ลุ้นอีกเฮือก!เอสเซียงซัด1-0ไล่ผีสองแต้ม

ลุ้นอีกเฮือก!เอสเซียงซัด1-0ไล่ผีสองแต้ม

พรีเมียร์ลีกยังต้องลุ้นกันต่อไปหลังมิกาเอล เอสเซียงมิดฟิลด์พันธ์อึดกดประตูโทนให้เชลซีบุกมาเอาชนะเอฟเวอร์ตันหวุดหวิด 1-0 ไล่ขยับตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเข้ามาเหลือ 2 แต้มในขณะที่ท๊อฟฟี่โอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีกเลือนลางเพราะลิเวอร์พูลขออีกแค่ 4 แต้มก็จะเช็กบิลทันที

บรรยายเกมโดยดา ขาเดฟ(นักข่าวคิกออฟ)

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ

วันพฤหัสบดี 17 เมษยน 2551


เอฟเวอร์ตัน 0-1 เชลซี

สนาม :
กูดิสัน ปาร์ค

ประตู :0-1 มิกาเอล เอสเซียง น.41

ผู้ชม :37,112 คน


นัดนี้อัฟรัม แกรนต์ กุนซือของเชลซีมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากเกมมันเดย์ไนท์ซึ่งเสมอกับวีแกน 1-1 ถึง 5 ตำแหน่งโดยแอชลี่ย์ โคล,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,โจ โคล,เปาโล เฟอร์ไรร่าและฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์คืนสู่ทัพตัวจริง ฝั่งเอฟเวอร์ตันได้โจเซฟ โยโบกลับมา ทำให้เลจ์ตัน เบนส์กระเด็นตกไปเป็นตัวสำรอง

โอกาสลุ้นพังประตูครั้งแรกของเกมนี้มาบังเกิดขึ้นในนาที16 และเป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่ได้เสียวก่อน เมื่อเฟอร์นันเดซกระหน่ำฟรีคิก 25 หลาด้านซ้ายเต็มแรง บอลพุ่งกระดอนตกพื้นและเกือบจะเข้าประตู ทว่า ปีเตอร์ เช็กยังผวาปัดออกหลังไปได้

นาที 21 เชลซีค่อยๆต่อเกมกันขึ้นมา ทางด้านเอสเซียงปั๊มบอลตรงกลางสนาม บอลปลิ้นมาเข้าทางอเนลก้าด้านซ้ายหน้าเขตโทษ จากนั้นอเนลก้าพยายามโยกหนีฮิบเบิร์ตแล้วก็หวดยัดไปที่เสาแรก ทว่าบอลพุ่งสุดเสาออกไปนิดเดียว

จากนั้นเชลซีเริ่มตั้งเกมได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นและสามารถบุกกดดันได้ต่อเนื่อง กระทั่งถึงนาที 35 ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ได้บอลทะลุช่องจากการจ่ายของเอสเซียง หลุดเข้ายืนเดี่ยวๆ ในเขตโทษ จากนั้นไอ้สั้นพยายามพลิกหาจังหวะยิง แต่ทางด้านยาเกียลก้าตามมาสไลด์ทิ้งไปได้หวุดหวิด

อย่างไรก็ตาม นาที 41 เชลซีมาปลดล็อกขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่เอสเซียงทำชิ่งหนึ่ง-สองกับไรท์ ฟิลลิปส์หน้าเขตโทษ บอลกระดอนไปโดนกองหลังเอฟเวอร์ตันนิดนึงและก็มาเข้าทางปืนของเอสเซียงที่วิ่งสวนฝูงผู้เล่นเจ้าถิ่นในกรอบจนไม่ล้ำหน้าก่อนยิงดีดสวนตัวฮาวเวิร์ดจากระยะ12หลาเข้าไปไม่มีเหลือ

เมื่อได้ประตูขึ้นนำ เกมรุกของเชลซีก็ยังคลายพิษสงต่อไป นาที 43 จอห์น โอบิ มิเกลตั้งป้อมยิงไกลสุดแรงระยะ25หลา บอลพุ่งดิ่งเกือบจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว ทว่าทิม ฮาวเวิร์ดออกแรงบินปัดข้ามคานออกไปได้อย่างสวยงาม

ทว่าท้ายครึ่งแรก เอฟเวอร์ตันพยายามรวบรวมสมาธิสู้อีกเฮือกและทางด้านเฟอร์นันเดซก็ได้สับไกเต็มเหนี่ยวด้านขวา 18 หลาในช่วงทดวลาบาดเจ็บ แต่ปีเตอร์ เช็กยังเซฟเข้าซองไว้ได้ไม่พลาดจบครึ่งแรก เชลซีออกนำ 1-0

ออกสตาร์ต ครึ่งหลังเอฟเวอร์ตันพยายามโหมลุยและกดดันแผงหลังเชลซีอย่างหนัก กระทั่งถึงนาที 52 จอห์นสันได้บอลทะลุช่องจากแผงกองกลางและเกือบจะหลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าปีเตอร์ เช็กอยู่แล้ว ทว่าคาร์วัลโญ่ตามล้างตามเช็ดแบบสุดๆ พุ่งมาเสียบสไลด์ทิ้งไปได้อย่างสวยงาม

นาที 67 เอฟเวอร์ตันมีโอกาสที่จะเบิกสกอร์แบบจะแจ้งอีกครั้ง เมื่อเทอร์รี่ไปตัดฟาวล์ยาคูบูตรงบริเวณหัวกระโหลกเยื้องไปทางขวาเล็กน้อย ทว่าเฟอร์นันเดซหวดฟรีคิกหลุดเสาไกลออกไปเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น

ฝั่งเชลซีต้องอาศัยจังหวะสวนกลับเร็วเล่นงานของฝั่งเจ้าถิ่น กระทั่งถึงนาที 74 ไรท์ ฟิลลิปส์กระชากลากเลื้อยขึ้นมา แต่ก็ถูกแบ็กเอฟเวอร์ตันสกัด ทว่าเอสเซียงยังเก็บตกยิงจากแถวสองเต็มๆตีน บอลพุ่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไป

2 นาทีต่อมา ทอฟฟี่เร่งเครื่องบุกใส่เชลซีอีกระลอก คาร์สลี่ย์จ่ายให้เฟอร์นันเดซจับบอล1จังหวะแล้วตะวัดยิงด้านซ้ายหน้าเขตโทษ บอลหลุดเฉี่ยวเสาแรกออกไปนิดเดียว

ท้ายเกมเอฟเวอร์ตันพยายามบุกแต่ก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไร นาทีสุดท้ายเฟอร์นันเดซเสี่ยงยิง 30 หลา แต่ก็เข้าอีหรอบเดิม บอลพุ่งหลุดกรอบออกไป ครบ 90 นาที เชลซีบุกมาชนะเอฟเวอร์ตันถึงกูดิสัน ปาร์ค 1-0 ไล่ยูไนเต็ดเหลือ 2 แต้มลุ้นแชมป์กันต่อส่วนเอฟเวอร์ตันต้องเอาชนะ 3 เกมที่เหลือและภาวนาให้ลิเวอร์พูลเก็บไม่ได้ 4 แต้มใน 4 นัดที่เหลืออยู่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน :
ทิม ฮาวเวิร์ด,โทนี่ ฮิบเบิร์ต,ฟิล ยาเกียลก้า,โจเซฟ โยโบ,โจเลียน เลสคอตต์,สตีเฟ่น พีนาร์(วิคเตอร์ อนิเชบี้ น.63),ลี คาร์สลี่ย์,ฟิล เนวิลล์,มานูเอล เฟอร์นันเดซ,แอนดี้ จอห์นสัน(โธมัส กราเวเซ่น น.62),ยาคูบู อเย็กเบนี่

สำรองไม่ได้ลงสนาม :สเตฟาน เวสเซลล์,เลจ์ตัน เบนส์,แจ๊ค ร็อดเวลล์

ใบเหลือง :-

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,เปาโล เฟอร์ไรร่า,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,จอห์น เทอร์รี่,แอชลี่ย์ โคล,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์(โคล้ด มาเกเลเล่ น.81),มิกาเอล เอสเซียง,จอห์น โอบิ มิเกล,โจ โคล(ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.77),นิโกล่าส์ อเนลก้า,ซาโลมง คาลู

สำรองไม่ได้ลงสนาม :เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ,อังเดร เชฟเชนโก้,อเล็กซ์

ใบเหลือง :ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ น.23,เปาโล เฟอร์ไรร่า น.57

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน




ขอบคุณข่าวจากซ็อคเกอร์





































เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์