"โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือลูกหนังไทยเผยว่า
บาห์เรนเป็นทีมที่น่ากลัวมาก ทีมชั้นนำในเอเชียจะประมาทไม่ได้เลย อย่างคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว ก็เกือบได้ไปเตะรอบสุดท้ายที่เยอรมนี แต่มาพลาดท่าแพ้ตอนเตะเพลย์ออฟต่อ ตรินิแดดและโตเบโก ซึ่งผลงานในการคัดบอลโลกหนนี้ที่ผ่านมาไม่ธรรมดา เกมแรกบุกไปชนะโอมาน 1-0 เกมต่อมา เปิดบ้านชนะ ญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นมหาอำนาจลูกหนังของเอเชีย 1-0 จนนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม
กุนซือใหญ่ทีมลูกหนังไทยเผยอีกว่า
หลังจากได้ดูเทปการเล่นของทีมบาห์เรนทั้ง 2 นัด ทั้งที่ชนะทั้งโอมาน และญี่ปุ่นแล้ว จุดเด่นของทีมบาห์เรนคือ วินัยเกมรับดีมาก เล่นในสไตล์อิตาลี ทีมแชมป์โลกครั้งล่าสุด คือเกมรับเหนียวแน่น ลงไปตั้งรับหน้าปากประตู ตามประกบคู่ต่อสู้จนแผลงฤทธิ์ไม่ออก หากนักเตะคนใดคนหนึ่งเข้าแย่งบอล อีกคนหนึ่งคอยซ้อนทันที และไม่ค่อยเปิดเกมรุกแลกนัก ใช้การเซตบอลจากเท้าสู่เท้า เล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อน แต่หากคู่ต่อสู้บุกเพลินๆ แล้วตัดบอลได้จะโต้กลับเร็วทันที และมักเปิดเกมรุกด้วยการยิงประตูเสมอ การเล่นสไตล์นี้ทำให้ทีมอื่นอึดอัด เล่นด้วยยาก จนเขาเอาชนะญี่ปุ่นได้ในที่สุด เพราะญี่ปุ่นเจาะยังไงก็ไม่เข้า จนท้อไปเอง
พร้อมกันนี้"โค้ชหรั่ง" ยังเผยแผนการรับมือทีมบาห์เรนอีกว่า
เมื่อคู่ต่อสู้เล่นแบบนี้ ทีมไทยก็ต้องเล่นแบบปลอดภัยด้วยเช่นกัน แม้ทีมไทยไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมรุก แต่ในขณะเดียวกัน วินัยเกมรับต้องดีด้วย กองกลางต้องขยันลงไปช่วยในเกมรับ ส่วนการเล่นเกมรุกของทีมไทย ต้องเพิ่มความหลากหลาย เพราะเกมรับบาห์เรนเหนียวแน่นมาก ถอยไปตั้งรับปากประตู ตรงจุดนี้ทีมไทยต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ เลี้ยงหลบหรือทำลายโซนไปยิงประตู รวมทั้งฝึกการยิงจากแถวสอง และการผ่านบอลจากกราบสนามทั้งสองข้างต้องแม่นยำ ซึ่งเวลาที่เหลือจะต้องติวเข้มนักเตะในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ