ยักษ์ TPLพลิกโดนสอยร่วง’โตโยต้า ลีก คัพฯ’ระนาว!

ธนาโป้งปิดบัญชี! โปลิศ 10 คนล้มยักษ์กิเลน 2-0

ลำพูนพลิกเขี่ยแข้งเทพร่วงลีกคัพ 2-1

แบงค็อกกลายเป็นอีกทีมที่ต้องโบกมือลารายการโตโยต้า ลีก คัพหลังบุกไปแพ้ทีมจากดิวิชั่นสองไปแบบหวุดหวิด

ศึกโตโยต้า ลีก คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายไปที่จังหวัดลำพูน ลำพูน วอร์ริเออร์ ทีมจากดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมจากลีกสูงสุด

เกมนี้มาโน โพลกิ้งวางตัวหลักไว้หลายรายนำโดยสรรวัชญ์ เดชมิตรและรณชัย รังสิโยเป็นทีเด็ดในแดนกลางและแดนหน้า

เริ่มเกมมาแค่สองนาทีแบงค็อกเกือบมาได้ประตูออกนำจากจังหวะที่สรรวัชญ์ได้หลุดไปกดด้วยซ้ายแต่บอลชนเสากระเด้งออกหลังไป

และนาทีที่ 8 แบงค็อกก็มาได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะที่สรรวัชญ์ยกบอลให้แอนโธนีแตะด้วยหัวเกือกข้ามหัวนายทวารลำพูนเข้าไปช่วยให้แข็งเทพขึ้นนำไปก่อน 1-0

แบงค็อกยังคงไม่ผ่อนเกมและมาได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 26 จากจังหวะที่เสนีย์จ่ายให้รณชัยได้เข้าฮอร์สระยะไม่ถึงหกหลาแต่โดนบอลไม่ดีเหินข้ามคานออกไป

และนาทีที่ 33 ลำพูนเกือบมาได้ประตึเสมอจากจังหวะที่ชยพลได้ปั่นด้วยซ้ายแต่กิตติพงษ์ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด

ครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบลงด้วยการที่แข้งเทพจะนำอยู่แล้ว แต่กลายเป็นลำพูนที่มาได้ประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายจากลูกเตะมุมที่กิตติพงษ์ออกมาตัดลูกเตะมุมพลาดแล้วเป็นธีรวุฒิที่ดีดที่เสาสองเข้าไปช่วยให้เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงสองนาทีแข้งเทพมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกและเป็นสรรวัชญ์ที่ได้ปั่นด้วยซ้ายแต่นายทวารลำพูนยังปัดออกมาเข้าทาพลวัฒน์ซ้ำด้วยซ้ายเหินข้ามคานออกไป

แต่นาทีที่ 49 กลายเป็นลำพูนที่ได้ประตูพลิกขึ้นนำจากจังหวะที่ชยพล ได้ตั้งป้อมยิงไกลก่อนกดด้วยขวาบอลพุ่งข้ามตัวกิตติพงษ์เสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้เจ้าถิ่นแซง 2-1

นาทีที่ 63 แบงค็อกอยู่เฉยไม่ได้แล้วต้องส่งดราแกน บอสโควิช, สมปอง สอเหลบและเลอันโดร ตาตู้ลงมาเล่นแทนคาลิฟา ซิสเซ, สรรวัชญ์ เดชมิตรและรณชัย รังสิโย

แข้งเทพพยายามบุกอย่างหนักเพื่อหวังจะทวงประตูคืนให้ได้โดยทั้งบอสโควิชและตาตู้มาได้ลุ้นยิงคนละครั้งในนาทีที่ 66 และ 73 แต่ก็ยังไม่เข้ากรอบ
นาทีที่ 83 แบงค็อกมาได้ลุ้นจากจังหวะที่สมปองผ่านบอลจากกาบซ้ายให้เสนีย์วิ่งเข้ามาชาร์จข้ามคานออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือแบงค็อกพยายามทำประตูตีเสมอแต่ไม่สำเร็จจบเกมเป็นลำพูนที่พลิกล็อคเฉือนชนะไป 2-1 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ถึงฎีกา!ขอนแก่นแม่นโทษเขี่ยพลังเอ็มร่วงลีกคัพ

ฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมจากดิวิชั่น 2 โซนอีสาน เปิดบ้านพบ โอสถสภา เอ็ม 150 ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก
เริ่มเกมครึ่งแรกได้เพียง 4 นาที ทีมเยือนเป็นฝ่ายสร้างโอกาสลุ้นประตูก่อนถึงสองครั้งจากการยิงไกลของ แอนโธนี่ โคเมนัน และ จักรกริช บุญคำ แต่ยังไม่ตรงกรอบ

นาที 13 แอนโธนี่ โคเมนัน ได้จักรยานอากาศในกรอบแต่ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านยังพุ่งปัดออกหลังได้ทัน นาที 18 เจ้าบ้านตอบโต้หวาดได้หวาดเสียวเมื่อ กฤติน หล่อจันอัด ได้จังหวะยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลหลุดออกหลัง
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรกทีมเยือนเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจนแต่เจาะแนวรับของเจ้าถิ่นไม่ได้ นาที 33 แอดดิสัน อัลเวส ได้โอกาสสับไกยิงในกรอบเขตโทษก่อนที่ วสันต์ นาทะสัน จะพยายามยื่นเท้าเปลี่ยนทางบอลเข้าไปตุงตาข่ายแต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้วสันต์ ล้ำหน้า ทำให้ทีมเยือนพลาดได้ประตูขึ้นนำ

ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านพยายามเปิดเกมรุกเข้าสู้และทำได้ดีสร้างโอกาสบ่อยครั้งแต่ทำอะไรไม่ได้มากนักจบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังทีมเยือนปรับทัพทันทีด้วยการถอด วสันต์ นาทะสัน ออกแล้วส่งบุญมี บุญรอด ลงสนามแทน นาที 49 กฤติน หล่อจันอัด กองหลังเจ้าถิ่นโดนใบเหลืองคนแรกของเกม ก่อนที่ จักรกริช บุญคำ กองกลางทีมเยือนจะโดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์กลางสนาม 

เกมเข้าสู่หนึ่งชั่วโมงแรกเจ้าบ้านปรับทัพทีเดียวสองคนด้วยการถอด คิม มอง จู และ เดวิด สร้างนานอก ออกแล้วส่งซามูเอล ควาคู กับ อิสระพงษ์ ลิละคร ลงเล่นแทน 

นาที 63 ทีมเยือนปรับทีมอีกครั้งด้วยการถอด จักรกริช บุญคำ ออกแล้วส่ง อภิภู สุนทรพนาเวศ ลงเล่นแทน นาที 80 เจ้าบ้านปรับทีมครั้งสุดท้ายการส่ง เอกพจน์ คงเกตุ ลงแล่นแทน ธีรยุทธ งามละม้าย 

นาที 83 ขอนแก่น ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูขึ้นนำจากการโหม่งตรงเส้นเขตโทษของ เอกพจน์ คงเกตุ แต่ว่าฉัตรชัย บุตรพรหม ยังปัดปลายมือออกหลังได้ทัน 

ก่อนที่นาที 84 โอสถสภาฯ จะเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการส่ง รัฐพล อัฐวงษ์ ลงเล่นแทน อดิศักดิ์ กานู อย่างไรก็ดีช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้จบ 90 นาทีเสมอ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นขอนแก่นที่แม่นกว่าเอาชนะไปด้วยสกอร์ 5-4 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

ชิลส์ประเดิมชัย!เทโรบุกดับศุลกากร2-1ลิ่ว16ทีมลีกคัพ

เคนนี่ ชิลส์ ประเดิมคุมมังกรไฟเก็บชัยชนะได้สำเร็จหลังพาต้นสังกัดในฐานะแชมป์เก่าบุกไปชนะ ศุลกากร 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

โตโยต้าลีกคัพ 2015 รอบที่ 32 ทีมสุดท้าย ศุลกากร ยูไนเต็ด ทีมจากดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ และภาคกลาง เปิดสนามลาดกระบัง 54 พบกับ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน แชมป์เก่ารายการนี้จากไทยพรีเมียร์ลีก โดย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางทีมชาติไทย สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมครั้งแรกของชีวิต แทนที่ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่ผ่าตัดหัวไหล่

เกมเริ่มมาแค่ 11 นาที ทีมเยือนขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จาก พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา

จากนั้น"มังกรไฟ" ยังคงบุกหนัก และมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จาก อีวาน บอสโกวิช ในนาทีที่ 22

ลูกทีมของ เคนนี่ ชิลส์ กุนซือไอร์แลนด์เหนือ เปิดเกมบุกหวังยิงประตูที่ 3 นาทีที่ 30 ได้ฟรีคิกในระยะได้ลุ้น แต่ กิลเบิร์ต คูมสัน ปีกกาน่า ซัดข้ามคานออกไป ก่อนจบครึ่งแรก ด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เกมยังตกเป็นของ "เดอะไฟเออร์ดรากอนส์" แบบเบ็ดเสร็จ อดิศักดิ์ ไกรษร ได้โอกายิงในเขตโทษ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 75 ธีระพล เยาะเย้ย ได้โชว์บ้าง ลากบอลหลบแนวรับของ ศุลกากร 3 คน ก่อนจ่ายให้ อีสาน บอสโกวิช กดด้วยซ้ายเต็มๆ แต่บอลเฉี่ยวเสา พลาดได้ลูกที่ 3 ไปอีก

นาทีที่ 87 ศุลกากร ที่นานๆ บุกมาที ได้ประตูตีตื้นเป็น 1-2 จากลูกโหม่งของ อนุศักดิ์ เหล่าแสงไทย

แต่สุดท้ายไล่ไม่ทัน จบเกม บีอีซี เทโรศาสน บุกไปชนะ ศุลกากร ยูไนเต็ด 2 - 1 ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมกับเส้นทางการป้องกันแชมป์ได้ต่อไป

กระต่ายดุ!บีจีกินนิ่มพี่เสือ3-1ลิ่ว16ทีมลีกคัพ

กระต่ายแก้วโชว์ฟอร์มดุหลังผ่านเข้ารอบโตโยต้า ลีกคัพ ด้วยการบุกไปชนะ บีบีซียู เอฟซี ทีมในยามาฮ่าลีกวัน 3-1

ศึกฟุตบอล โตโยต้า ลีกคัพ 2015 รอบ 32 ทีม ประจำวันพุธที่ 1 กรกฏาคม 2558 ที่ สนาม กีฬาเทศบาลนครนนท์ เจ้าบ้าน "บิ๊กแบง" บีบีซียู เอฟซี จากศึกยามาฮ่าลีกวัน รับการมาเยือนของ "เดอะ แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี จากศึกไทยพรีเมียร์ลีก

เกมนี้ ทซึโยชิ ทากาโนะ กุนซือของทีมเจ้าบ้าน ส่ง ศรายุทธ พูลทรัพย์ เป็นผู้รักษาประตู แนวรับใช้บริการ แช้ด แอฬอน ชัยบุตร ปักหลักคุมแดนหลังร่วมกับ บุณยฤทธิ์ ปฐมทัศน์, ธีรพงษ์ เกิดเจริญพร และ เนติพงษ์ นาคฉิม แดนกลางวาง วิษณุศักดิ์ อุ่นน้อย ปั้นเกมร่วมกับ เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม, นเรศ ฤทธิ์พิทักษ์วงศ์ และ อนิวัต ศรีอ่อน ปล่อยให้แดนหน้าเป็นหน้าที่ของ ณัฎฐิกรณ์ ยำพรหม จับคู่ กิตติภพ อุปชาคำ

ด้าน ริคาร์โด้ โอลิเวียร่า เฮดโค้ชทีมเยือน ส่งผู้เล่นชุดที่พร้อมที่สุดลงบู๊ ด่านสุดท้ายกลับมาใช้บริการ นริศ ทวีกุล ลงเฝ้าเสา แนวรับ เจษฏากร เหมแดง, แมทธิว สมิธ และ สุวรรณภัทร กิ่งแก้ว ลงประจำการ แผงมิดฟิลด์ พีรพงศ์ พิชิตโชติพัฒน์ สอดประสานปั้นเกมแดนกลางร่วมกับ ณรงค์ จันทร์เสวก, สุบรรณ เงินประเสริฐ และ ภคิณ ไก่แก้ว โดยเกมรุกส่ง 3 ประสาน บดินทร์ ผาลา, ลาซารัส คาอิมบี้ และ อนันต์ บัวแสง ลงล่าตาข่าย

เริ่มเกมได้ 8 นาที เป็น บีจี ที่มาได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ บดินทร์ ผาลา ลากพาบอลหนีแนวรับเจ้าบ้าน ก่อนจะเหวี่ยงด้วยขวาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ยังไปติดเซฟของ ศรายุทธ พูลทรัพย์ ที่ยังป้องกันไว้ได้

อีก 2 นาทีต่อมา บีบีซียูฯ มาได้ลุ้นบ้างจากฟรีคิกระยะกว่า 35 หลาของ วิษณุศักดิ์ อุ่นน้อย แต่ยังไม่เหนือบ่ากว่าแรงของ นริศ ทวีกุล ที่ดักทางรับไว้ได้ไม่มีปัญหา

น.18 บีจี มาได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ แต่บอลก็ยังไม่ตรงตัวของ ศรายุทธ พูลทรัพย์ นายด่านของบีบีซียูฯ อีกครั้ง

บีบีซียูฯ เจ้าบ้านหวิดได้ประตูขึ้นนำเช่นกันใน น.28 จากจังหวะยิงไกลของ กิตติภพ อุปชาคำ แม้ นริศ ทวีกุล ผู้รักษาประตูของ บีจี จะรับไม่อยู่ในจังหวะแรก แต่ยังผวาไปปัดบลทิ้งได้ในจังหวะต่อมา ก่อนที่ผู้เล่นบีบีซียูฯ จะตามเข้าซ้ำดาบสองได้

อีก 3 นาที ต่อมา บีจี โต้ตอบทันควัน และเป็น ลาซารัส คาอิมบี้ ที่ได้กดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังถูก ศรายุทธ พูลทรัพย์ ปัดบอลทิ้งพ้นกรอบประตูได้อีกครั้ง

ถึง น.35 บีจี มาได้ลูกที่จุดโทษหลังผู้เล่นบีบีซียูฯ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็น ประวีณวัช บุญยงค์ ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด แปด้วยขวาเน้นๆ ส่งบอลพุ่งเสียบเสาเข้าประตูไป พา บีจี ขยับขึ้นนำ 1-0
น.40 บีจี หวิดหนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ ลาซารัส คาอิมบี้ เปิดบอลจากกลางสนามเข้าไปในเขตโทษ ให้ ภคิน ไก่แก้ว วางเท้าแปด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูของบีบีซียูฯ ไปแล้ว แต่บอลกลับพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาชวดได้ประตูเพิ่มไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก บีจี บุกมานำก่อน 1-0
ครึ่งหลังกลับมาแข่งขันต่อถึง น.52 บีบีซียูฯ เจ้าบ้านมาไล่ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ ณัฎฐิกรณ์ ยำพรหม ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แม้ นริศ ทวีกุล จะป้องกันได้ในจังหวะแรก แต่บอลยังไปเข้าทางของ นเรศ ฤทธิ์พิทักษ์วงศ์ ที่ตามเข้าซ้ำด้วยขวาเน้นๆ เข้าประตูไป

น.63 บีจี เกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ บดินทร์ ผาลา วางยาวจากแดนหลังให้ ลาซารัส คาอิมบี้ สปีดเข้าไปกระดกบอลในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่าน ศรายุทธ พูลทรัพย์ ที่ออกมาบล็อคแล้ว ช่วยป้องกันไม่ให้ทีมเจ้าบ้านเสียประตูได้ทันเวลา

น.77 บีจี มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ ณรงค์ จันทร์เสวก เปิดบอลจากกราบขวาเข้ามาในเขตโทษ ก่อนที่จะเป็น แมทธิว สมิธ แนวรับชาวออสเตรเลีย ที่เติมเกมขึ้นมาสูง วิ่งเทกตัวขึ้นโหม่งแบบเต็มๆ ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด พา บีจี ขยับนำ 2-1

นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน บีจี มาได้ประตูปิดเกม เมื่อ บดินทร์ ผาลา ได้จังหวะเหวี่ยงด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงเสียบเสาสอง สุดปัญญาที่ ศรายุทธ พูลทรัพย์ จะป้องกันได้ พา บีจี ขยับนำ 3-1 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม

 หมดเวลาการแข่งขัน บีจี บุกมาเอาชนะด้วยสกอร์ดังกล่าว ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

ดิโอโก้เบิ้ล!บุรีรัมย์ถล่มอ่างทอง4-0ลิ่ว16ทีมลีกคัพ

ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรงหลังเหมาคนเดียวสองประตูพาปราสาทสายฟ้าบุกถล่มอ่างทอง 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโตโยต้า ลีกคัพ

ที่สนามกีฬาอบจ.อ่างทอง เวลา 18.00 น. อ่างทอง เอฟซี ทีมจากยามาฮ่า ลีกวัน เปิดบ้านทำศึกโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงแห่งโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก

เจ้าถิ่น อ่างทอง เอฟซี นำทัพมาโดย สันทัด กลิ่นยี่สุน และ ซารีฟ สายนุ้ย ที่ลงเผชิญหน้าทีมเก่า ส่วนปราสาทสายฟ้าพักแกนหลักหลายรายโดยเปิดโอกาสให้ ยศพล เทียงดาห์ เฝ้าเสา , เชาว์วัฒน์ วีระชาติ และ สันติราษฎร์ เวียงอินทร์ ลงเล่นแต่ยังมีสองดาวยิง มาเชน่า และ ดิโอโก้ ล่าตาข่าย

เริ่มเกมปราสาทสายฟ้าต้องรอจนถึงนาทีที่ 31 กว่าจะมาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จาก เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ก่อนจะมาได้ ดิโอโก้ ดาวยิงตัวเก่งยิงเพิ่มอีกสองประตูในนาทีที่ 41 และ 42 ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 3-0 ก่อนจบครึ่งแรก
กลับสู่ครึ่งหลังปราสาทสายฟ้าก็มาบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูจาก ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ในนาทีที่ 59 

ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกถล่ม อ่างทอง เอฟซี 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โตโยต้า ลีกคัพ แบบไม่ยากเย็น

fourfourtwo.com