สิงห์บลูส์ตะปบสาลิกาจี้ผี 5 แต้ม ปืนบุกเฉือนวีแกน

สิงห์บลูส์ตะปบสาลิกาจี้ผี 5 แต้ม ปืนบุกเฉือนวีแกน

"ไรท์-ฟิลลิปส์" พยายามกระชากผ่าน "บาบายาโร่"

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2549 04:41 น.

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงมายิงประตูชัยช่วยให้ สิงห์บลูส์ เชลซี เปิดบ้านตะปบ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-0 ทำคะแนนจี้ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ชิป เหลือแค่ 5 แต้ม ด้าน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล บุกเฉือน วีแกน แอธเลติก ถึงถิ่น 1-0 กระโดดขึ้นอันดับ 3 ของตาราง

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เชลซี 1-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

โฮเซ่ มูรินโญ่ หวังนำทัพ สิงห์บลูส์ เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ ตะปบสามแต้มจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพื่อทำคะแนนบี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเข้าไป แต่เกมนี้เจ้าถิ่นมีการปรับแนวรุกพักทั้ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และอังเดร เชฟเชนโก้ พร้อมกับหยอด ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ กับ ซาโลมอน คาลู ประสานเกมรุกกับ อาร์เยน ร็อบเบน

ด้าน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ประสบปัญหาตัวหลักเจ็บเป็นกระบิไม่ว่าจะเป็น ไตตัส บรัมเบิล , สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ หรือ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ เกมนี้ เกล็น โรเดอร์ ส่ง พอล ฮันทิงตัน ดาวรุ่งยืนแบ็กขวา แดนกลางใส่ ชาร์ลส เอ็นซ็อคเบีย ขึ้นเกมทางกราบร่วมกับ เจมส์ มิลเนอร์ เกมรุกให้โอกาส จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ที่ไปยืมจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นกับ อองตวน ซิเบียร์สกี้ และโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์

เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ซึ่งต้องการเก็บสามแต้มเพื่อไล่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง

เป็นฝ่ายเดินหน้าบุกใส่ทันทีและก็น่าจะขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 3 เมื่อ เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป ขึ้นมาทุ่มบอลให้ ซาโลมอน คาลู โหม่งเช็ดต่อให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ได้เอี้ยวตัวยิงแต่ดันซัดวืดทำให้กองหลัง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เคลียร์บอลพ้นปากประตูตัวเองไปได้

เจ้าถิ่นยังเดินหน้าทำเกมรุกอย่างต่อเนื่อง มิคาเอล เอสเซียง ทำเกมขึ้นไปก่อนจ่ายเข้ากลางให้ อาร์เยน ร็อบเบน ชิ่งเร็วให้ คาลู ยิงทันทีด้วยซ้ายแต่กดไม่ลงบอลพุ่งข้ามคานออกไป ถึงนาทีที่ 16 โอกาสแรกของทีมเยือนเกือบเป็นประตูนำเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดลูกเตะมุมให้ อองตวน ซิเบียร์สกี้ โฉบเข้ามาโหม่งตัดหน้า เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ แต่บอลดันไปกระแทกคานออกมาเต็มๆ

นาทีที่ 35 การโหม่งสกัดลูกโยนของ เทอร์รี่ ผิดพลาดเกือบทำให้ สิงห์บลูส์ น้ำตาตก ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก นิวคาสเซิล สามารถยืนหยัดต่อกรกับ เชลซี ได้สูสีขึ้น เพราะไปเข้าทางให้ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ตะบันด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งเฉียดเสาออกไป ช่วงท้ายทีมเยือนเสีย ชาร์ลส เอ็นซ็อคเบีย ให้กับอาการเจ็บข้อเท้าซ้าย ทำให้ เกล็น โรเดอร์ ต้องส่ง แม็ทธิว แพ็ตติสัน ลงมาเล่นแทน จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองฝ่ายยังทำอะไรกันไม่ได้

เปิดฉากครึ่งหลัง โฮเซ่ มูรินโญ่ แก้เกม

ให้ เชลซี ส่งสองตัวจริงทั้ง โคล้ด มาเกเลเล่ และดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงมาเล่นแทน ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และไรท์-ฟิลลิปส์ ผ่านไปแค่ 3 นาที ดร็อกบา เกือบแผลงฤทธิ์ได้ขวิดลูกโยนจากกราบซ้ายของ ร็อบเบน หลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้นทีเดียว

ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เชลซี เริ่มที่จะเร่งเครื่องแบบเต็มสูบเพื่อหาประตูแรกลดความกดดัน แต่อีกห้านาทีถัดมาเกือบโดนจังหวะสวนกลับของ นิวคาสเซิล เล่นงาน เอสเซียง ซึ่งต้องลงไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์จำเป็นสกัดบอลไม่ขาด ฮิลาริโอ ก็กระโดดรับบอลพลาดยังดีที่ มาร์ตินส์ ไม่สามารถเข้าไปยิงได้ถนัด

เมื่อเกมยังไม่ดีขึ้น มูรินโญ่ ต้องทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง อังเดร เชฟเชนโก้ ลงมาเสริมเกมรุกพร้อมกับถอด เฌเรมี่ ซึ่งเป็นกองหลังออกไป นาทีที่ 71 เจ้าถิ่นทิ้งโอกาสทอง คาลู เลี้ยงหลบ บาบายาโร่ เข้ากรอบเขตโทษก่อนจิ้มด้วยหัวเกือกแต่บอลพุ่งหลุดคานออกไป นาทีถัดมา ทีมเยือนได้สวนกลับ มาร์ตินส์ โยนบอลให้ ซิเบียร์สกี้ ได้โหม่งแต่บอลไปตรงตัว ฮิลาริโอ

อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 74 กองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮกันทั้งสนาม

แฟนเชลซีตะโกนดีใจหลัง "ดร็อกบา" ซัดชัย

เมื่อ ร็อบเบน จ่ายทะลุช่องให้ เชฟเชนโก้ ตวัดต่อให้ ดร็อกบา ป้ายด้วยซ้ายส่งบอลผ่านมือ เชย์ กิฟเว่น เข้าไปตุงตาข่ายให้เชลซีได้ประตูนำ 1-0 ช่วงท้าย เชลซี ยังพยายามเดินเกมเพื่อทำประตูฝังแต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาทียังรักษาสกอร์เอาชนะไปได้หวุดหวิด ทำให้ แชมป์เก่า มีเพิ่มเป็น 39 คะแนนจากการลงสนาม 17 นัด ยังตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 5 แต้ม ส่วน นิวคาสเซิล มี 19 แต้ม รั้งอันดับ 14 ดังเดิม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

เชลซี : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ , เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป , จอห์น เทอร์รี่ , ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ , แอชลี่ย์ โคล , มิชาเอล บัลลัค , มิคาเอล เอสเซียง , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , ซาโลมอน คาลู , อาร์เยน ร็อบเบน

นิวคาสเซิล : เชย์ กิฟเว่น , พอล ฮันทิงตัน , ปีเตอร์ ราเมจ , สตีเว่น เทย์เลอร์ , เซเลสติน บาบายาโร่ , เจมส์ มิลเนอร์ , นิคกี้ บัตต์ , ชาร์ลส เอ็นซ็อคเบีย , จูเซ็ปเป้ รอสซี่ , อองตวน ซิเบียร์สกี้ , โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์

ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน

ปรากฏว่า ปืนใหญ่ อาร์เซนอล บุกเฉือน เดอะ ลาติกส์ วีแกน แอธเลติก ถึงถิ่น 1-0 โดยมาได้ประตูชัยจาก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในนาทีที่ 88 ทำให้ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ มีเพิ่มเป็น 29 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ชิป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์