บังยีแจงคืบหน้าไทยเจ้าภาพฟุตซอลโลก
"วรวีร์ มะกูดี" นายกสมาคมลูกหนังไทย รุดแจงความคืบหน้า ความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก ต่อ คณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ขณะที่ กทม. ทุ่ม 75 ล้าน ปลุกกระแสเจ้าภาพฟุตซอลโลก
บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมลูกหนังไทย พร้อมด้วย ผู้แทน กทม. และ กกท. รุดแจงความคืบหน้า ความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก ต่อ คณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ยันรอบแรกใช้ 6 จังหวัด ยืนยันสร้างสเตเดี้ยมหนองจอก ขณะที่ กทม. ทุ่ม 75 ล้าน ปลุกกระแสเจ้าภาพฟุตซอลโลก พร้อมจัดศึกโต๊ะเล็ก 3 วัน 3 คืน ก่อนทาบ 6 ทีมชั้นนำของโลกร่วมศึก
ทางด้าน “มาดามมล” นฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา พร้อมคณะ ได้เชิญ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากกรุงเทพมหานคร และการกีฬาแห่งประเทศไทย มาชี้แจงพร้อมให้ข้อมูลความคืบหน้าในการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกปี 2010 ที่ห้องประชุม 309 อาคารวุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา
โดย ประธานกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา เผยว่า การที่ พล.ต.จารึก อารีราชการรัณย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าหลังการยุบสภา ที่ต้องใช้เวลารวมการเลือกตั้งนาน 40-50 วัน ภาครัฐจะมีเวลามากน้อยแค่ไหน และนั่นก็เกรงว่า อาจจะทำให้การเตรียมการสะดุด รวมถึงกับการที่ กทม. เสนอร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สนามแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก พ.ศ.2555 ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณา ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ รู้สึกเป็นห่วง
ทั้งนี้ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า ช่วงต้นปีเราได้ไปนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวการเป็นเจ้าภาพให้กับทางฟีฟ่าได้รับทราบ โดยเฉพาะจังหวัดที่จะได้รับคัดเลือกให้ร่วมจัดการแข่งขันในรอบแรก ประกอบไปด้วย กทม. เชียงใหม่ นครราชสีมา สุพรรณบุรี สงขลา และ ภูเก็ต ซึ่งทุกสนามอยู่ระกว่างการดำเนินการปรับปรุง เพื่อให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการขยายสนาม และความจุของสนาม เพื่อรองรับแฟนบอล ที่จะเข้าไปเชียร์ทีมฟุตบอล อีกทั้งสมาคมฟุตบอล จะแต่งตั้ง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานจัดการแข่งขัน
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แฟนบอล สำหรับความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง เรื่องม็อบปิดสนามกีฬาช่วงการแข่งขันนั้น คงไม่มีปัญหา เพราะพื้นที่แข่งขันฟุตบอลไม่ได้อยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์การชุมนุม
“การแข่งขันครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว จะมีทีมชั้นนำของโลกเดินทางมาโชว์ฝีเท้ามากมาย อาทิ บราซิล อาร์เจนตินา สเปน โปรตุเกส ฮอลแลนด์ นักเตะของไทยรวมทั้งแฟนบอลเยาวชน จะได้นำเทคนิกชั้นเชิงไปพัฒนาทักษะการเล่น ได้ในอนาคต”นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าว
ขณะที่ นายยิ่งศักดิ์ เผ่าอินจันทร์ ผู้อำนวยการกองการกีฬา เปิดเผยว่า สำหรับสนามแข่งขันอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง ซึ่งเสร็จไปแล้ว 50 เปอร์เซ็น ซึ่งจะทันตามกรอบเวลา ในการเริ่มก่อสร้าง และเสนอให้ ครม. มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการก่อสร้างโครงการสร้างพื้นฐาน สนามแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ส่วนระยะเวลาในการก่อสร้างสนามฟุตซอล ใช้เวลาทั้งสิ้น 12 เดือน นอกจากนี้ ช่วงเดือน เม.ย. นี้ เราได้เตรียมแผนการประชาสัมพันธ์ ทำป้ายโปสเตอร์ 300 ป้าย โปรโมตการแข่งขันไว้แล้ว
พร้อมกันนี้ นายยิ่งศักดิ์ กล่าวอีกว่า เราเตรียมประชาสัมพันธ์ การจัดโรดโชว์กิจกรรมมิตไนท์ฟุตซอล เพื่อเป็นการโหมโรงสร้างกระแสฟุตซอล ก่อนการฟาดแข้งชิงแชมป์โลกปลายปี 2012 โดยจะมีการเชิญทีมฟุตซอลชั้นนำของโลก มาแข่งขันในประเทศไทย และปิดรับสมัครทีมฟุตซอลจากทั่วประเทศ ไม่จำกัดจำนวน เพื่อมาฟาดแข่งทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจะใช้พื้นที่สนามหลวง เป็นสนามแข่งขัน เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วทั้งประเทศ
อีกทั้ง กิจกรรมสอนฟุตซอล ในโรงเรียนในสังกัด กทม. 400 โรง เพื่อให้เด็กมีทักษะการเล่นฟุตซอลที่ถูกหลักและถูกวิธี ซึ่งจะเชิญอาจารย์แต่ละโรงเรียนมาอบรม เมื่อทุกโรงเรียนพร้อมจะมีการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตซอลโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้งหมด เป็นการพัฒนาฟุตซอลไทย ให้ก้าวต่อไปในอนาคต