงยหน้ามองหาเพื่อน ปล่อยให้บอลวิ่งแทนคนบ้างแล้ว

อย่างเดียวที่น่าห่วงกลับเป็นแผงกองหลัง เกมรับซึ่งเคยอุ้มทีมมาตลอด ช่วงหลังๆ ชักจะมีช่อง มีบ่อ โดนเจาะทะลวงเข้ามาได้ง่ายๆ จนผิดวิสัยลิเวอร์พูล

ราฟา เบนิเตซ เองก็แทบไม่เปลี่ยนแนวรับไปเลย นอกจากซื้อ โฆเซ่ เรน่า เข้ามาเป็นประตูคนใหม่ กองหลัง 4 คนยังเป็นหน้าเดิมๆ ซึ่งก็มีทั้งพวกที่ฟอร์ม ดีขึ้นและย่ำแย่ลง

ผมว่าเจ้า ฌิมมี่ ตราโอเร่ ที่แฟนบอลหงส์แดงไม่ค่อยเชื่อน้ำยา จะค่อยๆ ยกระดับฝีเท้าจนกลายเป็นความหวังของทีม คล้ายๆ กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ในปัจจุบัน

แต่คนที่กำลังตกอย่างน่าเสียวไส้กลับเป็น ซามี่ ฮูเปีย

ฮูเปียส่อแววร่วงมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ยิ่งเกมไหนเจอกองหน้าเร็วๆ ก็ยิ่งเห็นชัดว่า เขาเชื่องช้าลงไปมาก ช้าถึงขนาดโดนกระชากหนีแบบฉีกกระจุยก็ยังมี

จากกองหลังตัวหลักซึ่งทีมเคยพึ่งพามาตลอด ตอนนี้ซามี่ ฮูเปีย ต้องอาศัยเจมี่ คาร์ราเกอร์ ช่วยซ้อน ช่วยประคองไปเรียบร้อย

ถ้าลิเวอร์พูลต้องการลุ้นแชมป์กับเชลซีอย่างจริงๆ จังๆ ต้องรีบหาเซ็นเตอร์ฮาร์ฟเจ๋งๆ มาช่วยด่วนเลยแหละ