เกริกฤทธิ์ เปิดใจหลังคัมแบ็คช้างศึก‘แม้เป็นอุ่นเครื่อง แต่มีความหมายกับผม’

เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ปีกซ้ายกัปตันทีม ชลบุรี เอฟซี เปิดใจหลังกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ในรอบ 2 ปี ชี้แม้เป็นเพียงทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง แต่มีความหมายกับตนเองมากๆ ในการลุยไชนา คัพ 2019 ที่ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2562 ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่า เดย์

โดย สุมัญญา ปุริสาย กองกลางจาก การท่าเรือ เอฟซี ถอนตัวออกไป เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ก่อนที่ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ จะถูกเรียกเข้ามาแทนที่ ซึ่งเป็นการกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่มีชื่อในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่บุกพ่าย ทีมชาติญี่ปุ่น 4-0 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2017

"ดีใจครับที่ ได้กลับมาอีกครั้ง ในรอบ 2 ปี ช่วงที่ผ่านมา ผมพยายามทำงานค่อนข้างหนัก ทั้งกับตัวเอง และกับทีม ก็คิดอยู่ตลอดว่า อยากกลับมาอีกครั้ง จนกระทั่งถึงวันนี้ ก็ไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากดีใจจริงๆ ครับ" เกริกฤทธิ์ กล่าวหลังการฝึกซ้อมวันแรก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา

"มันเหมือนว่า ผมได้กลับมาเริ่มต้นในทีมชาติ อีกครั้ง ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ครับ เพราะผมก็รู้ว่า มันไม่มีอะไรมาการันตีว่า ผมจะได้เล่นหรือเปล่า ดังนั้น ทุกการฝึกซ้อม ผมจะทุ่มเทเท่าที่ทำได้ครับ และ พยายามรักษาโอกาสตรงนี้ให้ได้นานที่สุด"

ดาวเตะวัย 28 ปี ยังกล่าวต่อว่า "ช่วงที่หลุดไป มันก็สอนอะไรผมหลายอย่างครับ อย่างแรก ในเรื่องความทุ่มเท ที่ต้องมีมากขึ้น และในสิ่งที่เราขาด หรือไม่มี เราต้องพยายามทำมันให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าเกิดเราย่ำอยู่กับที่ วันหนึ่งก็ต้องมีคนแซงเราได้ ก็พยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาครับ"

"ถามว่าท้อมั้ย ผมไม่ท้อครับ กลับกัน ผมเข้าใจมากกว่า เพราะถ้าเราฟอร์มตก มันเป็นปกติอยู่แล้ว ที่จะไม่มีชื่อ ก็แค่พยายามทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ"

"ขณะที่การซ้อมวันแรก สนุกดีครับ ได้เจอทั้งเพื่อนเก่า ที่คุ้นเคยกัน และเพื่อนใหม่ โดยรวม ก็เป็นบรรยากาศที่ดีครับ ส่วนตัวผม ถ้ามีโอกาสลงสนาม ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ เรื่องผลการแข่งขัน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็หวังว่าจะเอาชนะกลับมาให้ได้"

"ขอบคุณทุกคนครับ ที่เชียร์ผม และ ให้กำลังใจผมมาตลอด สัญญาว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด และแม้ว่าจะเป็นอุ่นเครื่อง แต่ก็มีความหมายกับผมมากๆ" กัปตันฉลามชล ปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 19 มีนาคมนี้ ก่อนประเดิมพบกับ ทีมชาติจีน (เจ้าภาพ) วันที่ 21 มีนาคม ขณะที่ ทีมชาติอุรุกวัย จะพบกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน วันที่ 22 มีนาคม โดยผู้แพ้ของทั้งสองคู่จะไปเล่นนัดชิงที่สาม และผู้ชนะจะไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 25 มีนาคม วันเดียวกัน

เครดิตแหล่งข้อมูล : fathailand.org