ถ้าหากจะนับฝีมือกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ในชั่วโมงนี้ มวยไทยคงไม่มีใครปฏิเสธ นักชกจากมหาสารคาม อย่าง แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ เป็นแน่แท้ เพราะผ่านการการันตีมาแล้วว่า เขาถือว่าเป็นสุดยอด ผ่านมาทุกสังเวียนแล้ว
แต่วันนี้ แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ หรือ สุภชัย แสนพงษ์ ได้พลิกชีวิตตัวเองอีกครั้งในบทบาทใหม่ แต่ยังเป็นกีฬาของนักสู้เหมือนเดิม ด้วยการร่วมทัพเป็นหนึ่งในนักเตะของ กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด น้องใหม่ในไทยลีก แต่กำลังลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว
ด้วยวัย 29 ปีที่ผ่านสังเวียนผ้าใบมาถึง 20 ปีเต็มๆ จะมาเล่นฟุตบอลลีกเบอร์ 1 ของเมืองไทยได้หรือเปล่า นั่นเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบในตอนนี้ เพราะถือว่าฉีกแนวพอสมควรเลยทีเดียว
''ดีใจครับ บอกตรงๆ ว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะที่ผ่านมาก็ได้แค่ดูและเชียร์เมืองทองฯ อยู่ข้างสนามเท่านั้นเอง แต่วันนี้ฝันก็เป็นจริงได้ลงฝึกซ้อม และมีโอกาสทดสอบฝีเท้ากับทีมที่เราชอบด้วย และเล่นกับนักเตะที่แต่ละคนล้วนแต่เบสิกฟุตบอลยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว''
ก้าวแรกที่ย่างลงสนามเมืองทองฯ ในการฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมและโค้ชแต๊ก อรรถพล บุษปาคม ดูเหมือนอาการตื่นเต้นของยอดมวยเมืองไทยจะเก็บอาการไม่อยู่เลยทีเดียว ต่างกับที่เขาขึ้นสังเวียนคว่ำคู่ต่อกรบนเวทีมาแล้วนับไม่ถ้วน
''ผมมาวันแรกในเชิงฟุตบอลต้องบอกว่าผมอ่อนมากๆ ถ้าเปรียบเทียบกับเชิงมวย ผมคงเหมือนเพิ่งเริ่มหัดชกมวยวันแรกแล้วมาเจอแชมป์เลย อะไรประมาณนั้นเพราะที่เมืองทองฯ เล่นฟุตบอลเป็นระบบ และทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมและมุ่งมั่นกันเต็มที่ ทำให้ผมต้องเกร็งและเต็มที่เหมือนกัน''
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน นักมวยค่าตัวไฟต์ละ 1 แสนบาท เป็นอย่างต่ำ ในแต่ละไฟต์ มาวันนี้มาพรสวรรค์ในกีฬาอีกอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือการเล่นฟุตบอล แต่ถ้าหากผ่านการทดสอบฝีเท้าเข้ามาเล่นกับ ''กิเลนผยอง'' เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จริงๆ แล้ว การจะทำอะไร 2 อย่างพร้อมๆ กันคงเป็นเรื่องลำบากแน่ๆ
''ช่วงนี้ผมไม่มีคิวจะต่อยอะไรทำให้มีเวลามาฝึกซ้อมกับทีมเมืองทองฯ ได้ตลอด แต่ถ้าหากมีโปรแกรมก็ต้องกลับไปซ้อมมวยอย่างเต็มที่เหมือนกัน แต่ถ้าหากวันข้างหน้าจะต้องเลือกจริงๆ ก็คงต้องดูก่อนว่าเราถนัดทางไหน รักทางไหน ยอมรับว่าการได้มาเล่นฟุตบอล มาซ้อมฟุตบอลกับสโมสรและพี่ๆ ในทีมแบบนี้ เป็นความสุขและเปลี่ยนบรรยากาศที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ยังไงขอให้ถึงวันที่ต้องเลือกจริงๆ ค่อยมาว่ากันอีกทีดีกว่า ว่าจะเลือกอะไรระหว่างฟุตบอลกับชกมวย''
อย่างที่รู้กันแสนชัยขึ้นชกได้ไฟต์ละ 1 แสนบาทเป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าหากมาเล่นฟุตบอลจริงจังเขาเองจะคิดกับเรื่องค่าเหนื่อยหรือค่าตอบแทนให้กับตัวเองอย่างไร
''โอ๊ยเรื่องนี้ผมยังไม่คิดหรอกครับ เพราะผมไม่รู้เรื่องทางนี้จริงๆ ถ้าหากผมติดทีมเมืองทองฯ จริงๆ ก็คงแล้วแต่ผู้บริหารทีมว่าจะให้โอกาสและให้ค่าเหนื่อยเท่าไหร่ ผมคงไม่กล้าไปเรียกร้องอะไร เนื่องจากวันนี้การได้เล่นและซ้อมก็พอใจมากๆ แล้ว''
ขณะที่โค้ชแต๊ก อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ของเมืองทองฯ ได้ออกมายกย่องนักเตะ และนักมวยคนนี้ว่าเป็นคนที่น่าทึ่งเพราะมีพรสวรรค์กีฬาถึง 2 อย่างในคนคนเดียวทั้งชกมวยและเล่นฟุตบอล ถ้าหากแสนชัยสามารถผ่านการทดสอบครั้งนี้ได้ แน่นอนว่าเมืองทองฯ พร้อมจะอ้าแขนรับเข้าร่วมกับทีมอย่างปฏิเสธไม่ได้แน่นอน
''แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวแสนชัยเองว่าจะสามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้ขนาดไหน ถ้าหากปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว ก็มีโอกาสที่จะเข้ามาช่วยทีมได้สบายๆ แต่ถ้ายังไม่ได้ก็ต้องค่อยๆ รอโอกาสต่อไปในอนาคตด้วย''
ต้องรอดูกันว่านักมวยเบอร์ 1 ของเมืองไทยอย่าง แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ จะสามารถพิสูจน์ตัวเองบนถนนสายลูกหนังกับทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้หรือเปล่า ฝีเท้าของเขาเองเป็นเครื่องพิสูจน์