ปรบมือ!!!!ไทยเชือดมาเลย์ 1-0 เก็บ 9 แต้ม สถิติชนะรวด 3 นัด ฟุตบอลซีเกมส์

การแข่งขันฟุตบอลชาย กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิ.ย. "ช้างศึก"ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในฐานะแชมป์เก่า ลงสนามนัดที่ 3 ที่บิชาน สเตเดี้ยม พบคู่ปรับตลอดกาล "เสือเหลือง" มาเลเซีย ซึ่งเป็นนัดฟาดแข้งกันก่อนพิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้น โดยสถิติ 2 นัดแรก ไทยชนะลาว 6-0 และชนะติมอร์ เลสเต 1-0 เก็บ 6 แต้มเต็ม ส่วนมาเลเซีย มี 3 แต้ม จากการเอาชนะติมอร์ เลสเต 1-0 และแพ้เวียดนาม 1-5 เกมนี้จึงมีความหมายกับทั้ง 2 ทีม โดยไทยต้องชนะเพื่อการันตีการเข้ารอบ ส่วนมาเลเซียตกอยู่ในสภาพ เสือลำบาก หากแพ้นัดนี้ก็หมายถึงการตกรอบแรกตั้งแต่ยังเตะไม่ครบโปรแกรม

เกมนี้ด้าน"โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ ส่งสุริยา สิงห์มุ้ย ในตำแหน่งแบ็กซ้ายลงแทน พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตำแหน่งอื่นยังเหมือนเดิม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ชนินทร์ แซ่เอียะ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, อาทิตย์ ดาวสว่าง, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , ชนาธิป สรงกระสินธิ์ , รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก , นูรูล ศรียานเก็ม และศุนย์หน้า ชนานันท์ ป้อมบุบผา

เริ่มเกมครึ่งแรกทัพเสือเหลืองเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ไทยโดยทันที และได้ทักทายก่อนจากลูกฟรีคิกแต่ชนินทร์เซฟเอาไว้ได้ จากนั้นนาที 5 ไทยได้โต้คืนบ้างโดยชนาธิปเปิดบอลข้ามแนวรับมาเลเซียให้ ชนานันท์ได้ซัดด้วยซ้ายแต่ไม่ตรงกรอบ

ต่อมานาที 15 มาเลเซียเกือบได้ประตูเช่นกัน โดยสตีเว่น ร็อบแบต กัปตันทีมมาเลเซียหลุดเดี่ยวเข้าดวลกับชนินทร์ตัวต่อตัว แต่แนวรับไทยเข้ากดดันส่งผลให้กัปตันทีมเสือเหลืองยิงออกไป จากนั้นในนาที 16 ไทยได้ลูกเตะมุม นูรูล เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ ผู้รักษาประตูมาเลเซียออกมาปัดบอลไปเข้าทาง ฐิติพันธ์ ที่วิ่งชาร์จเข้ามาซัดด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกไป ต่อมานาที 27 ไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำ นฤบดินทร์โยนบอลจากกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็น ฐิติพันธ์ ที่ได้โอกาสโดดขึ้นโขกเดี่ยวๆ แต่ไม่ตรงประตู จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือไทยยังครองบอลได้ต่อเนื่องแต่ยังเบิกประตูแรกไม่ได้ จบครึ่งแรก เสมอกัน 0-0

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงนาทีเดียว ชนาธิป ใช้ความสามารถเฉพาะตัว ลากเลื้อยฝ่ากองหลังมาเลเซียตัดเข้ากลางมาหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งตรงเข้ากรอบ แต่ไปแฉลบกองหลังมาเลเซียออกไป น56 มาเลเซียเกือบได้ประตูขึ้นนำ โดย อิบราฮิม อัซวารี่ หลุดเข้ามาหน้าเขตโทษก่อนล็อคหลบเข้าในแล้วปั่นบอลเกือบข้ามหัวชนินทร์ แต่ยังพุ่งตัวปัดบอลออกไป

ถัดมานาทีที่ 64 มาเลเซียได้โอกาสสวนกลับ อิบราฮิม อัซวารี่ พาบอลจี้เข้ามาใกล้เขตโทษก่อนโยกหลอก อาทิตย์ แล้วเปิดด้วยขวาไปที่หน้าปากประตูแต่ ธนบูรณ์ ยังโหม่งทิ้งไว้ได้ จังหวะต่อเนื่อง สุริยา สิงห์มุ้ย ได้รับบาดเจ็บจากจังหวะปะทะกับผู้เล่นมาเลเซีย ลงไปนอนเจ็บต้องหามออกข้างสนามแต่ยังสามารถลุกกลับขึ้นมาเล่นต่อได้

จากนั้นนาที 68 ธนบูรณ์ได้โอกาสยิงไกลจากกลางสนาม บอลพุ่งทำท่าจะเสียบเสาแรก อบู บาการ์ ผู้รักษาประตูมาเลย์เซียต้องพุ่งตัวออกมารับแต่บอลกระเฉาะไปเข้าทางชนานันท์ได้เข้ามาซัดเต็มข้อแต่บอลพุ่งออกไป จากนั้นทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่นส่ง ตริสตอง โด และ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ลงมาแทน สุริยา สิงห์มุ้ยกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

จนกระทั่งนาทีที่ 80 กองเชียร์ทีมชาติไทยได้เฮกันลั่นสนาม จากจังหวะที่ ตริสตอง โด จ่ายบอลเข้ากลางให้ สารัช อยู่เย็น ก่อนล็อคหลบแนวรับมาเลเซียหนึ่งจังหวะและซัดด้วยซ้าย ส่งบอลหนีมือผู้รักษาประตูมาเลเซียเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ไทยขึ้นนำมาเลเซีย 1-0

หลังเบิกสกอร์แรกได้สำเร็จส่งผลให้เกมรุกไทยเล่นได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นและเกือบได้ประตูที่สองอีกครั้ง ในนาที 85 จากจังหวะที่ นูรูล ศรียานเก็ม หลุดเดี่ยวเข้ามาดวลกับ อบู บาการ์ตัวต่อตัว แต่กลับยิงแฉลบตัวออกไป ในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูเพิ่ม จบเกม ทีมชาติไทย ชนะ มาเลเซีย 1-0 ส่งผลให้ทีมชาติไทยเก็บ 9 คะแนนเต็ม สถิติชนะรวด 3 นัด ยังไม่เสียประตู ในขณะที่มาเลเซีย มีเพียง 3 แต้ม สถิติชนะ 1 แพ้ 2 ต้องไปลุ้นคู่ระหว่างเวียดนาม พบ ลาว โดยหากเวียดนามชนะ มาเลเซียจะตกรอบแรกทันที ส่วนโปรแกรมนัดต่อไปทีมชาติไทย จะลงสนามพบ บรูไน ในวันที่ 6 มิ.ย. 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย