อาการพ้นโคม่า ต่อลมหายใจ ไทยลีก63ล้าน

ความเคลื่อนไหวของการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่จะเปิดฉากในเดือน มี.ค.นี้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก บิ๊กเปี๊ยกองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่า ตอนนี้สมาคมฟุตบอลฯจะเซ็นสัญญาเอ็มโอยู กับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณที่ทาง กกท. จะเข้ามาสนับสนุนจำนวน 63 ล้านบาท ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16 ก.พ.นี้ สำหรับงบประมาณที่ได้มาจะใช้ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ ลีก, ดิวิชั่น 1, ดิวิชั่น 2 และโปรลีก


อย่างไรก็ตาม สำหรับงบประมาณก้อนนี้เมื่อมารวมกับทาง ปตท.ให้มา 10 ล้านบาท ก็ถือว่ายังต้องหาเพิ่มอีกเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ 110 ล้านบาท เพราะโครงการต่างๆที่เราจะทำในปีนี้จะยึดเอาตามโครงการ วิชั่นไทยแลนด์ โดยจะมีการเร่งทางเอเอฟซีให้ดำเนินการส่งวิทยากรเพื่อมาอบรมโค้ชระดับเอไลเซนต์ให้กับโค้ช ไทยลีกของเราก่อนที่จะเปิดฤดูกาล รวมทั้งการอบรมบีไลเซนต์, ซีไลเซนต์ นอกจากนั้นก็ยังมีโครงการอบรมผู้ตัดสินที่เราจะเน้นให้มีมาตรฐานในการตัดสินมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตนพร้อมด้วยนายกสมาคมฟุตบอลจะเดินทางไปประชุมเอเอฟเอฟที่มาเลเซียคงจะมีการเร่งเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น

นอกจากนั้นในส่วนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการต่างๆของเอเอฟซี ปีนี้ทางสมาคมฟุตบอลได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 16 ปี ชาย ชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือกแล้ว โดยคาดว่าจะใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน กับสนามศุภชลาศัยเป็นที่รองรับ ส่วนรายการอื่นๆก็ยังต้องปรึกษากับทางท่านนายกสมาคมฟุตบอลว่าจะว่ายังไงเลขาฯสมาคมลูกหนังไทย กล่าวเสริม


ส่วน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก
ได้กล่าวเสริมว่า ในส่วนของ พ.ร.บ.ล้มบอล ตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนเพราะว่าเรื่องของ พ.ร.บ.นี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานทำเรื่องไปยังสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นตอนนี้สมาคมฟุตบอลฯจะไม่สามารถทำคนเดียวได้ จะต้องมี กกท.เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง เชื่อว่าหากช่วยกันได้ พ.ร.บ.ป้องกันการล้มบอลในบ้านเราน่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนแรกของสมาคม ฟุตบอลที่รับผิดชอบก็คงจะต้องออกกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนออกมาในการกำกับดูแลเรื่องนี้เหมือนกัน โดยกฎระเบียบสโมสรสมาชิกที่เข้าร่วมต้องเห็นพ้องต้องกันด้วย รวมทั้งสมาคมฟุตบอลฯจะต้องขอความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยเหลือในเรื่องสืบสวนสอบสวนด้วยอีกแรง

ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกยังได้กล่าวอีกว่า ในส่วนของสิทธิประโยชน์ของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกตอนนี้ยอมรับว่ายังน่าเป็นห่วง ยังไม่มีรายได้เข้ามา เพราะเราจะต้องรอเรื่องของสิทธิประโยชน์จากการถ่ายทอดสดของแต่ละสโมสร อย่างไรก็ดี ในเรื่องของสิทธิประโยชน์ตรงนี้ต้องรอสักระยะ เพราะว่าเราจะต้องขายสินค้าที่เป็นการแข่งขันฟุตบอลว่าจะออกมาเร้าใจและตื่นเต้นแค่ไหนหากเป็นที่ถูกใจของสปอนเซอร์ก็จะมีสิทธิประโยชน์เกิดขึ้นตามมา

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์