ดร็อกบามั่นใจซัดประตูนัดชิงได้อีกแน่

ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอก เชลซี มั่นใจพังประตูในเกมนัดชิงดำได้อีกชัวร์ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันอาทิตย์นี้ หลังซัดไปแล้ว 4 ลูกในเกมนัดตัดสินแชมป์ที่เจ้าตัวลงเล่นให้ สิงห์บลูส์ โดยทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ต่างเจอฤทธิ์ของดาวยิงไอวอรี่ โคสต์มาแล้วทั้งสิ้น 

ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวฉกาจของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก แสดงความมั่นใจว่า ตนจะสามารถรักษาสถิติการยิงประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศเอาไว้ได้ต่อไป ในเกมนัดชิงดำศึก คาร์ลิ่ง คัพ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนาม เวมบลีย์ วันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ.นี้ หลังจากที่ผ่านมาซัดในนัดชิงไปแล้ว 4 ประตู กับ ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

หัวหอกทีมชาติไอวอรี่โคสต์ กล่าวว่า ผมอยากยิงประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศให้ได้อีกครั้ง ผมยิงได้ในเกมนัดชิงชนะเลิศทุกเกมที่ เชลซี ลงเล่น ผมเป็นนักเตะที่ชอบเกมสำคัญๆ และผมก็ยิงประตูใส่ทีมยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 ทีมในรอบชิงชนะเลิศ ผมต้องการยิงประตูทีมที่ใกล้จะได้เป็นทีมบิ๊กโฟร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) มันจะเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยมแน่ 

พร้อมกันนี้ ดร็อกบา ยังเชื่อว่า นิโกล่าส์ อเนลก้า คู่ขาในแดนหน้าคนใหม่ซึ่งเพิ่งย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ราว 975 ล้านบาท) เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะสามารถช่วย สิงโตน้ำเงินคราม ซึ่งกำลังไล่ล่าแชมป์เอฟเอ คัพ, พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ด้วย ให้ประสบความสำเร็จในทั้ง 4 ถ้วยได้ 

เขา (อเนลก้า) เป็นนักเตะชั้นยอด ผมพูดภาษาฝรั่งเศสเช่นเดียวกับเขา และผมคิดว่าเราสามารถเล่นคู่กันได้ หากเราเข้าขากันได้อย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ เราจะเป็นคู่หัวหอกที่อันตรายสุดๆ ตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล สโมสรของผมยังมีเกมให้ลงเล่นอีกมาก เรายังมีลุ้นแชมป์ทั้ง 4 ถ้วย ดร็อกบา กล่าว 

นอกจากนี้ ดาวยิง สิงโตน้ำเงินคราม ยังชี้ว่าทีมไม่อาจประมาท ไก่เดือยทอง ได้ในเกมวันอาทิตย์นี้ และเชื่อว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าของสเปอร์ส จะเป็นนักเตะอันตรายของทีมคู่แข่ง โดยกล่าวว่า ผมเคารพ สเปอร์ส พวกเขามีนักเตะระดับโลกอย่าง เบอร์บาตอฟ ผมเป็นแฟนตัวยงของเขาเลยล่ะ เขาเป็นนักเตะที่มีทักษะล้นเหลือ เทคนิคของเขาอยู่ในระดับเดียวกับ (ซีเนดีน) ซีดาน, (คริสเตียโน่) โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่ และ (เธียร์รี่) อองรี เลยทีเดียว 
 
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ สยามกีฬา

วันที่ : 23 กุมภาพันธ์ 2550