เส้นทางฟุตบอลของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีแบบแผน ทิศทาง และก้าวย่างอย่างมั่นคง ช่วงเป็นผู้เล่น เขามีเป้าหมายชัดเจนในการติดทีมชาติ จนทำสำเร็จ ก็มีเป้าหมายที่จะต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ เขาก็ทำได้ ไฝ่ฝันที่จะเป็นนักเตะอาชีพก็เดินทางไปอังกฤษมาแล้ว ก่อนที่จะพบชีวิตใหม่คือการไปขุดทองที่สิงคโปร์ และ เวียดนาม จนร่ำรวยกลับมา
ในวันที่เขาอำลาสนาม “ซิโก้” ประกาศชัดเจนที่จะต้องกลับมาสู่เส้นทางโค้ช เขาเริ่มต้นอบรม และผ่านระดับ บี ไลเซ่น มาแล้ว ก่อนที่จะหันไปจับธุรกิจกีฬา
จนโอกาสมาถึง เมื่อจุฬา ยูไนเต็ด มอบให้เขาทำหน้าที่ดูแลในฐานะโค้ชใหญ่เมื่อช่วงเลกสองไทยลีกปีที่แล้ว “ซิโก้” นำทีม เสือสามย่าน ที่ใกล้จะตกชั้นรอดตายได้อย่างสุดยอด แถมจบอันดับที่สวยงามด้วย
ผลงานในการคุม จุฬา ยูไนเต็ด ทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ตัดสินใจคว้าตัวเขาไปคุมในปีนี้ อย่างน้อยชื่อชั้นของ “ซิโก้” ก็ดูดีและเป็นขวัญใจของนักเตะรุ่นใหม่ แฟนบอลรุ่นใหม่ จะช่วยส่งเสริมด้ายการตลาดของทีมได้
จะว่าไป “ซิโก้” ก็ทำทีมได้ไม่เลว ผลงานระดับลุ้นแชมป์กันเช่นนี้ก็ต้องนับว่าไม่ธรรมดา แต่ความกดดันสูง คุมทีมใหญ่ รับค่าตัวแพง ก็ต้องรับผิดชอบสูงตามไปด้วย
ชลบุรี จากตั้งเป้าที่จะเน้นทั้ง 3 รายคือ เอเอฟซี คัพ,มูลนิธิไทยคม เอฟ.เอ.คัพ และ ไทยพรีเมียร์ลีก แต่มาถึงตรงนี้ เขาพลาดไปแล้ว 2 รายการ เหลือเพียงไทยลีกที่จะต้องลุ้น ถ้าพลาดขึ้นมาอีกถ้วย คงไม่ต้องถามว่า เส้นทางจากนี้ไปจะเป็นเช่นไร
ความจริงมันก็ส่งสัญญาณออกมาแล้ว ไม่ว่าการนิ่งเงียบของผู้บริหารชลบุรีที่ยังไม่ได้คุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ หรือการมีชื่อ “ซิโก้” ไปเป็นมือขวาของ ไบรอัน ร็อบสัน ในทีมชาติไทย
เพราะนั่นคืออนาคตจากนี้ไป ของโค้ชคนนี้ คือการเข้าสู่ระบบโค้ชทีมชาติเต็มตัว ฉนั้นคงไม่ต้องบอกว่า ซิโก้ กับ ชลบุรี ก็คงจะร่วมงานกันเพียงฤดูกาลเดียว
เพียงแต่จะจากแบบเจ็บช้ำ คือพลาดทุกแชมป์ หรือจะจากแบบแฮปปี้ เอ็นดิ้ง คือคว้าถ้วยไทยลีกทิ้งไว้เป็นที่ระลึกให้กับชาวชลบุรี