พิภพคู่โจ้ ซัลโวอุซเบ เปิดสนามคิงส์คัพ

ลูกหนังชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 38

ได้ฤกษ์เปิดสนามวันนี้ “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน แย้มเปิดเกมรุกใส่ "หมีเอเชีย" อุซเบกิสถาน หวังทดสอบประสิทธิภาพทีมก่อนศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก พร้อมวางคู่ศูนย์หน้าหน้าเปิดโอกาสนักเตะยอดเยี่ยมไทยลีก “เจ้าชายกบ” พิภพ อ่อนโม้ ลงพิสูจน์ตัวเองคู่กับ “โจ้ 5 หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี ทีวีช่อง 7 สีถ่ายทอดสดทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 17.00 น.

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 38
 
เตรียมเปิดสนามดวลแข้งในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ และจะไปสิ้นสุดในวันที่ 29 ธันวาคม ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทีมชาติไทยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ลงฝึกซ้อมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานที่จะใช้เป็นสังเวียนแข่งขันจริง โดยทีมชาติไทยมีโปรแกรมลงเตะนัดแรกเป็นคู่เปิดสนามพบ "หมีเอเชีย" อุซเบกิสถาน ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ เวลา 17.00 น. ช่อง 7 สีถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ

“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือทีมชาติไทย
 
เปิดเผยถึงเกมนัดประเดิมสนามกับ อุซเบกิสถาน ว่าคู่แข่งเป็นทีมที่แข็งแกร่ง หนสุดท้ายที่เจอกันคือทีมชุดเอเชี่ยนเกมส์ ในการอุ่นเครื่องที่กาตาร์ ซึ่งเสมอกันมา สไตล์การเล่นของอุซเบกิสถานเป็นทีมสไตล์บอลยุโรป ตั้งโซนแน่นและโต้กลับเร็ว ดังนั้นทีมชุดใหญ่ไม่น่าจะแตกต่างกัน อีกทั้งมาตรฐานของอุซเบกิสถานก็สูงเพราะเข้ารอบ 20 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกหนนี้เช่นเดียวกับไทย

“เกมนี้อย่างไรแล้ว ในฐานะเจ้าบ้านได้เปรียบทั้งสภาพอากาศและแฟนบอล ต้องเปิดเกมรุกใส่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่าเกมระดับนี้พลาดไม่ได้ ดังนั้นเกมรับและรุกต้องมีความสมดุล ไม่เสียบอลง่าย ซึ่งเท่าที่ประเมินศักยภาพทีมไทยเวลานี้ น่าจะสู้ได้สนุกแน่นอน โดยตัวผู้เล่น 11 คนแรกจะจัดนักเตะที่สมบูรณ์ที่สุด ในส่วนของกองหน้าจะให้ พิภพ อ่อนโม้ ที่โชว์ฟอร์มดีในไทยลีก ลงพิสูจน์ตัวเองด้วยการยืนคู่กับ ศรายุทธ ชัยคำดี” โค้ชหรั่ง กล่าวอย่างมั่นใจ

สำหรับผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนาม
 
ได้แก่ ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, แบ็กขวาหาก สุรีย์ สุขะ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย น่าจะได้ยืนแน่ แต่หากไม่ไหว อภิเชษฐ์ พุฒตาล ได้รับโอกาสแทน, คู่เซ็นเตอร์แบ็ก เกียรติประวุฒิ สายแวว กับ นิเวส ศิริวงค์, แบ็กซ้าย ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ หรือ ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์, กองกลาง สุเชาว์ นุชนุ่ม, ณรงค์ชัย วชิรบาล, นิรุจน์ สุระเสียง, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, กองหน้า ศรายุทธ ชัยคำดี กับ พิภพ อ่อนโม้

 นอกจากนี้กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ยังกล่าวอีกว่า
 
ในส่วนรายชื่อที่จะส่งขึ้นทะเบียน 20 คนนั้น เวลานี้ยอมรับว่าตัดสินใจยากมาก แต่ที่แน่นอนคือเราจะให้โอกาสเด็กที่โชว์ผลงานได้ดีในไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก และซีเกมส์ ไม่ว่าจะเป็น พิภพ อ่อนโม้, อาทิตย์ สุนทรพิธ หรือ ธนา ชะนะบุตร ส่วนจะติดยาวไปถึงฟุตบอลโลกหรือไม่นั้น ทุกคนยังมีโอกาส เพราะที่ส่งขึ้นทะเบียน 50 คนแต่ต้นนั้นยังมีสามารถเปลี่ยนแปลงได้

 “ขอให้เสร็จคิงส์คัพก่อน จากนั้นเราค่อยมาประเมินผลอีกครั้ง เนื่องจากนับตั้งแต่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกแล้ว ตัวเองไม่ได้ไปอังกฤษกับทีมเลย อีกทั้งการฝึกซ้อมไม่อาจทำได้เต็มที่ ดังนั้นคิงส์คัพหนนี้ คือการทดสอบทีม โดยเฉพาะเกมรับ เพราะที่ผ่านมา 2 นัดในการพบ มาเก๊า และ เยเมน เราเน้นเกมรุกมากกว่า แต่คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น โอมาน บาห์เรน ล้วนแต่มีมาตรฐาน ดังนั้นเกมของต้องสมดุลทั้งรุก และรับ โดยเฉพาะรับจะมีความสำคัญในเกมนัดเยือนมากกว่า” โค้ชหรั่ง กล่าว