สมาคมนักข่าวและช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ตั้ง 10 ฉายาคนกีฬา 2008
นายวีระศักดิ์โดนหางเลขต้องยุติบทบาททางการเมืองนาน 5 ปี
พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการโอลิมปิกไทย ฉายาเก้าอี้ข้าใครอย่าแตะ เหตุผลเพราะเป็นแม่บ้านโอลิมปิกไทยมาตั้งแต่ปี 2528 และผจญกับข่าวเลื่อยขาเก้าอี้มาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครแย่งไปได้ โดยเจ้าตัวประกาศจะนั่งเลขาฯ โอลิมปิกต่อไปอีก 4
นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท. ฉายาผู้ว่ามาเหนือบอร์ด ฉายานี้ได้มาจากผลพวงการประเมิณการทำงานในรอบ 6 เดือน และรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้ว่าหนุ่มจะมีคะแนนผ่านแบบเฉียดฉิวมาโดยตลอด จนได้รับฉายาดังกล่าวไป
นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล ฉายานักรบสิบทิศ เพราะในรอบปี 2551 เจอมรสุมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเก้าอี้ที่นายเก่าจะแย่งคืน ฟุตบอลไทยลีก ปัญหาภายในสมาคม เรียกได้ว่ามีทั้งศึกในศึกนอก แต่ท้ายที่สุดบังยีก็ผ่านวิกฤติเหล่านี้มาได้
ร.ท.สมจิตร จงจอหอ ฉายากำปั้นสุดท้าย เพราะยอดมวยจากบุรีรัมย์ คือตัวอย่างของความสำเร็จที่อดทนรอเหรียญทองโอลิมปิกมานานถึง 12 ปี ซึ่งถือเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายของสมจิตรในวัย 33 ปี
น.ส.ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ฉายาน้องเก๋เจ๊สั่งได้ เพราะถือเป็นนักยกน้ำหนักลูกรักของคุณบุษบา และพล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ทุกอย่างในการตัดสินใจของประภาวดี มักจะต้องถามความเห็นจากคุณบุษบา และพลตรีอินทรัตน์ อย่างสม่ำเสมอ
ส่วนฉายาของคนอื่นๆ ธนา ชัยประสิทธิ์ ได้รับฉายานักบุญใจเกินร้อย ศ.เจริญ วรรธนะสิน ฉายาเจริญไฮแจ็ค และพล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ฉายาแฉเพื่อชาติ (หน้า)