แข้งไทยเฉือนกัมพูชาจืดเข้ารอบรองฯซีเกมส์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2548 17:11 น.

ขุนพลแข้งไทย ส่งชุดสำรองลงเล่นเกือบทั้งทีมเอาชนะ กัมพูชา ที่ตกรอบไปแล้ว 1-0 จากการทำประตูของ สมปอง สอแหลบ พร้อมกับผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ในการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลทีมชายในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่เมืองบาโคลอด ประเทศฟิลิปปินส์ ในเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2548 ซึ่งเป็นการแข่งขันในนัดสุดท้ายของสายเอ โดยนักเตะทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ กัมพูชา ที่ตกรอบไปแล้ว ซึ่งขุนพลแข้งแดนสยามสามารถผ่านเข้ารอบไปแล้ว และเกมนี้ขอแค่เสมอเท่านั้นก็จะได้เข้ารอบเป็นที่หนึ่งในสายทันที

โดยนัดนี้ โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าสต้าฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ตัดสินใจพักผู้เล่นตัวหลักหลายคน อาทิ ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ปรัชญ์ สมัครราษฎร์ และ สุรีย์ สุขะ ขณะที่ตำแหน่งกองหน้าก็เปิดโอกาสให้ สมปอง สอเหลบ ลงคู่กับ ปรีชา ชาวกล้า

หลังจากเริ่มเกมในครึ่งแรกทีมชาติไทยพยายามต่อบอลทำทางกันหาโอกาสพังประตู แต่ก็ยังไม่สำเร็จ เนื่องจากการจ่ายบอลตามช่อง และส่งบอลแบบเท้าถึงเท้ายังไม่แม่น ขณะที่นักเตะกัมพูชาก็พยายามปิดพื้นที่การเข้าทำอย่างหนักจนนักเตะไทยทำเกมไม่ถนัด และเกมทำท่าว่าจะเสมอกันอยู่แล้วในครึ่งแรก แต่ในนาทีที่ 45 ไกรเกียรติ เบียดตะคุ ปราการหลังทีมชาติไทยที่พยายามเติมเกมรุกทางริมเส้นด้านขวาได้โอกาสเปิดบอลมาให้ สมปอง สอเหลบ กองหน้าดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสให้เป็นตัวจริงในนัดนี้ขวิดประตูช่วยทีมชาติไทยออกนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก

เข้าสู่ครึ่งหลังรูปเกมยังคงเป็นแบบเดิม คือ ทีมชาติไทยเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องข้างเดียว แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ ขณะที่ทีมคู่แข่งอย่าง กัมพูชา ก็ไม่สามารถเปิดเกมรุกขึ้นมาสร้างจังหวะหวาดเสียวได้เลย กระทั่งสุดท้ายแข่งขันกันไปครบ 90 นาที นักเตะทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ ทำให้ขุนพลทีมชาติไทยเก็บชัยชนะในนัดนี้ไป 1-0

สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกที่จะลงสนาม ประกอบไปด้วย นริศ ทวีกุล, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ, ธาดา คีละลาย, ณัฐพร พันฤทธิ์, นพพล ปิตะฝ่าย, สุชนม์ สงวนดี, เอกพันธ์ อินทเสน, ศักดา เจิมดี, จักรกริช บุญคำ, ปรีชา ชาวกล้า และ สมปอง สอเหลบ

ซึ่งจากผลการแข่งขันในนัดนี้ทำให้ทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์กลุ่มเอ มี 9 คะแนน จากการแข่งขัน 3 นัด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปแล้ว โดยในรอบรองชนะเลิศทีมชาติไทยจะลงเล่นกับทีมอันดับที่ 2 ของสายบี ในเวลา 15.00 น. ของวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2548 ตามเวลาประเทศไทย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2548 17:09 น.

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทำการแข่งขันเป็นวันที่สามหมดครึ่งวันแรกทัพนักกีฬาไทยโกยเหรียญทองเพิ่มมาได้อีก 5 เหรียญจากกรีฑา 3 เหรียญ ยิงปืนเป้าบิน 1 เหรียญ และ คาราเต้โดอีกหนึ่งเหรียญทอง

โดยในช่วงเช้าเป็นการแข่งขันในกรีฑาในประเภทลู่ซึ่งทีมนักวิ่งไทยมีโอกาสลุ้นด้วยกันหลายประเภท และก็ไม่เป็นที่ผิดหวังเมื่อทีมไต้ฝุ่นหญิง 4 x 100 เมตรอันประกอบไปด้วย สังวาล จักษุนิล-อรนุช กล่อมดี-จุฑามาศ ถาวรเจริญ และนงนุช แสนราช คว้าเหรียญทอง เอาชนะทีมสาวเวียดนามมาได้อย่างงดงาม หลังจากนั้นเป็นการแข่งขันในประเภท 4x100 เมตรชาย ทีมไทยประกอบไปด้วย สมโภช สุวรรณรังษี-วัชระ สอนดี-เอกชัย จันทะนะ และ สิทธิชัย สุวรประทีป สามารถเอาชนะทีมนักวิ่งอินโดนีเซียและคว้าเหรียญทองมาครองได้เช่นกัน

จากนั้นเป็นการแข่งขันในประเภทข้ามรั้ว 400 เมตรหญิง วาสนา วินาโท ที่คว้าเหรียญทองมาเพิ่มให้กับทัพนักกรีฑาไทยได้อีกหนึ่งเหรียญด้วยสถิติ 57.20 วินาที ส่วนเหรียญเงินเป็นของนักวิ่งสาวชาวเวียดนาม และเหรียญทองแดงเป็นของเจ้าภาพฟิลิปปินส์

นอกจากกรีฑาที่ทำผลงานเป็นกอบเป็นกำแล้ววันนี้กีฬายิงปืนก็ยังสามารถคว้าเหรียญทองเพิ่มมาอีกหนึ่งเหรียญจากยิงปืนเป้าบินประเภทปั๊มแอคชั่น จากฝีมือของ ภัทรฉัตร วิเชียรสันต์ นักกีฬายิงปืนวัย 17 ปี ซึ่งทำเวลาในการยิงได้ต่ำสุดที่ 25.5 วินาที ซึ่งภายหลังการแข่งขัน น้องอาร์ม ภัทรพล กล่าวด้วยความยินดีว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทำเหรียญทองให้กับทีมชาติไทย ส่วนตัวแล้วซ้อมก่อนมาแข่งในครั้งนี้เพียงแค่ 1 เดือนทำผลงานได้ในระดับนี้ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก

ส่วนเหรียญทองสุดท้ายในช่วงครึ่งวันแรกของการแข่งขันซีเกมส์วันที่สาม มาจาก คาราเต้โด ซึ่งทำการแข่งขันที่เมืองเซบูโดยนักกีฬาคาราเต้โดไทย ญาณิษา ต่อรัตนวัฒนา คว้าเหรียญทองรุ่นทั่วไปหญิง มาได้สำเร็จ