สนามแตก!! มนต์ขลังบอลคิงส์คัพ คนดูเนืองแน่นล้นทะลักถึงขอบสนาม
วันที่ 22 มีนาคมนี้ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 จะได้ฤกษ์เปิดสนาม
ฟุตบอลคิงส์คัพยุคอดีตเต็มไปด้วยมนต์ขลัง ประวัติศาสตร์เคยจารึกปรากฏการณ์สนามแตกมาแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2536 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 24 การแข่งขันสมัยนั้น ยังเป็นแบบแบ่งออก 2 สาย สายละ 4 ทีม แต่ละสายแข่งแบบพบกันหมด อันดับ 1 ของสายเข้าไปไขว้กับอันดับ 2 ของอีกสายในรอบรองชนะเลิศ
ผู้ชนะในรอบรองเข้าชิงชนะเลิศ ดวลแข้งตัดสินแชมป์ที่จะได้ครองถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ฟุตบอลคิงส์คัพ พ.ศ.นั้นถือเป็นศึกลูกหนังเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ของเอเชีย
ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 24 ทีมชาติไทยส่งเข้าแข่งขัน 2 ทีม ทีมชาติชุดใหญ่อยู่สาย เอ นำโดย"เพชฌฆาตหน้าหยก"ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานดาวยิงตลอดกาลของสยามประเทศ
ขณะที่ทีมชาติชุดเล็กอยู่สาย บี เป็นทีมแห่งอนาคตฉายา "ดรีมทีม" นำโดย"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ศูนย์หน้าดาวรุ่งจอมตีลังกานัดประวัติศาสตร์สนามศุภชลาศัย สังเวียนฟาดแข้งแทบแตก เมื่อแฟนบอลหลั่งไหลเข้ามาเชียร์นักเตะไทยที่ได้เข้ารอบตัดเชือกทั้งชุดใหญ่และชุดเล็ก จนเนืองแน่นทุกที่นั่งทุกตารางนิ้วบนอัฒจันทร์
คลื่นคนดูหลายหมื่นที่ยัดทะนานอยู่ในสนามล้นทะลักลงลู่วิ่งเบียดเสียดกันเต็มขอบสนามทั้ง 4 ด้าน รวมๆแล้ววันนั้นสนามกีฬาแห่งชาติมีแฟนบอลเข้าไปล้นความจุนับแสนคน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย
วันนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2536 ทีมชาติไทยชุดใหญ่ตัดเชือกทีมชาติเกาหลีใต้ ขณะที่ทีมชาติชุดดรีมทีมตัดเชือกทีมชาติจีนกว่านักฟุตบอลจะลงสู่สนามได้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเคลียร์พื้นที่นับชั่วโมงการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกเร้าใจ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ชนะเกาหลีใต้ 1-0 ด้วยประตูชัยสุดสวยของ"เพชฌฆาตหน้าหยก"ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เข้าไปชิงถ้วยพระราชทานกับทีมชาติจีนที่เฉือนชนะทีมชาติไทยชุดดรีมทีม 2-1
>>>>
----
Cr::::khaosod.co.th