โค้ชโชค กล่าวต่อว่า เกมนี้ผิดแผนจากทีแรกที่คิดว่าทางมาเลเซียจะมาเปิดเกมบุก แต่กลับใช้เกมสวนกลับแทน ทำให้ไทยต้องเปลี่ยนแนวการเล่น แต่ก็ให้เด็กเดินเกมตามปกติ แค่ระวังหลังเท่านั้น ถือว่านักเตะทำผลงานได้น่าพอใจ เพราะมองไว้ว่าสักนาทีที่ 70-80 นักเตะมาเลเซียจะออกอาการ ก็เป็นจริงๆ
"ตอนนี้ยังไม่มองถึงการคว้าแชมป์ ขอมองไปทีละเกมๆ ดีกว่า ส่วนเกมรุกที่ดูอาจจะมีการเข้าทำน้อย ก็คงต้องเพิ่มการเข้าทำให้มากกว่านี้" โค้ชโชค กล่าวปิดท้าย
ด้าน "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่เข้ามาชมเกมนี้ กล่าวหลังเกมว่า นักกีฬาทำผลงานได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าจะเจอสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน แต่ขอชมนักเตะว่าเล่นกันได้ดี มีโอกาสทำประตูมาก ถึงได้เพียงประตูเดียวก็ไม่เสียหาย เชื่อว่าในตอนนี้โอกาสเข้ารอบน่าจะเกือบ 100เปอร์เซนต์แล้ว จากนี้ไปก็ต้องไปตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่มกับเวียดนามในนัดสุดท้าย อย่างไรก็ดีเกมนี้ก็มีอัดฉีดให้ 1 ล้านบาท ตามที่ได้บอกไว้ และถ้าหากคว้าแชมป์ได้ก็มีอัดฉีดอีก 10 ล้านบาท
"เสี่ยเปี๊ย" สมศักดิ์ ศิริธรรม กล่าวว่า รู้สึกพอใจมากกับผลการแข่งขันต้องชมความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้เล่นทุกคนที่ช่วยกันเล่นจนเอาชัยชนะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เกมนี้มาเลเซียมาเล่นได้ดีมาแพกแน่นและโต้กลับได้ดีที่สำคัญแรงไม่มีหมดทำให้เราต้องใช้เวลานานกว่าจะยิงประตูได้ ส่วนเกมรอบรองชนะเลิศหากเป็นไปได้อยากเจอกับพม่ามากกว่า เพราะการเจอกับเจ้าภาพน่าจะเล่นยากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องเป็นฝั่งสิงคโปร์เองว่าจะเล่นแบบไหนจะเลือกเจอไทยหรือว่าเจอทีมอื่น
ส่วน "ตัง" สารัช อยู่เย็น กัปตันทีมไทยกล่าวว่า พอใจกับตัวเองที่ยิงประตูได้และพาทีมเก็บชัยชนะเพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้วตนเคยแพ้มาเลเซียและตกรอบแรกที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่เข้ามาเชียร์ในสนามและที่ติดตามทางการถ่ายทอดสดตนและเพื่อนร่วมทีมจะรักษามาตรฐานพร้อมทั้งยกระดับตัวเองขึ้นไปอีก
ขณะที่ อ่อง คิม สวี โค้ชมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียโชคไม่ดีที่ต้องมาเจอทีมอย่างไทยและเวียดนามในกลุ่มเดียวกัน และยิ่งแพ้เวียดนามมาทำให้อยู่ในสถานการณ์ลำบาก อีกทั้งครั้งนี้มีเวลาเตรียมทีมแค่ 3 สัปดาห์ ต่างจากตอนได้แชมป์ที่มีเวลาเตรียมทีมกว่า 2 ปี ส่วนนักเตะไทยมาจากชุดแชมป์ซูซูกิ คัพ ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกว่า หลังจากนี้ขอดูผล 2 นัดที่เหลือ ถ้าหากไม่ดีอาจจะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง