ซิโก้ ยิ้มชลบุรีจ่อแชมป์เลกแรก สะสม บ่นเชิ้ตดำแย่
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือชลบุรี เอฟซี ยิ้มแก้มปริที่ลูกทีมบุกกำชัยเหนือ การท่าเรือไทย เอฟซี 2-1 พร้อมทั้งจ่อคว้าแชมป์เลกแรก ศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ขณะที่ สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ชสิงห์เจ้าท่ายอมรับทีมพ่ายเพราะปิดสกอร์ไม่ลง และบ่นอุบถึงผู้ตัดสินว่ายังคงเป็นรอยด่างของวงการฟุตบอลไทย
ฟุตบอลลีกสูงสุดแดนสยาม สัปดาห์ที่ 15 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา “ฉลามชล” บุกสยบ “สิงห์เจ้าท่า” ถึงสนามแพท สเตเดียม ย่านคลองเตย ทำให้แซง บางกอกกล๊าส เอฟซี ขึ้นมารั้งจ่าฝูงแทนอย่างน้อย 24 ชั่วโมงจากการมี 30 คะแนน ซึ่งหาก “กระต่ายแก้ว” เอาชนะ นครปฐม เอฟซี ไม่ได้ก็จะคว้าแชมป์เลกแรก
หลังจบแมตช์ “ซิโก้” ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า “วันนี้เป็นเกมที่มีความหมายมาก ซึ่งผู้เล่นทุกคนต่างทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ต้องยอมรับว่า การท่าเรือฯ เล่นในบ้านได้ดี กว่าจะชนะได้ก็ลำบากพอสมควร วันนี้ต้องขอบคุณแฟนบอลทั้งสองทีมที่ช่วยกันสร้างสีสันให้ฟุตบอลไทยคึกคัก แม้จะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ทว่าหนักนิดเบาหน่อยก็เพียงแค่ในเกม จบแล้วเราก็เป็นเพื่อนกันได้”
“จังหวะเสียประตูเกิดขึ้นเพราะเสียสมาธิเล็กน้อย ซึ่งเราเติมเกมรุกจนแนวรับเกิดรอยรั่ว แต่ขอชมเชยว่านักเตะกลับมาตั้งหลักกันได้เร็ว ตอนนี้เราจบเลกแรกด้วยการอยู่หัวตารางถือว่าน่าพอใจ ซึ่งเราจะต้องค่อยๆ ก้าวเดินต่อไปและยืนระยะให้มั่นคง เพื่อโอกาสคว้าแชมป์ในบั้นปลาย” อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา ปิดท้าย
ด้าน “เสือเตี้ย” นายใหญ่การท่าเรือกล่าวอย่างหัวเสียถึงทีมผู้ตัดสินว่า “จริงๆ แล้วนักเตะก็ทำผลงานในสนามได้ดี มีเพียงบางจังหวะที่รวนไปบ้างทำให้พลาดเสียประตู คงต้องแก้ปัญหาเรื่องเกมรับกันอีก แต่โดยภาพรวมถือว่ายังพอใจอยู่กับเกมที่สูสีอย่างวันนี้”
“สิ่งที่ผมไม่ประทับใจคือ ผู้ตัดสิน ผมไม่อยากใช้คำว่าสิงห์เชิ้ตดำแต่น่าจะเรียกว่าเป็นรอยด่างของวงการฟุตบอลไทยมากกว่า มาตรฐานยังไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย จังหวะให้ใบแดง (ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ ผู้รักษาประตู ช่วงทดเจ็บครึ่งหลังที่เข้าไปประท้วงเอาลูกเตะมุม) ถือว่ารุนแรงเกินไป ถ้าไล่นักเตะอย่างนี้เขาก็สามารถไล่ยกทีมได้ แต่พูดไปก็ทำอะไรไม่ได้ คงได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับสภาพกันต่อไป”
พร้อมกันนี้ โค้ชสะสม ยังมองถึงเป้าหมายในเลกสองของทีมดังย่านคลองเตยว่า “ผมยังพอใจที่ทีมอยู่ในอันดับเลขตัวเดียว (ที่ 7) ตามที่คาดหวัง เพราะตอนนี้แต่ละทีมในไทยลีกถือว่ามาตรฐานไม่ห่างกัน เราเองก็สามารถสู้กับ ชลบุรี หรือทีมอื่นๆ ได้หมด แต่สิ่งที่ต้องแก้คือเรื่องจังหวะสุดท้ายที่ควรปรับให้เฉียบขาดกว่านี้ ส่วนในเลกสองผมเล็งไว้ที่กลุ่มหัวตาราง เพราะเข้ามาทำงานแล้วคงไม่หวังเป้าหมายเล็กๆ และเชื่อว่าศักยภาพผู้เล่นดีพอที่จะไปถึงตามเป้าหมายได้”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์