เมื่อ 23 ก.พ.ที่ โรงแรมปริ๊นพาเลซ มีการแถลงข่าวการชกมวยไฟต์พิเศษระหว่าง "โม้อมตะ" สมรักษ์ (คำสิงห์) ท.เทพสุทิน ฮีโรเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปะทะ "ผู้พันวิทย์" ยอดวันเผด็จ ส.จุลเสน (สุวรรณวิจิตร) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน นี้ ที่เวทีมวยราชดำเนิน สำหรับกติกาการชกกำหนด 5 ยก ยกละ 2 นาที(พัก 2 นาที) ในพิกัด 70 กิโลกรัม โดย "เจ้าบาส" ที่ได้รับค่าตัว 5 แสนบาท จะต่อให้โดยการชกในรูปแบบมวยสากลเพียงอย่างเดียว สามารถใช้หมัด ล็อคคอ สอดแขน และใช้เหลี่ยมได้ แต่ห้ามจับขา ห้ามใช้ศอก ห้ามเตะ ถีบ ยกขาบัง หรืออาวุธที่เกี่ยวกับส่วนขาทั้งหมด ซึ่งหากทำผิดกติกา 2 ครั้งจะถือว่าเป็นฝ่านแพ้ทันที
ส่วน "ผู้พันยอด" ที่พ่ายน็อคมาก่อนในการพบกันครั้งแรก ครั้งนี้ได้รับค่าตัว 2 แสนบาท จะสามารถชกในรูปแบบมวยไทยได้เต็มรูปแบบ ซึ่งคู่นี้มีวางเดิมพันรวม 5 ล้านบาท(ฝ่ายละ 2.5 ล้านบาท)
โดย สมรักษ์ กล่าวว่าตนเตรียมกลับไปฟิตร่างกายเต็มที่ "การชกครั้งนี้ถือเป็นการสร้างสีสันให้กับวงการมวยไทย ผู้พันยอดเป็นคนออกกติกาทั้งหมด ซึ่งผมที่เคยเอาชนะเขามาแล้วและยังหนุ่มแน่นกว่าจึงรับคำท้าขอแก้มือเพราะถือว่าเป็นการท้าทายตัวเอง เขาต่ออายุให้ผมก็ต่ออาวุธให้ และที่สำคัญจะเป็นการเรียกคนดูเพราะไม่มีใครรู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงยังเป็นกรณีศึกษาให้กับโปรโมเตอร์ที่จะนำนักมวยเก่าที่มีสภาพร่างกายดีกลับมาชกอีกด้วยเช่นกัน"
"ตอนนี้ยอมรับว่าน้ำหนักยังเกินอยู่พอสมควร แต่ก็ได้เพิ่มตารางฝึกซ้อมให้กับตนเองแล้วแม้จะติดถ่ายละครด้วยเช่นกัน โดยจะซ้อมสัปดาห์ละ 3 วัน เน้นไปที่การตั้งการ์ดรับลูกเตะ เพราะเราใช้ขาไม่ได้ แต่ยังมั่นใจว่าจะอาศัยความสดและชั้นเชิงเหรียญทองโอลิมปิกของตนเองเอาชนะได้แน่นอน" เจ้าของฉายาไม่ได้โม้ กล่าว
ด้าน "ผู้พันยอด" มั่นใจว่าจะชนะเช่นกัน "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณและชื่นชมในสปิริตของสมรักษ์ที่ยอมเสียเปรียบในกติกาที่ผมตั้งขึ้น เชื่อว่าไฟต์นี้จะสนุกแน่นอน ผมเตรียมตัวมา 3 ปีตั้งแต่แพ้ไปคราวที่แล้ว ดังนั้นครั้งนี้ที่ได้เปรียบเรื่องการชกเชื่อว่าจะเป็นฝ่ายแก้มือได้แน่นอน ส่วนเงินเดิมพันที่มีนั้นเป็นเงินของแฟนคลับแต่ละข้างที่ร่วมลงขันไม่เกี่ยวกับตัวนักมวยแต่อย่างใด"
ทั้งนี้ในส่วนของเงินเดิมพันนั้นล่าสุดเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท(ฝ่ายละ 2.5 ล้านบาท) แล้ว พร้อมมีการคาดการณ์ว่าในวันชกจริงจะพุ่งสูงถึง 10 ล้านบาท(ฝ่ายละ 5 ล้านบาท) เลยทีเดียว ซึ่งหากในวันชกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถขึ้นทำการแข่งขันได้จะถูกริบเงินมัดจำ จำนวน 3 แสนบาท จะถูกอีกฝ่ายริบไปทันทีโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นกรณีที่คู่แข่งเสียชีวิตให้ถือเป็นการยกเลิกการแข่งขันละคนเงินมัดจำทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วน "ผู้พันยอด" ที่พ่ายน็อคมาก่อนในการพบกันครั้งแรก ครั้งนี้ได้รับค่าตัว 2 แสนบาท จะสามารถชกในรูปแบบมวยไทยได้เต็มรูปแบบ ซึ่งคู่นี้มีวางเดิมพันรวม 5 ล้านบาท(ฝ่ายละ 2.5 ล้านบาท)
โดย สมรักษ์ กล่าวว่าตนเตรียมกลับไปฟิตร่างกายเต็มที่ "การชกครั้งนี้ถือเป็นการสร้างสีสันให้กับวงการมวยไทย ผู้พันยอดเป็นคนออกกติกาทั้งหมด ซึ่งผมที่เคยเอาชนะเขามาแล้วและยังหนุ่มแน่นกว่าจึงรับคำท้าขอแก้มือเพราะถือว่าเป็นการท้าทายตัวเอง เขาต่ออายุให้ผมก็ต่ออาวุธให้ และที่สำคัญจะเป็นการเรียกคนดูเพราะไม่มีใครรู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงยังเป็นกรณีศึกษาให้กับโปรโมเตอร์ที่จะนำนักมวยเก่าที่มีสภาพร่างกายดีกลับมาชกอีกด้วยเช่นกัน"
"ตอนนี้ยอมรับว่าน้ำหนักยังเกินอยู่พอสมควร แต่ก็ได้เพิ่มตารางฝึกซ้อมให้กับตนเองแล้วแม้จะติดถ่ายละครด้วยเช่นกัน โดยจะซ้อมสัปดาห์ละ 3 วัน เน้นไปที่การตั้งการ์ดรับลูกเตะ เพราะเราใช้ขาไม่ได้ แต่ยังมั่นใจว่าจะอาศัยความสดและชั้นเชิงเหรียญทองโอลิมปิกของตนเองเอาชนะได้แน่นอน" เจ้าของฉายาไม่ได้โม้ กล่าว
ด้าน "ผู้พันยอด" มั่นใจว่าจะชนะเช่นกัน "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณและชื่นชมในสปิริตของสมรักษ์ที่ยอมเสียเปรียบในกติกาที่ผมตั้งขึ้น เชื่อว่าไฟต์นี้จะสนุกแน่นอน ผมเตรียมตัวมา 3 ปีตั้งแต่แพ้ไปคราวที่แล้ว ดังนั้นครั้งนี้ที่ได้เปรียบเรื่องการชกเชื่อว่าจะเป็นฝ่ายแก้มือได้แน่นอน ส่วนเงินเดิมพันที่มีนั้นเป็นเงินของแฟนคลับแต่ละข้างที่ร่วมลงขันไม่เกี่ยวกับตัวนักมวยแต่อย่างใด"
ทั้งนี้ในส่วนของเงินเดิมพันนั้นล่าสุดเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท(ฝ่ายละ 2.5 ล้านบาท) แล้ว พร้อมมีการคาดการณ์ว่าในวันชกจริงจะพุ่งสูงถึง 10 ล้านบาท(ฝ่ายละ 5 ล้านบาท) เลยทีเดียว ซึ่งหากในวันชกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถขึ้นทำการแข่งขันได้จะถูกริบเงินมัดจำ จำนวน 3 แสนบาท จะถูกอีกฝ่ายริบไปทันทีโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นกรณีที่คู่แข่งเสียชีวิตให้ถือเป็นการยกเลิกการแข่งขันละคนเงินมัดจำทั้ง 2 ฝ่าย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
