ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ลงสนามฝึกซ้อมร่วมกันเป็นครั้งแรก หลังเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น โดยการฝึกซ้อมมีขึ้นสนามแน็คไฟว์ ในเมืองไซตามะ วันนี้ (25 มี.ค.60) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังเมื่อวานนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน อนุญาตให้นักเตะพักซ้อม 1 วัน เพื่อเป็นการผ่อนคลาย หลังเพิ่งกรำศึกหนักเปิดบ้านพ่ายให้กับซาอุดีอาระเบียมา 0-3 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และออกเดินทางไปเก็บตัวกันต่อที่ประเทศญี่ปุ่นทันที
ด้าน นูรูล ศรียานเก็ม ปีกขวาจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี ที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติอีกครั้งแทนโควต้าของธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายกัปตันทีมที่ติดโทษแบน เนื่องจากรับใบเหลืองครบ 2 ใบตามโควต้า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้านี้ นูรูลได้ออกเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้ว เพื่อตามไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมชาติไทย ที่เดินทางไปถึงก่อนตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วนตำแหน่งแบ็กซ้ายของธีราทร ล่าสุด "ซิโก้" ออกมาบอกว่า จะส่ง "เจ้าบาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เพื่อนร่วมทีมเมืองทองของธีราทร ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน เนื่องจากพีระพัฒน์พิสูจน์ให้เห็นแล้วในเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กับเมืองทอง ในการลงเล่นแทนธีราทร ที่บาดเจ็บนัดนั้น ทำให้เชื่อว่า บาสจะสามารถลงมาแทนกันได้อีกครั้งในนามทีมชาติ
สำหรับการฝึกซ้อมเย็นวันนี้ เริ่มจากฟื้นฟูร่างกายตามปกติ ก่อนเน้นในเรื่องแท็คติก ทั้งเกมรุก-เกมรับ รวมถึงวางระบบการเล่น ท่ามกลางอุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส โดยให้สื่อมวลชนเก็บภาพได้เพียง 15 นาที และใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง
หลังการฝึกซ้อม เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "การฝึกซ้อมในวันนี้คงเป็นการฟื้นฟูร่างกายนักเตะเล็กน้อย หลังจากที่เดินทางมาเหนือย แต่ก็ได้พักมาเต็มแล้ว 1 วัน ก็จะลงรายละเอียดเรื่องของแท็กติกและวิธีการเล่นลงไปด้วยเนื่องจากมีเวลาในการเตรียมการเพียง 2-3 วันเท่านั้น"
"การเจอกับญี่ปุ่น แน่นอนว่าทุกทีมเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่นักเตะทุกคนต้องทำคือ "ห้ามกลัว" การเล่นในระดับเอเชียจะต้องกลับตัวให้ไว ลืมความพ่ายแพ้จากนัดก่อนไปซะ ฟื้นตัวให้เร็ว และปรับตัวให้เร็ว ซึ่งการเดินทางมาญี่ปุ่นนั้นอาหารการกินไม่ต้องปรับมาก มีเพียงเรื่องอากาศ ซึ่งที่นี่ตอนเช้าประมาณ 4-5 องศาฯ แต่หากได้ลงฝึกซ้อมออกเหงื่อ ร่างกายอบอุ่นขึ้นก็จะดีขึ้น"
หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า "เรื่องสภาพจิตใจของนักเตะนั้น ในเกมที่แล้วทุกคนรู้ดีว่าการเอาชนะทีมในระดับเอเชียไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่ทุกคนเคยชินกับชัยชนะเท่านั้น ก็บอกลูกทีมว่าความพ่ายแพ้วันนั้นไม่ได้เป็นการแพ้ทีมในระดับอาเซียน แต่เป็นการแพ้ทีมในระดับเอเชีย ซึ่งนักเตะในทีมทุกคนซ้อมเต็มที่ ต้องการชัยชนะยิ่งกว่าแฟนบอล ตนเองก็อยากได้ ดังนั้นในเวลาที่ท้อ ก็อยากให้แฟนบอลช่วยกันดึงกลับขึ้นมา"
"เกมกับญี่ปุ่นนั้นทุกคนยืนยันชัดว่าจะสู้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องผลแพ้ชนะนั้นเป็นเรื่องของกีฬา แต่จะเล่นให้ดีที่สุดเพื่อให้ญี่ปุ่นเล่นได้ลำบากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนการต่อกรกับญี่ปุ่นนั้น โค้ชเฮง (วิทยา เลาหกุล) ได้เตรียมคำแนะนำและข้อมูลเอาไว้ให้แล้ว แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของทีมไทยให้ดีที่สุดด้วย"
สำหรับศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดต่อไปของทีมชาติไทย จะบุกไปเยือนทีมชาติญี่ปุ่น ที่สนามไซตามะ สเตเดี้ยม ในวันอังคารที่ 28 มีนาคมนี้ เวลา 17.35 น.