นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ควงแขน วินฟรีด เชเฟอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชาวเยอรมัน ออกมาแถลงข่าวไขข้อข้องใจ กรณีที่มีกระแสข่าวว่า “วินนี่” ท้อแท้ใจกับความล้มเหลวของการบริหารงานจนถึงขนาดไม่ต้องการจะคุมทีมชาติไทยจนครบสัญญา แต่ล่าสุดกุนซือชาวเยอรมันจะขอทำทีมชาติไทยต่อไปเพราะซึ้งบารมีของในหลวง โดยวินนี่กล่าวว่า”สิ่งที่ทำให้ตนมีกำลังใจทำงานต่อไปอย่างไม่ย่นย่อก็คือคำว่า ”สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนภูมิใจที่ได้ทำงานภายใต้ร่มพระโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ลูกศิษย์คนหนึ่งของตนอย่าง ”เยน โนว็อทนี่” ซึ่งเดินทางมาเล่นฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับอดีตทีมชาติไทย ในอนาคตเขาจะผันตัวเองเป็นโค้ชอย่างเต็มตัวซึ่งตนก็ได้สอนอยู่ตลอดเวลาว่า เรามีอดีตเป็นทีมชาติเยอรมัน มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เมื่อได้ทำงานให้ต่างชาติก็ต้องเต็มที่ เช่นเดียวกับตนที่เดินทางมาทำงานให้กับทีมชาติไทยในฐานะตัวแทนของคนเยอรมัน ก็ต้องเต็มร้อยเพื่อในหลวง” และกุนซือชาวเยอรมัน ยังย้ำให้ลืมความล้มเหลวของฟุตบอลโลก 2014 และมองไปยังเป้าหมายใหม่ในปี 2018
ทางด้าน ”บังยี” ได้ขี้แจงเหตุแห่งความล้มเหลวของการเตรียมทีมของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ว่ามีปัญหาและอุปสรรคมากมาย ระหว่างการเตรียมตัวทำศึกเวิลด์คัพ รอบคัดเลือก โดยอ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากลีกภายในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ย่อมส่งผลกระทบต่อทีมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ผมคิดว่า ลีกของเรากำลังเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ต้องมีผลกระทบกับทีมชาติไทยเป็นของธรรมดา ฉะนั้นตรงนี้ หลายคนต้องยอมรับได้ แต่อย่างที่ผมได้เรียนไป เราจะต้องปรับสภาพทีมให้ไปอยู่ในหลักสากลมากที่สุด อันนี้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่เราจะต้องมีวิธีการจัดการต่อไปในอนาคต” บอร์ดบริหารฟีฟ่ากล่าว แต่อย่างไรก็ดี นายวรวีร์ ยืนยันว่า จะนำข้อบกพร่องต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การเตรียมทีมชาติ เป็นไปในลักษณะสากลมากที่สุด และเป็นประโยชน์กับทุกๆ ฝ่ายทั้งทีมชาติและสโมสรต้นสังกัด นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะแต่งตั้งคณะทำงานที่มีประสิทธิภาพเข้ามาดูแลเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าหมายในปีนี้ว่า จะต้องประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับเยาวชน 16 ปี, 19 ปี และ 22 ปี รวมถึง ศึกฟุตบอล ซูซูกิ คัพ ช่วงปลายนี้ด้วย