มนัส ขอเป็นคนใหม่ - สุบรรณอยากแก้มือ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2549 19:11 น.

มนัส บุญจำนงค์ นักชกเหรียญทองคนเดียวของทีมชาติไทยใน โดฮาเกมส์ ยอมรับว่า ต้องการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่หลังกลับเมืองไทย ย้ำไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขอีก ด้าน สุบรรณ พันโนน รับอยากแก้มือกับนักชกจีนอีกครั้ง มั่นใจไม่เหมือนเดิมแน่

มนัส บุญจำนงค์ นักมวยสากลสมัครเล่นเจ้าของเหรียญทอง โดฮาเกมส์ เปิดเผยว่า เมื่อเดินทางกลับถึงไทยวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2549 ได้รับแจ้งจาก พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ว่า นักมวยทุกคนจะไปที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อขอบคุณที่เป็นผู้สนับสนุนสมาคมมาโดยตลอด จนสามารถทำเหรียญทองให้กับประเทศไทย หลังจากนั้น วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2549 จะไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับและมอบเงินรางวัลของรัฐบาลที่ทำเนียบ จากวันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2549 ต้องไปงานมอบรางวัลของ เอไอเอส กับงานเลี้ยงของกองทัพบกที่เลี้ยงยินดีให้กับนักกีฬาที่เป็นทหารบก

ขณะเดียวกัน มนัส ยังเปิดเผยต่อไปว่า ในวันเสาร์นี้จะไปวิ่งแก้บนที่พระบรมรูปทรงม้า รวม 60 รอบ ในช่วงค่ำ หลังจากที่ได้อธิษฐานขอพรให้ได้เหรียญใดเหรียญหนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ พร้อมกับจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นอกจากนี้ ตนจะปรึกษากับ พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ ว่า จะหาช่วงเวลาที่เหมาะสมช่วงใด เพื่อจะบวชแก้บนได้

ซึ่ง มนัส ยืนยันว่า หลังจากกลับไปเมืองไทยครั้งนี้ มนัส บุญจำนง จะเป็นคนใหม่ ที่ไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุขอีกแล้ว และต้องขอบคุณสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯที่ให้โอกาสได้แก้ตัวและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้สำเร็จอีกครั้ง

นอกจากนี้ อดีตฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกยังเปิดเผยด้วยว่า รู้สึกสะใจมากที่ชกเอาชนะทุกคนได้ในกาตาร์ เพราะทุกคนล้วนอยากล้มแชมป์โอลิมปิกทั้งนั้น สำหรับตนเองตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะต้องควอลิฟายด์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ได้ และอยากบอกทุกคนรวมถึงสมาคมมวยสากลฯ ด้วยว่าทีมมวยของจีนเจ้าภาพจะอันตรายที่สุดในตอนนั้น เพราะได้เปรียบที่เป็นเจ้าภาพ และจีนหวังเป็นเจ้าเหรียญทองด้วย

สำหรับ มนัส บุญจำนงค์ ถือเป็นนักชกมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยคนที่สองต่อจาก สิงห์จอมโม้ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกขวัญใจชาวไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และ ซีเกมส์ ครบทั้งสามรายการ

ขณะที่ในรายของ สุบรรณ พันโนน นักชกเหรียญเงินรุ่น 48 กก.วัย 28 ปี ของไทย เปิดเผยว่า ตนเสียดายมากที่พลาดเหรียญทองในการแข่งขันชกมวยในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่ประเทศกาตาร์ เนื่องจากยังมีความรู้สึกคาใจอยู่มากทีเดียว และรู้สึกเครียดมากขนาดนอนไม่หลับ

โดย สุบรรณ ยอมรับว่า อยากแก้มือกับนักชกจีนรายนี้อีกครั้ง เนื่องจากรู้สึกไม่ดีกับการแพ้อย่างขาดลอย เพราะในยกแรกก็ตามอยู่ 9-1 หมัด และชื่อว่าตอนนี้รู้ทางมวยของคู่แข่งดีแล้ว

ขณะที่หลังจบการแข่งขันชิงแชมป์รุ่น 48 กก.นั้น สุบรรณ ยังเปิดเผยอีกด้วยว่าฝ่ายโค้ชของทีมชาติจีนได้เดินมาพูดคุยด้วย และยอมรับว่าในรุ่นนี้โค้ชจีนกลัวเพียงนักชกไทยเท่านั้น