4 กำปั้นไทยลิ่ว ชิงทองซีเกมส์ แก้วต่อยแทบตาย แต้มไม่ขึ้นพ่ายปินส์

ทีมกำปั้นไทยตัดเชือกวันแรกทะลุชิง 4 รุ่น จาก 5 รุ่นเท่ากับเจ้าภาพฟิลิปปินส์ สมจิตร จงจอหอ งัดฟอร์มสุดยอดสอนเชิงนักชกตากาล็อกขาดลอย ขณะที่ วรพจน์ เพชรขุ้ม, พิชัย สาโยธา และ สุริยา ปราสาทหินพิมาย ต่างเข้าชิงด้วยการชนะแบบไม่ครบยกทุกคน มีเพียง แก้ว พงษ์ประยูร กลายเป็นเหยื่อกรรมการที่สุมหัวกันกดแต้มให้นักชกฟิลิปปินส์ ทั้งที่ชกได้จะแจ้งกว่าเยอะ เสธ.วีป พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคม ฉุนขาดประกาศงดส่งมวยเข้าร่วมหากฟิลิปปินส์ได้รับเลือกจัดไม่ว่ารายการใดและยังแก้ปัญหาการโกงไม่ได้

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 รอบรองชนะเลิศ วันแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่เมืองบาโคล็อด ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีนักชกไทยขึ้นชกตัดเชือกจำนวน 5 รุ่น โดยเป็นการเจอกับนักชกเจ้าภาพถึง 2 รุ่น

เปิดฉากด้วยรุ่นพินเวท แชมป์เก่า แก้ว พงษ์ประยูร แชมป์เก่า พบ ฮวนนิโต้ แม็คลิเควียน คู่ปรับชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยแพ้มาในรอบชิงชนะเลิศครั้งที่ 22 โดยเกมการชกถึงจะออกมาคู่คี่ แต่คะแนนกลับไม่เป็นเช่นนั้น นักชกฟิลิปปินส์ที่ชกแค่เฉี่ยวๆ คะแนนก็ขึ้น โดยเฉพาะในยกที่สาม ครบยก แก้ว จึงกลายเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปอย่างขาดลอย 25-37 ได้แค่เพียงเหรียญทองแดงกลับบ้านเท่านั้น ส่วน แม็คลิเควียน ผ่านเข้าไปชิงกับ ซอ มิน จากพม่า ที่ชนะคะแนนนักชกลาว

รุ่นฟลายเวท สมจิตร จงจอหอ แชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย พบ วานิโต้ ปาเลนาส นักชกเจ้าภาพ สมจิตร ซึ่งผ่านเกมการชกในระดับนานาชาติมาอย่างโชกโชน รู้ทันการให้คะแนนของกรรมการเลยไม่ยอมเข้าแลก อาศัยจังหวะฝีมือชกในลักษณะตีหัวเข้า ครบยกเป็นฝ่ายชนะคะแนนขาดลอย 16-10 ซึ่งเป็นนักชกรายแรกในซีเกมส์ที่เอาชนะนักชกฟิลิปปินส์ได้สำเร็จ และผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ ตัน กอก เวียต จากเวียดนาม ที่เอาชนะคะแนนนักชกอินโดนีเซีย รุ่นเฟเธอร์เวท วรพจน์ เพชรขุ้ม เหรียญเงินรุ่นแบนตัมเวท โอลิมปิก และแชมป์เก่าสองสมัย พบ เอ็ดดี้ คาไล นักชกมาเลเซีย โดยแค่ยกแรกเกมการชกต้องยุติเมื่อเหลือเวลาอีก 53 วินาที จะหมดยก นักชกเสือเหลืองเดินมาเข้าทางหมัดของ วรพจน์ ที่ได้จังหวะอัปเปอร์คัตขวาเข้าเต็มคางถึงกับทรุดลงไปนอนแผ่หรา ทำให้ วรพจน์ เป็นฝ่ายชนะ อาร์เอสซี ไปอย่างง่ายดาย โดยจะไปเจอกับ โจเกน ราดอน นักชกฟิลิปปินส์ ที่เอาชนะ อาร์เอสซี เอาท์สกอร์ นักชกเวียดนาม ยก 3

รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท พิชัย สาโยธา แชมป์เก่ารุ่นไลท์เวท พบ ชอง เวียน ตรวง จากเวียดนาม นักชกไทยซึ่งเหนือกว่ามากเป็นฝ่ายใช้จังหวะฝีมือดักทำคะแนนได้อย่างจะแจ้งจนกระทั่งปลายยกที่สอง กรรมการจึงต้องยุติการชก ขณะที่คะแนนของนักชกไทยนำอยู่ 23-3 ให้ พิชัย เป็นฝ่าชนะ อาร์เอสซี เอาท์สกอร์ ผ่านเข้าไปเจอ โรมิโอ บริน จากฟิลิปปินส์ ที่เอาชนะ อาร์เอสซี เอาท์สกอร์ นักชกพม่า

รุ่นมิดเดิลเวท สุริยา ปราสาทหินพิมาย เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ พบ บาร์ลา กอมเมส จากอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นอีกคู่ที่เกมจบเร็วมาก แค่เพียงไม่ถึง 30 วินาที สุริยา ไล่อัดลำตัวส่ง กอมเมส ร่วงให้กรรมการนับถึง 8 ได้สำเร็จ ก่อนที่จะไล่ต่อยอีกชุดและส่งนักชกอินโดนีเซียทรุดอีกครั้ง คราวนี้กรรมการนับถึง 8 และยุติการชกให้ สุริยา เป็นฝ่ายชนะ อาร์เอสซี แค่เพียงยกแรกเท่านั้น ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับ เรนันโด้ กาลิโด้ นักชกฟิลิปปินส์ ชนะ อาร์เอสซี เอาท์สกอร์ นักชกกัมพูชา ยกแรก

เสธ.วีป พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมกล่าวว่า จากการที่พานักชกไทยเดินทางไปชกมาทั่วโลก แต่ไม่เคยเห็นประเทศเจ้าภาพชาติใดที่โกงมากเท่านี้มาก่อน โดยเฉพาะคู่ของ แก้ว ซึ่งถือว่าโดนปล้นกันเห็นๆ ทั้งที่ได้ดูแลและกำชับมาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ ซึ่งหลังจากนี้หากฟิลิปปินส์มีโอกาสจัดมวยสากลสมัครเล่น ไม่ว่าจะเป็นระดับใดจะพูดในที่ประชุมถึงการตัดสินว่าหากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ไทย จะงดส่งทีมเข้าร่วม

ขณะที่นายชวาลา สุวรรณชีพ ผู้จัดการทีม กล่าวว่าเสียดายที่ แก้ว ถูกโกง ทั้งที่รูปเกมเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ชกแล้วแต้มไม่ขึ้นก็ไม่มีประโชยน์ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังมั่นใจว่าทีมกำปั้นไทยจะต้องคว้าเหรียญทองได้ตามเป้าหมาย 5 เหรียญทอง อย่างแน่นอน

สำหรับการชกรองรองชนะเลิศ วันที่สอง ในวันที่ 2 ธันวาคม อีก 4 รุ่น ที่เหลือ มีนักชกไทยขึ้นทำการชกตัดเชือกจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นแบนตัมเวท แท่งทอง คลองจันทร์ พบ นักชกอินโดนีเซีย และรุ่นเวลเตอร์เวท นน บุญจำนงค์ พบ นักชกอินโดนีเซีย ขณะที่มวยสากลสมัครเล่นหญิง นักชกสาวไทยตัดเชือก 2 รุ่น คือ รุ่นไลท์ฟลายเวท อุษณากร ถวิลสุวรรณ พบนักชกฟิลิปปินส์ และรุ่นไลท์เวท ราตรี เครือเค้ พบ นักชกอินโดนีเซีย