ไม่แคร์สื่อ!เจทีโขกท้ายเกมเชลซีเฮ 2-1 ทิ้งผี 4

ไม่แคร์สื่อ!เจทีโขกท้ายเกมเชลซีเฮ 2-1 ทิ้งผี 4

ท่ามกลางเสียงโห่ทั้งสนามของแฟนบอลเบิร์นลี่ย์แต่จอห์น เทอร์รี่ แข้งท้ายครัวไม่หวั่นขึ้นมาโขกประตูชัยสุดสำคัญให้เชลซีบุกมาชนะเบิร์นลี่ย์ถึงเทิร์ฟ มัวร์ 2-1 ทิ้งห่างแมนฯยูไนเต็ดรองฝูงที่ต้องไปชนช้างกับอาร์เซน่อลวันอาทิตย์ 4 แต้ม

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2553


เบิร์นลี่ย์ 1-2 เชลซี

ประตู : 0-1 นิโกล่าส์ อเนลก้า น.27 , 1-1 สตีเฟ่น เฟล็ตเชอร์ น.50 , 1-2 จอห์น เทอร์รี่ น.82


อันเช่ยังไร้แข้งกาฬทวีป
เกมนี้ถือเป็นด่านสุดท้ายของเชลซีในเงื่อนไขไร้แข้งแอฟริกันโดยคาร์โล อันเชล็อตติจัดหมากแปลกยัดกองกลางไป 5 คนโดยให้แลมพาร์ดกับบัลลัคคอนโทรลแดนกลางคู่กันขณะที่เชียร์คอฟกับมาลูด้าคอยฉีกเกมออกซ้าย-ขวาโดยมีโจ โคล มิดฟิลด์หน้าหล่อคอยสนับสนุนนิโกล่าส์ อเนลก้า

เบิร์นลี่ย์ยังแกร่งในบ้าน-ผี,ปืนร่วมลุ้นตัวสั่น
สำหรับสถิติในบ้านของเบิร์นลี่ย์ 5 นัดหลังสุดยังคงขลังเช่นเดิมโดยชนะ 1 นัดเหนือฮัลล์ 2-0 และเสมออีก 4 เกมซึ่งประกอบไปด้วยการยันทีมอย่างแอสตัน วิลล่า , อาร์เซน่อล , ฟูแล่ม และโบลตันได้ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งหมด

และเกมนี้ถือว่าสำคัญสำหรับคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและอาร์เซน่อลมากเพราะหากเชลซีเอาชนะได้ตามคาดจะทำให้ สิงห์ไฮโซ กวดสี่เท้าหนีไปเป็น 4 แต้มซึ่งถ้ารวมอีก 3 แต้มเกมตกค้างกับฮัลล์(ซึ่งพลาดยาก) ก็จะทำให้เชลซีมีแต้มนำโด่งถึง 57 แต้ม ดังนั้นถ้าเกมนี้ทีมเยือนเข้าวินก็จะทำให้ผู้เพลี่ยงพล้ำในเกม ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ปืน -ผี วันอาทิตย์นี้ตามหลังถึง 7-8 แต้ม และจะทำให้โอกาสไปลุ้นแชมป์แทบจะริบหรี่ทันที

ครึ่งแรก

ซ้ายเบิร์นลี่ย์เป็นบ่อน้ำมันดูไบ
เริ่มมา 7 นาทีเกมรับด้านซ้ายของเบิร์นลี่ย์หลวมโพรกปล่อยให้โจ โคลและอเนลก้าเลี้ยงจี้เข้าไปเปิดสบายอารมณ์สองรอบแล้วแต่ยังโชคดีที่ไม่มีจังหวะจบ

หลังเบิร์นลี่ย์พลาดง่ายๆแบบนี้โอกาสเสียประตูสูงแน่ นาทีที่ 8 คาเวเนสโหม่งเคลียร์บอลของเชลซีพลาด แลมพาร์ดตัดบอลได้แล้วจ่ายแทงออกขวาให้อเนลก้าคืนเน้นๆให้แลมพาร์ดซัดแต่เหินข้ามคาน

นาทีต่อมาหลังเบิร์นลี่ย์ยังหลวมต่อปล่อยให้โคลหลุดเข้ามาในเขตโทษจากด้านขวาเหมือนเคยก่อนจิ้มสั้นๆให้อเนลก้าวิ่งเข้ายิงแต่หวดลมเข้าเต็มฟอด !

JT โดนแซว
เวปไซท์ ESPN รายงานว่าตอนนี้แฟนบอลเจ้าบ้านตะโกนแซวเทอร์รี่ใหญ่ Same Old Terry , Always Cheating(นิสัยเดิมๆว่ะเทอร์รี่ ขี้โกงตลอดเวลา : ในที่นี้น่าจะกล่าวถึงข่าวที่ JT แอบไปตีท้ายครัวเวย์น บริดจ์ด้วย)

ผ่านไป 20 นาทีต้องบอกว่าเบิร์นลี่ย์สู้ได้ดีเพรสซิ่งเข้าหาบอลแถมยังเซทเกมไปบุกสู้กับเชลซีได้อีกต่างหาก ส่วนทีมเยือนยังตั้งเกมไม่ได้แต่ก็อาศัยจังหวะถ่ายบอลแม่นๆรอสวนเป็นระยะแต่ก็ยังไม่ได้ผล

ตามเคย!นิโก้ชาร์จสบายเชลซีลิ่ว 1-0
ไม่รอดสันดอนสำหรับเกมรับด้านซ้ายของเบิร์นลี่ย์ที่รั่วตลอดศกในนาทีที่ 27 คราวนี้เป็นโจ โคลที่หลุดเข้ามาทางด้านขวาแล้วชิพบอลเข้าเขตโทษโดยมีเมียร์สพยายามจะโขกสกัดแต่กะจังหวะพลาด มาลูด้าเลยเลียปากวิ่งเติมเข้าไปแล้วปาดกลับให้อเนลก้าวิ่งเดี่ยวๆมาเข้าชาร์จไม่เหลือซาก ทีมเยือนนำจนได้ 1-0

เบิร์นลี่ย์ทิ้งโอกาสอันน้อยนิด
โอกาสมีน้อยแล้วก็ทำพลาดอีก นาทีที่ 31 ไทรอน เมียร์สเติมขึ้นมาด้านขวาแล้วถ่ายบอลย้อนให้เอลเลียตต์เปิดเรียดเข้าไป แอชลี่ย์ โคลสกัดไม่ขาดบอลไหลมาเข้าทางบิเคย์ที่วิ่งเข้ายิงแต่เหินข้ามคานไปไกลหมื่นลี้

40 นาทีตอนนี้เบิร์นลี่ย์เล่นบอลสะเปะสะปะส่วนเชลซีครองเกมได้หมดตามฟอร์ม

และครึ่งแรกก็จบลงด้วย สิงห์ไฮโซ ทีมเยือนนำ 1-0 ชนิดที่ว่าถ้าครึ่งหลังไบรอัน ลอว์สแก้เกมไม่ได้แล้วรูปเกมยังเป็นแบบนี้โอกาสเก็บแต้มได้ถือว่ายากจริงๆ

ครึ่งหลัง

เฟล็ตเชอร์สุดทรีนส์!!!!!เกี่ยวโคตรสวยตีเจ๊า 1-1
ขึ้นชื่อว่าเทิร์ฟ มัวร์เบิร์นลี่ย์ไม่ตายง่ายๆ นาทีที่ 50 เบล็คชิพบอลเข้าเขตโทษให้เฟล็ตเชอร์เกี่ยวหลบอเล็กซ์อย่างสวย ท้ายสุดอเล็กซ์มาบังได้แต่ดันทำบอลลั่น เฟล็ตเชอร์เลยขโมยเอาไปอีกทีแล้วยิงเรียดผ่านเช็กเข้าไปอย่างสุดยอด เจ้าบ้านตีเสมอแล้วเป็น 1-1

พอโดนตีเสมอคราวนี้เชลซีเร่งเกมกดดันโหมบุกตามฟอร์ม และนาทีที่ 55 โจ โคลโขกเผาขนส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายแต่ล้ำหน้าไปซะก่อน

เชลซียังคงต่อเกมไล่กดดันเรื่อยๆ นาทีที่ 64 แพ็ทเทอร์สันไปเตะโฉ่งฉ่างใส่อเนลก้าในระยะหวังผล แล้วเป็นแลมพาร์ดรับหน้าที่ยิงแต่แยนเซ่นยังเซฟไว้ได้

อีเกิ้ลส์ได้ส่อง
นานๆเบิร์นลี่ย์จะบุกขึ้นมาซักทีและนาทีที่ 66 อีเกิ้ลส์ได้บอลทางซ้ายก่อนล็อกเข้าขวาแล้วยิงไกลแต่บอลเข้ามือเช็กสบายๆ

มาลูด้าลุยเข้ายิงข้ามคาน
ใจสู้จริงๆสำหรับมาลูด้า นาทีที่ 77 เขาได้บอลตรงกลางสนามแล้วฝืนเลี้ยงลุยเข้าไปโดยมีเบิร์นลี่ย์ 3 คนคอยคุมอยู่ข้างหน้าสุดท้ายปีกเฟร้นช์แมนเสี่ยงยิงแต่บอลข้ามคาน

โห่ได้โห่ไป!JT โขกโล่งๆพาเชลซีจ่อคว้า 3 แต้ม
ทีมไหนเกมรับไม่แน่จริงต้านเชลซีไม่มีทางอยู่ สุดท้ายนาทีที่ 82 แลมพาร์ดเปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้เทอร์รี่ที่ยืนโล่งๆได้เกร็งคอโขกเน้นๆ แม้แยนเซ่นจะปัดแต่ก็ไม่พ้นเคราะห์ ทีมเยือนนำจนได้ 2-1

อีเกิ้ลส์ได้เสียวอีกที
เบิร์นลี่ย์ยังไม่ยอมแพ้ขอบุกสู้เท่าที่ทำได้ จนนาทีที่ 87 อีเกิ้ลส์ได้บอลทางซ้ายแล้วลองยิงไกลเหมือนเดิมแต่คราวนี้เฉี่ยวเสาออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือเบิร์นลี่ย์ไม่มีโอกาสจะเอาคืนแล้วเพราะเชลซีก็นวดไปเรื่อยจนหมดเวลาเอาชนะไปได้ 2-1 แชมป์พรีเมียร์ลีกลอยเตะตามาแล้วเพราะนำแมนฯยูไนเต็ด 4 คะแนน มีเกมอยู่ในมือหนึ่งนัดกับฮัลล์ และนั่งกินถั่วลุ้นผล ปีศาจแดง ตัดแต้มกันเองกับอาร์เซน่อลอย่างสบายอุรา


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบิร์นลี่ย์ : ไบรอัน แยนเซ่น , ไทรอน เมียร์ส , คริสเตียน คัลเวเนส(เจ็บ)(ดาวิด เอ็ดการ์ น.35) , คล้าร์ก คาร์ไลส์ , ลีออน คอร์ต , อังเดร บิเคย์ , เควิน แม็คโดนัลด์(มาร์ติน แพ็ทเทอร์สัน น.60) , คริสโตเฟอร์ อีเกิ้ลส์ , ร็อบบี้ เบล็ค(สตีเว่น ธอมป์สัน น.72) , สตีเว่น เฟล็ตเชอร์ , เวด เอลเลียตต์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , อเล็กซ์ , จอห์น เทอร์รี่ , แอชลี่ย์ โคล(เจ็บ)(เดโก้ น.77) , มิชาเอล บัลลัค , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , ฟลอร็องต์ มาลูด้า , โจ โคล(แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.72) , ยูริ เชอร์คอฟ , นิโกล่าส์ อเนลก้า















_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์