หงส์จ๊าก!รีเซ่ยิงตัวเองทดเจ็บทำเจ๊าสิงห์บลูส์1-1

ยกแรกศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือกระหว่าง ลิเวอร์พูล ปะทะ เชลซี จบลงด้วยความตื่นเต้นสูสี โดยต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กันตลอด และเป็นเจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายยิงทั้งสองประตูในเกมนี้แต่จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 เมื่อ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ทำเข้าประตูตัวเองในช่วงทดเวลา แม้ว่าหงส์แดง จะนำก่อนจาก เดิร์ก เค้าท์ ตั้งแต่ครึ่งแรกก็ตาม


ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

วันอังคารที่ 22 เม.ย.51

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1 - 1 เชลซี (อังกฤษ)


สนาม : แอนฟิลด์


ที่สังเวียนแอนฟิลด์ สองคู่แค้นของเมืองผู้ดี โคจรมาห้ำหั่นกันอีกครั้งโดยทางด้าน ลิเวอร์พูล มีกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด หายเจ็บกล้ามเนื้อคอลงเล่นได้ แต่ ซามี่ ฮูเปีย ไม่ฟิตพอต้องนั่งเป็นตัวสำรอง


สำหรับ เชลซี ขาด มิชาเอล เอสเซียง ที่ติดโทษแบน กระนั้น ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็พ้นจากปัญหาถูกอาการบาดเจ็บรบกวนแล้ว เช่นเดียวกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่กลับคืนสู่ทีมแม้คุณแม่จะล้มป่วยอยู่ แต่มีพลิกโผ ฟลอร็องต์ มาลูด้า เบียดทั้ง ซาโลมง กาลู กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า ให้หล่นไปนั่งข้างสนาม


เริ่มเกมมาได้แค่สามนาที เดอะค็อป ก็ต้องเสียววาบเมื่อผู้ตัดสินเป่าว่า เจมี่ คาร์ราเกอร์ ทำฟาวล์ ดร็อกบา หน้าเขตโทษด้านขวา กองหน้าไอวอรี่ โคสต์ จึงวิ่งเข้าตะบันลูกฟรีคิกระยะ 24 หลาเองแต่บอลพุ่งชนกำแพง


ผ่านมาถึงนาทีที่ 8 เจ้าบ้านก็มีโอกาสเช่นกันจากจังหวะที่ ไรอัน บาเบิล พยายามควบบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายแต่ถูกสกัดเอาไว้แล้วบอลทะลักมาให้ เจอร์ราร์ด สับไกระยะ 23 หลา ทว่าเบาเกินกว่าที่จะผ่านมือของปีเตอร์ เช็ก


จากนั้นในนาทีที่ 15 หงส์แดง ก็น่าจะออกนำอย่างยิ่งเมื่อ ชาบี อลอนโซ่ จ่ายบอลยาวจากแดนตัวเองได้อย่างคมกริบให้ เดิร์ก เค้าท์ หลุดเข้าเขตโทษไปพักอกและเตรียมง้างไกแล้วแต่ เช็ก ออกมาบล็อกทัน ก่อนที่ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ จะตามไปช่วยเคลียร์ทิ้ง


เกมโดยรวมยังเป็นไปอย่างสูสี แต่ถึงนาทีที่ 20 อัลบาโร่ อาร์เบลัว แบ็กขวา ลิเวอร์พูล ก็เล่นพลาดผ่านบอลเข้ากลางแย่หลังโดน แอชลี่ย์ โคล ตามบีบทำให้ แลมพาร์ด ฉกไปวางยาวเข้าเขตโทษด้านขวาทันที แต่ โจ โคล กระโดดวอลเลย์วืดอย่างน่าเสียดาย


ถัดจากนั้นก็เป็น เร้ด แมชีน ที่เริ่มเดินหน้าได้ดีขึ้นคุมสถานการณ์เอาไว้ กระทั่งนาทีที่ 31ก็สบโอกาสทองฝังเพชรเมื่อ เจอร์ราร์ด กระดกบอลเร็วเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดเดี่ยว แต่จังหวะสังหารของกองหน้ากระทิงระยะสิบหลาถูก เช็ก บล็อกได้อย่างน่าใจหายใจคว่ำ


เจ้าถิ่นกดดันอาคันตุกะได้มากขึ้นทุกทีทำเอาแนวรับ เชลซี ระส่ำระสายอย่างเห็นได้ชัดไม่อาจหาช่องโต้กลับได้เลย และสุดท้ายนาทีที่ 43 จากลูกฟรีคิกแถวกลางสนามของ ลิเวอร์พูล ที่ จอห์น เทอร์รี่ โขกทิ้งออกมา แลมพาร์ด ครองบอลนานจึงถูกรุมบีบแล้ว ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ได้วอลเลย์จากแถวสองแป๊กหัวเกือก แต่กลายเป็นดีบอลลอยเข้าเขตโทษด้านขวาโดยที่ โคล้ด มาเกเลเล่ กระโดดสกัดไม่ถูกจึงเปิดโอกาสให้ เดิร์ก เค้าท์ ได้กระทุ้งระยะหกหลาผ่าน เช็ก เข้าตุงตาข่ายที่เสาแรกพา เครื่องจักรสีแดง ผงาดนำ 1-0 ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะยุติ


ครึ่งหลังหงส์แดงได้ลุ้นก่อน อลอนโซ่ลองยิงไกลจากนอกกรอบ ส่งบอลแฉลบกองหลังเชลซีหลุดกรอบออกไปนิดเดียว


ต่อด้วยชอตที่บาเบลอัดไกลจากระยะ 30 หลา บอลพุ่งไซด์หลุดกรอบออกไปอีก


เชลซีมีลุ้นตีเสมอเมื่อ ฟลอร็องต์ มาลูด้าหลุดขึ้นไปทางซ้าย แต่จังหวะยิงโดนมาสเคราโน่พุ่งมาบล็อกไว้ได้อย่างหวุดหวิด


เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้านแต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซาโลมง กาลู ตัวสำรองที่ลงมาแทน บัลลัค ได้เปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามากลางประตู ให้ อเนลก้า แต่ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ตัวประกบกลับก้มลงไปโหม่งบอลผิดเหลี่ยมกลายเป็นเข้าประตูตัวเองให้ เชลซี ตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนหมดเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น


จากนั้นแค่อึดใจกรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันทำให้จบเกมแรกทั้งสองทีมเสมอกันสนุก 1-1 ต้องไปลุ้นกันต่อนัดสองที่บ้านของเชลซี


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่ - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม), ไรอัน บาเบล - เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง : ชาร์ลส์ อิต็องด์เช่ (ผู้รักษาประตู), ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ยอสซี่ เบนายูน, ปีเตอร์ เคร้าช์, เจอร์เมน เพนแน้นท์, ลูคัส เลยว่า


เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรร่า, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), แอชลี่ย์ โคล - โคล้ด มาเกเลเล่ - โจ โคล, มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
สำรอง : เฮนริเก้ ฮิลาริโอ (ผู้รักษาประตู), อังเดร เชฟเชนโก้, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมง กาลู, อเล็กซ์, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ, นิโกล่าส์ อเนลก้า


ผู้ตัดสิน : คอนราด เพล้าท์ซ (ออสเตรีย)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์