อาคารอเนกประสงค์ เอสซีจี สำนักงานใหญ่ บางซื่อ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวลงนามความร่วมมือต่อสัญญาการสนับสนุนระหว่าง "เอสซีจี" และสโมสรฟุตบอล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในรูปแบบของผู้สนับสนุนรายการใหญ่ หรือ title sponsor เป็นระยะเวลา 5 ปี ภายใต้งบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อสานต่อความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมตั้งเป้าพัฒนาไปสู่การเป็นสโมสรชั้นนำระดับเอเชียในอนาคตอันใกล้นี้ ภายใต้ธีม "BE THE FUTURE" ซึ่งในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารของเอสซีจี และสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมผู้เล่นครบทีม ท่ามกลางแฟนบอล และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง
นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวถึงการสนับสนุนสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต่อว่า "เอสซีจี เล็งเห็นความสำคัญของกีฬาที่สามารถช่วยพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพพลานามัยหรือจิตใจ รวมทั้งยังปรารถนาที่จะเห็นวงการกีฬาของไทยพัฒนาสู่ระดับโลก จึงให้การสนับสนุนกีฬาในหลากหลายประเภททั้งแบดมินตัน ฟุตบอล และ กอล์ฟ มาอย่างต่อเนื่อง และครบวงจร"
"สำหรับฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมของไทยรวมทั้งประเทศในอาเซียนนั้น เอสซีจีได้ให้การสนับสนุนสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับวงการฟุตบอลของไทยไปสู่ระดับนานาชาติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์องค์กรชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยั่งยืนในอาเซียน และทีมกิเลนผยองสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นที่ประทับใจของทั้งแฟนบอลชาวไทยและต่างชาติตลอดมา ดังนั้นการลงนามต่อสัญญาเป็นผู้สนับสนุนของเอสซีจี ครั้งนี้ จึงเป็นการสานต่อความสำเร็จกับสโมสร ซึ่งเป็นทีมอันดับหนึ่งของประเทศจากการคว้าแชมป์รายการต่างๆ มาครองได้อย่างมากมาย โดยมุ่งหวังการสนับสนุนดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้เล่นและผู้ฝึกสอนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างชื่อเสียงให้กับทีมฟุตบอลของไทยทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และระดับโลกต่อไป" นายยุทธนา กล่าว
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และ 5 ปีนับจากนี้ ต้องขอบคุณ เอสซีจี ที่ให้ความไว้วางใจ พร้อมที่จะสร้างอนาคตไปพร้อมกันกับสโมสร ซึ่งแน่นอนว่าในฤดูกาลหน้าเราวางเป้าหมายที่จะสานต่อความยิ่งใหญ่ที่ผ่านมา ด้วยการลงแข่งขันรายการต่างๆของไทยอย่างสุดความสามารถ ซึ่งเรามั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายแน่นอน"
"นอกจากประสบความสำเร็จในประเทศแล้ว สโมสรยังมีเป้าหมายใหญ่ที่จะก้าวขึ้นไปสู่การเป็นสโมสรชั้นนำในระดับเอเชีย ให้ได้ภายในเวลา 3-5 ปี เราจึงทำการเสริมทัพผู้เล่นระดับท็อปในประเทศไทย ผู้เล่นต่างชาติ และผู้เล่นดาวรุ่งฝีเท้าดี ที่พร้อมก้าวสู่ชุดใหญ่ ตลอดจนการพัฒนาสโมสรในด้านอื่นๆ"
ทั้งนี้ เอสซีจี เริ่มเข้ามาสนับสนุน เมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งแต่ฤดูกาล 2012 โดยเซ็นสัญญายาว 5 ปี ด้วยวงเงินสูงถึง 600 ล้านบาทพร้อมเข้าถือหุ้นสโมสร 30 เปอร์เซ็นต์ และเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด