โดยทาง บริษัท ไนกี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวชุดแข่งใหม่ของทีมชาติไทยในครั้งนี้ว่า “การพัฒนาชุดแข่งขันสำหรับทีมชาติสื่อถึงเจตนารมณ์ของไนกี้ในการนำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเสริมศักยภาพของนักกีฬา โดยผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ใช้ในการผลิตชุดแข่งขัน และเรายังตั้งใจที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำขวดพลาสติกที่นำกลับมาใช้ใหม่เป็นวัตถุดิบในการผลิต”
ขณะที่นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “สำหรับชุดแข่งขันใหม่นี้ สมาคมฯได้ทำงานร่วมกันกับไนกี้อย่างใกล้ชิดเพื่อนำเสนอและสะท้อนถึงเอกลักษณ์ ความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทยรวมถึงคุณค่าของการได้สวมชุดทีมชาติ เพื่อกระตุ้นให้นักเตะมีความมั่นใจและสามารถทำผลงานได้ดีตลอดระยะเวลาที่พวกเขาลงทำหน้าที่เพื่อชาติ เราหวังว่าชุดแข่งขันใหม่นี้จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคน”
สำหรับชุดแข่งขันทีมเหย้าของทีมชาติไทย (เสื้อเจอร์ซี่ กางเกงขาสั้น และถุงเท้า) เป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ส่วนชุดแข่งขันทีมเยือน (เสื้อเจอร์ซี่ กางเกงขาสั้น และถุงเท้า) ใช้สีน้ำเงิน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถฯ โดยสีน้ำเงินเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระองค์
ทั้งนี้เสื้อแข่งขันทีมเหย้าและทีมเยือนชุดใหม่ของแข้ง “ช้างศึก” ถูกประดับด้วยด้วยลายธงไตรรงค์ที่พาดผ่านบริเวณหน้าอก เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์และเสริมความรู้สึกรักชาติ มีตราสัญลักษณ์สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริเวณหน้าอกเสื้อด้านซ้าย เพื่อแสดงถึงความรู้สึกภาคภูมิใจและความเคารพของนักฟุตบอลที่ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของชาติ
ด้านภายในของเสื้อ ตำแหน่งเดียวกับตราสัญลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จัดวางในเชิงสัญลักษณ์ให้อยู่เหนือหัวใจ มีข้อความประวัติศาสตร์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจว่า “ไชโย” ซึ่งเป็นคำที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตรัสขึ้นระหว่างทอดพระเนตรเกมการแข่งขันนัดแรกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมรวมชาวต่างชาติ ณ ราชกรีฑาสโมสร ซึ่งทีมไทยเป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 2 – 1
ขณะที่บริเวณคอเสื้อด้านในได้มีการอัญเชิญสัญลักษณ์ “ชฎา” ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์แรกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งเป็นเครื่องเตือนใจในการไขว่คว้าความสำเร็จในฐานะทีมชาติไทย
สำหรับชุดแข่งขันดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 เดือนธันวาคมนี้ และมีวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้