หมดยุคไทย! โค้ชฟิลิปปินส์-อินโด สบประมาท ไม่ใช่คู่แข่งชิงAFF

ไม่ใช่ทีมชาติไทย "อัลเฟรด รีเดิล" โค้ชอินโดนีเซียมั่นใจแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2018 จะเป็นของเวียดนาม หรืออินโดนีเซียเท่านั้น

หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติอินโดนีเซียชาวออสเตรีย "อัลเฟรด รีเดิล" เชื่อว่าทีมชาติไทยจะไม่สามารถป้องกันแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2018 ไว้ได้ นอกจากนั้น โค้ชจอมเก๋าวัย 68 ปี ยังเชื่อมั่นว่ามีเพียงสองชาติที่มีสิทธิ์คว้าแชมป์ปีนี้ นั่นคือ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เท่านั้น

"อัลเฟรด รีเดิล" เคยคุมทีมชาติเวียดนาม(1998-2000,2003-2004,2005-2007) และอินโดนีเซีย(2010-2011, 2013-2014, 2016-ปัจจุบัน) ชาติละ 3 ครั้ง และปัจจุบันคุมบังเหียนคุมทีมชาติอินโดนีเซียอยู่

ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่า "อัลเฟรด รีเดิล" จะเข้าข้างหรือเอนเอียงให้ชาติไหนเป็นพิเศษ เพราะเค้าบอกเหตุผลที่เค้าคิดว่า อินโดนีเซียหรือเวียดนามน่าจะได้แชมป์ได้มากกว่าไทย เพราะ ณ เวลานี้ ทั้ง อินโดนีเซีย และเวียดนาม มีสรรพกําลังตัวผู้เล่นที่พร้อมกว่า อีกทั้งผลการแข่งขันในช่วงนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

จากรายชื่อที่ปล่อยออกมาทั้งของ อินโดนีเซีย และเวียดนาม จะเห็นว่าส่วนใหญ่ จะยึดตัวผู้เล่นชุดเดียวกันกับที่ใช้ในการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2018 ที่ผ่านมา

เวียดนามที่นำทัพด้วยโค้ช "พัก แฮง-ซอ" สามารถพาทีมชาติเวียดนามทะลุไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในขณะที่อินโดนีเซีย จบที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยแพ้ให้กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการดวลจุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลในเอเชียนเกมส์ 2018

---
ด้วยความร่วมมือกันของนักเตะทั้งรุ่นใหม่ และนักเตะรุ่นเก๋า มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2018 จะตกเป็นของ อินโดนีเซีย หรือเวียดนาม กลับกัน ที่ทีมชาติไทยต้องขาดกำลังหลักไปหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา และคนอื่นๆอีกมากมาย

"แม้ว่าโดยส่วนมาก ทีมชาติไทยมักจะคว้าแชมป์ AFF SUZUKI CUP อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผมคิดว่าอินโดนีเซียและเวียดนามมีสิทธิ์ที่จะเป็นแชมป์" อัลเฟรด รีเดิล ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

--
ด้าน สเวน โกรัน อีริคสัน ที่ปัจจุบันนั่งแท่นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติฟิลิปปินส์ เผยถึงความรู้สึกต่อทีมชาติไทยในการแข่งขันรายการนี้ว่า 

"ทีมชาติไทยเป็นทีมที่ดีพวกเขาเป็นทีมที่มีความฝันที่จะพัฒนาก้าวไปข้างหน้า และเป็นทีมที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้ แต่ผมเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ช่องว่างของทีมชาติไทยกับชาติอื่นๆ นั้นไม่ได้ห่างกันมาก อย่างเช่นกับเวียดนาม และฟิลิปปินส์ หรือชาติอื่นๆ ที่มีแนวโน้มในอนาคตจะพัฒนาศักยภาพตัวเองเพื่อลดช่องว่างความห่างกันทีมชาติไทยได้ ซึ่งจะได้เห็นกันในเอเอฟเอฟซูซูกิ ที่จะมาถึง"