ถามถึงความสำเร็จครั้งสุดท้ายของ "พลังเอ็ม"โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี คงต้องย้อนกันไปไกลถึงพ.ศ. 2550 ที่พวกเขาพกศักดิ์ศรีรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ชนะม.กรุงเทพ หรือ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน ที่ขณะนั้นคือแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกด้วยสกอร์ 2-1 คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานประเภท ก. ประจำปี 2548-49
แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา สโมสรแห่งนี้ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะนโยบายการเปิดโอกาสให้นักเตะสามารถโยกย้ายไปสู่สโมสรอื่นหากมีอนาคตที่ดีกว่า ทำให้ ณ วันนี้ ทีมพลังเอ็ม จึงต้องเจอกับปัญหาขาดแคลนนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์
ปีนี้ "โอสถสภา เอ็ม-150ฯ" ปรับทัพใหญ่ ตั้งแต่กุนซือใหญ่ มาจนถึงตัวนักเตะ "ขงเบ้ง"อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ อำลาบทบาทผู้ฝึกสอน ขณะที่ตัวนักเตะเก๋าเกมอย่าง กิตติศักดิ์ ระวังป่า, ศรายุทธ ชัยคำดี และ จักรกริช บุญคำ ต่างล้วนโบกมือลาไปหาความท้าทายใหม่ "วาตานาเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก คือชื่อที่ถูกเลือกให้ขึ้นมารับหน้าที่สำคัญในการนำพลพรรค "พลังเอ็ม" ไปสู่ความสำเร็จ แน่นอนว่าคำถามต้องตามมาว่า "เขาพร้อม..เขาเก่งแค่ไหน?"
หากย้อนไปดูปูมหลัง ไพโรจน์ถือเป็นลูกหม้อของโอสถสภา เคยเป็นมือขวาให้กับ "น้าชัช" ชัชชัย พหลแพทย์ จวบจนอาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่เช่นนี้กับไพโรจน์จึงไม่ใช่ของใหม่
โอสถสภาเอ็ม-150สระบุรี พลังหนุ่ม...เป้าหมายท็อปไฟว์
"ปีนี้ยอมรับเป็นงานยาก เพราะมาตรฐานแต่ละทีมที่เข้าร่วมล้วนแต่ดีๆ ทั้งนั้น ทีมที่แกร่งเมื่อปีกลายยังรักษามาตร ฐานเอาไว้ได้ ขณะเดียวกันทีมที่ต่ำชั้นกว่าสามารถยกระดับการเล่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ส่วนโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ฤดูกาลนี้ เรายังต้องการตัวนักเตะมาเสริมในแต่ละแดนอีกอย่างน้อยตำแหน่งละ 1 คน ซึ่งน่าจะเพียงพอกับการต่อกรกับคู่แข่ง" วาตานาเบ๊เปรย
แม้จะยังต้องเผชิญกับหลากหลายอุปสรรค ทั้งตัวนักเตะที่ขาดหายไป จึงทำให้ผลงานในการอุ่นเครื่องรวมถึงฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนสคัพออกมาไม่ดีอย่างที่หวัง
ตัวผู้เล่นหลักที่ทีมต้องฝากความหวังจึงเป็นภาระที่มาตกหนักอยู่กับดาวรุ่งยอดเยี่ยมไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมาอย่าง คัพฟ้า บุญมาตุ่น รวมไปถึง อภิภู สุนทรพนาเวศ ที่ย้ายกลับมาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซบรังเก่าอีกครั้งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เป้าหมายของทีมคือการลุ้นอันดับหัวตาราง แม้ว่าโอกาสเป็นแชมป์อาจดูไกล ทว่าฟุตบอลเกมของลูกกลมๆ และระบบลีกที่แข่งขันยาวนาน 30 สัปดาห์ ผู้ชนะคือผู้สม่ำเสมอ ซึ่งโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี หวังเอาไว้ว่า ที่สุดแล้วปัญหาการบาดเจ็บที่รบกวนทีมมาตลอดจะไม่มี
และที่สุดเป้าหมายที่วางไว้คือ 1 ใน 5 จะไม่หลุดมือไปไหน...!!!