โอกาสสำหรับพรีเมียร์ลีกจะเป็นของใคร !!!???

ฟุตบอล.. ปีใหม่นี้มีคิวฟุตบอลแอฟริกัน เนชั่น คัพ ลงเตะโดยหลายทีมในพรีเมียร์ลีกก็ต้องสูญเสียผู้เล่นตัวหลักหลายคนเพื่อไปรับใช้ชาติ

ที่หนักหน่อยและคงสงสารไม่น้อยคงเป็น ปอร์ทสมัธ ของอดีตกุนซือสิงห์บลูอย่าง อาฟรัม แกรนท์ ที่ปัจจุบันรั้งอันดับสุดท้ายของตารางและยังจะต้องมาเสียนักเตะถึง 6 คนในการแข่งขันครั้งนี้ !!

ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมคนไหนๆ พอเจอเรื่องแบบนี้เข้าไปคงเครียดเป็นเรื่องธรรมดา..

ส่วนทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี ต้องใช้ชีวิตโดยปราศจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา , ซาโลมอน คาลู ให้กับ ไอวอรีโคตส์.. จอห์น โอบิ มิเกล ของ ไนจีเรีย และ ไมเคิล เอสเซียง หลังจากหายเจ็บคงต้องรีบไปเข้าแคมป์ของ กานา ทันที

ทางฝั่ง อาร์เซน่อล ก็มีข่าว อาร์เซน เวงเกอร์ ออกมาบ่นเหมือนกันว่าการเสีย อเล็กซ์ ซง ไปประสิทธิภาพในแดนกลางคงแกว่งในระดับหนึ่งแถม เอมมานูเอล เอบูเอ้ ต้องไปแทคทีมกับพี่แมลงสาบในเกมทีมชาติอีกต่างหาก

แต่กลับกัน แมนยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ไม่มีผู้เล่นแถบแอฟริกาแม้แต่คนเดียวทำให้เตรียมกางปีกไล่เก็บแต้่มในช่วงเวลาดังกล่าวให้คุ้มค่ามากที่สุด

ตามตารางคะแนนแล้วถ้าเกิดเกมที่ อาร์เซน่อล แข่งน้อยกว่าทีมอื่น 1 นัดสามารถเอาชนะได้จะทำให้ เชลซี เป็นจ่าฝูงโดยมีไอ้ปืนใหญ่ไล่จี้เป็นอันดับ 2 และตามแค่แต้มเดียวเท่านั้น

เกมพรีเมียร์ลีกมันเป็นเรื่องของโอกาสและจังหวะจริงๆ เพราะถ้ามีไอ้สิ่งที่เรียกว่า โอกาส เมื่อไหร่แต่ทำมันไม่ได้คงต้องน้อมรับกับความเจ็บปวดที่ตามมาเหมือนความต่างชั้นของฟุตบอลเวลาทีมเล็กเจอทีมใหญ่

ช่วงที่ เชลซี ฟอร์มแรงชนะ 5 นัดรวดในลีกและไม่เสียประตูให้ใครคือ 15 แต้มที่เก็บได้แถมหนีคู่แข่งในชนิดที่เรียกว่ามีสิทธิ์ที่จะนำม้วนเดียวจบ

หลังจากวันที่ทัพสิงโตน้ำเงินครามบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ถึงบ้านทำให้ดูเหมือนว่า พรีเมียร์ลีก ปีนี้ได้กาชื่อของ เดอะ กันเนอร์ ออกไปแล้ว..

แต่ถึงปัจจุบันช่วงก่อน บ็อคซิ่ง เดย์ ทั้ง เชลซี และั แมนยูไนเต็ด ต่างฟอร์มตกด้วยกันทั้งคู่.. หลังจากที่ทัพปีศาจแดงแพ้ให้กับ ฟูแล่ม 3 - 0 เหมือนเป็นจุดสำคัญของฤดูกาล

ถ้าเกมที่ เชลซี พบกับ เวสต์แฮม เป็นฝั่งของ สิงห์บลู ที่ได้เฮคงกินแต้มขาดนำ แมนยูไนเต็ด 6 แต้มไปเรียบร้อยแล้ว..

พอไม่.. มันก็เหมือน เชลซี ทิ้งโอกาสไปโดยปริยาย.. สะดุดต่อด้วยการเสมอกับ เบอร์มิ่งแฮม นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ได้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงและเป็นการโยน โอกาส ให้กับ อาร์เซน่อลอีกครั้ง !!

คนเราเวลาจะทำอะไรต้องตั้งเป้าหมายเอาไว้เสมอ.. เช่นกัน เชลซี หวังโกยคะแนนหนีห่างทุกทีมก่อนถึงช่วง แอฟริกัน เนชั่น คัพ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถึงตอนนี้จุดเปลี่ยนที่ว่าเหมือนกับถูกโยนไปมาเพราะ อาร์เซน่อล ที่กำลังแรงก็ต้องคิดหนักจากการขาด อเล็กซ์ ซง กับ เอบูเอ้.. พวกเขาขาดผู้เล่นหลักไม่เท่าไหร่แต่ แมนยูไนเต็ด ฟิตปั๋งหวังดึงโมเมนตั้มของเกมมาไว้ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด เพื่อป้องกันแชมป์อีกสมัย..

ไม่ใช่แค่นั้น.. สเปอร์ กับ แมนซิตี้ ที่กำลังลุ้นแย่งพื้นที่ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก ก็ต้องเสียนักเตะในศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ เหมือนกันแต่บังเอิญว่า ลิเวอร์พูล ไม่เสียใคร !!

ดีไม่ดีบัลลังก์ บิ๊ก 4 ที่เริ่มสั่นๆ ในตอนนี้อาจจะอยู่ต่อไปอีกปีก็ได้ใครจะไปรู้ ?


นักเตะที่ต้องไปทำศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ

6: Portsmouth (Kevin-Prince Boateng, Nadir Belhadj, Hassan Yebda, John Utaka, Nwankwo Kanu, Aruna Dindane)
4: Chelsea (Michael Essien, Didier Drogba, Salomon Kalou, John Mikel Obi)
3: Man City (Kolo Toure, Emmanuel Adebayor, Kelvin Etuhu)
3: Hull City (Kamel Ghilas, Daniel Cousin, Seyi Olofinjana)
2: Arsenal (Alex Song, Emmanuel Eboue)
2: Tottenham (Sebastien Bassong, Benoit Assou-Ekotto)
2: Everton (Joseph Yobo, Ayegbeni Yakubu)
2: Fulham (John Pantsil, Dickson Etuhu)
1: Aston Villa (Moustapha Salifou)
1: Sunderland (John Mensahtoke, Mamady Sidibe)
1: Bolton (Danny Shittu)
1: Burnley (Andre Bikey)
1: Wigan (Richard Kingson)
1: Wolves (George Elokobi)
0: Man Utd
0: Liverpool
0: West Ham
0: Birmingham
0: Blackburn

ขอบคุณข้อมูลจาก telegraph
Petrboat