มูรินโญ่เชื่อป้องกันแชมป์ไม่ใช่เรื่องง่าย

โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมเนี๊ยบของ เชลซี
ยอมรับว่าการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ชิพ ในฤดูกาลใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้เพิ่งประเดิมคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ด้วยการชนะ อาร์เซน่อล 2 -1
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เชื่ออนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน และไม่ควรนำเกมในลีกมาเทียบกับเกมอุ่นเครื่องช่วงปรี-ซีซั่น

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ออกมายืนยันว่า ทีมของเขายังคงไม่ใช่ตัวเต็งในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิพ ในฤดูกาลหน้า แม้ว่าเพิ่งจะ เฉือนชนะ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล 2-1 ในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับซิวถาดการกุศลเป็นแชมป์แรกประเดิมการออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่

สิงห์บลูส์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาครองเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีในฤดูกาลที่แล้ว โดยพลาดท่าแพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น และทิ้งทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลายอย่าง อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงแชมป์ยุโรปอย่าง ลิเวอร์พูล แบบไม่เห็นฝุ่น อย่างไรก็ตาม กุนซือมาดเฮี๊ยบ ยังไม่เชื่อว่าทีมของเขาจะสามารถป้องกันแชมป์ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเราพูดถึงการเป็นทีมที่เหนือกว่า มันไม่เคยมีการเหนือกว่าอย่างแท้จริงหรอก เราต้องแพ้ในบางเกมอยู่แล้ว เราไม่สามารถเอาชนะได้ทุกอย่าง และมันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเกม ฟุตบอลสมัยใหม่ เราสามารถพูดได้เพียงว่าในช่วงเวลา 14 เดือนที่เราอยู่ด้วยกันมา เราคว้าแชมป์ทุกอย่างใน อังกฤษ ยกเว้น เอฟเอ คัพ มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว มูรินโญ่ กล่าว

เฮียเครียด กล่าวต่อไปว่า ผมเพียงแต่คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ผลงานในฤดูกาลที่ 2 จะออกมาดีกว่าฤดูกาลแรก คุณรู้จักสโมสร, นักเตะ, สไตล์ของฟุตบอล และคู่แข่งมากขึ้น และสามารถออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม

ถ่อมตัวไม่คิดว่าชนะบอลการกุศลจะมีผลต่อจิตวิทยา

นอกจากนี้ อดีตเทรนเนอร์ทีมเอฟซี ปอร์โต้ ยังยืนยันด้วยว่า ชัยชนะเหนือ อาร์เซน่อล ครั้งแรกของเขา ไม่มีผลทางจิตวิทยาใดๆ ทั้งนั้นสำหรับการลงสนามเมื่อฤดูกาลใหม่เปิดขึ้น อย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 13 ส.ค. นี้
โดย มูรินโญ่ กล่าวว่า ผมคิดว่าไม่เกี่ยวอะไรกับอนาคตเลย อนาคตมันแยกจากเกมๆ นี้อย่างสิ้นเชิง มันไม่เกี่ยวกับเกม พรีเมียร์ชิพ และไม่เกี่ยวกับที่จะ เจอ อาร์เซน่อล ในอีก 15 วันข้างหน้าเลย

ขณะเดียวกัน แม้จะเสริมทัพด้วย อาร์ซิเอร์ เดล ออร์โน่ และ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ แต่ มูรินโญ่ ย้ำว่าต้องการใช้บริการผู้เล่นส่วนใหญ่จากชุดคว้าแชมป์ฤดูกาลก่อน เพราะเป็นทีมที่ พิสูจน์ตัวเองแล้ว โดยให้ความเห็นว่า
พวกเขาสมควรได้รับตำแหน่งตัวจริง แน่นอนว่ามันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องดร็อปใครสักคนเอาไว้ข้างสนาม ทีมยังเป็นชุดเดิม และผมคิดว่านักเตะคน อื่นจะมีโอกาสต่อสู้เพื่อตำแหน่งของพวกเขา ผมต้องมองนักเตะทุกๆ คน และให้โอกาสกับทุกคน