ทัพนักเตะ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีคิวทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มเอฟ นัดที่สาม เปิดบ้านพบ อิรัก ในวันที่ 8 กันยายน โดยทีมชาติไทยนำจ่าฝูงกลุ่มหลังคว้าชัยรวด 2 นัด มี 6 แต้มเต็ม
ล่าสุด "ซิโก้" นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เปิดเผยว่า หลังจากปล่อยนักเตะไทยกลับไปเล่นให้ต้นสังกัดในเกมลีกแล้วก็ได้ส่งทีมงานสต๊าฟโค้ชไปติดตามฟอร์มของแข้งไทยทั้ง149 คนที่ส่งขึ้นทะเบียนทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อย่างใกล้ชิดตลอดในช่วงระยะเวลา 2 เดือนหลังจากนี้ก่อนแมตช์เจอกับอิรัก เพื่อเช็กดูว่าฟอร์มของแข้งไทยจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ โดยขอยืนยันว่าจะไม่เจาะจงดูฟอร์มนักเตะไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงนักเตะชุดใหญ่ที่ลงเตะฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2 นัดที่ผ่านมาด้วย เพราะต้องการนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดกับตันสังกัด
กุนซือทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า หากแข้งไทยรายไหนที่โชว์ฟอร์มไม่ดีกับสโมสรก็มีโอกาสที่ติดทีมชาติน้อยลงไปเช่นกัน เพราะต้องการนักเตะที่ฟอร์มดีที่สุดมาร่วมทีมเพื่อฟาดแข้งกับอิรัก โดยแมตช์นี้มีความสำคัญมาก เพราะหากทัพช้างศึกสามารถโค่นเอาชนะอิรักได้จะทำให้ทางโล่งขึ้น และมีโอกาสสูงที่จะทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายของโซนเอเชีย
ส่วนทีมชุดปรี-โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเตรียมทำศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ในเดือนมกราคมปีหน้า โดยเป็นรายการคัดเลือก 3 ทีมของเอเชียผ่านไปกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 นั้น โค้ชซิโก้ กล่าวว่า ได้เตรียมแผนเบื้องต้นไว้คือจะเรียกนักเตะมาเก็บตัวฟิตซ้อมเดือนละ 1 ครั้ง เช่นเดียวกับที่เคยใช้เตรียมทีมชุดแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า เมื่อ 2 ปีก่อน โดยคงต้องหาเกมอุ่นเครื่องด้วย ซึ่งคิดว่าอาจลับแข้งกับทีมสโมสรไทย แต่หากได้อุ่นกับทีมเอเชียด้วยกันก็นับเป็นเรื่องดีมาก เพราะลูกทีมจะได้ซึมซับประสบการณ์ก่อนเดินทางไปล่าตั๋วโอลิมปิกเกมส์