ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกที่เพิ่งประมูลในปี 2560-2563 มีมูลค่าสูงถึง 4,200 ล้านบาท ตกปีละ 1,050 ล้านบาท ในอนาคตผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลมีแผนร่วมกับเซอร์เดวิด ริชาร์ด อดีตประธานพรีเมียร์ลีกจะขายลิขสิทธิ์โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกให้กับประเทศในย่านอาเซี่ยนและขยายไปสู่เอเชียเพื่อเพิ่มมูลค่า ดังนั้นค่าลิขสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2560 จึงจะเป็นแผนพัฒนาฟุตบอลลีกของไทยไปด้วย
วันนี้ (25 ต.ค.2558) เงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยพรีเมียร์ลีกนอกจากจะแบ่งให้กับสโมสรทั้งในโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก ยามาฮ่าลีกวัน เอไอเอส ลีกภูมิภาค โดยยามาฮ่าลีกวันกับเอไอเอสลีกภูมิภาคตลอด 4 ปี จะจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่จำนวนเท่ากัน แต่ในโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกตอนนี้มี 2 แนวทาง คือจ่ายให้สโมสรเพิ่มขึ้นทุกปี นี่เป็นตัวเลขสมมติเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น อย่างปีแรกสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกอาจได้ 25ล้านบาทในปีต่อไปจะเพิ่มขึ้นทุกปี
ปีละประมาณ 5 ล้านบาท หรือ อีก 1 แนวทางที่เป็นไปได้สูงจะใช้ เกณฑ์มาตรฐานคลับไลเซนซิ่ง หรือ ใบอนุญาตการลงเล่นตามมาตรฐานเอเอฟซี สโมสรใดผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะได้เงินค่าลิขสิทธิ์มากน้อยลดหลั่นลงมาอีก 3 ส่วนของเงินค่าลิขสิทธิ์ที่จะนำมาพัฒนาค่าตัดสิน
โครงการณ์พัฒนาผู้ตัดสิน เงินรางวัลที่อาจจะเพิ่มขึ้นและที่สำคัญค่าจ้างผู้จัดผู้ตัดสินจากต่างประเทศอาจจะให้เป็นเงินเดือนเดือนละ 500,000-600,000 บาท การใช้คนจัดผู้ตัดสินเป็นคนกลางจากต่างประเทศ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่ทำให้ทุกทีมเล่นอย่างสบายใจไม่ระแวงกันเหมือนที่ผ่านมา โดยใช้ผู้ตัดสินไทยลงทำหน้าที่และอาจจะใช้ผู้ตัดสิน 5-6 คนลงทำหน้าที่เหมือนกับในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเพื่อป้องกันความผิดพลาด