มาริโอ ยูรอฟสกี้ ดาวเตะเมืองทองฯพูดเมืองไทย - ปิงปองโชว์ และชนชั้นในสังคม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ กีฬาไทย มาริโอ ยูรอฟสกี้ ดาวเตะเมืองทองฯพูดเมืองไทย - ปิงปองโชว์ และชนชั้นในสังคม
"มาริโอ ยูรอฟสกี้" มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 26 ปี ของ "เมืองทอง ยูไนเต็ด" ถือเป็นนักเตะต่างชาติที่มีฝีเท้าดีอยู่ในอันดับต้นๆ ของไทยพรีเมียร์ลีก เขาเป็นลูกชายของ "มิโก ยูรอฟสกี้" อดีตดาวเตะซูเปอร์สตาร์ชาวมาซีโดเนียและยูโกสลาเวีย
มาริโอ เกิดที่เซอร์เบีย แต่ตัดสินใจเล่นฟุตบอลให้ทีมชาติมาซีโดเนีย ตามเชื้อชาติของทางครอบครัว ทว่า หลังจากเริ่มประเดิมรับใช้ชาติครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2010 เขากลับได้ลงเล่นในนามทีมชาติเพียง 12 นัดเท่านั้น ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ
แต่อีกส่วนหนึ่ง กลับเป็นปัญหาอันเกิดจากการที่มาริโอตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในประเทศไทย เนื่องจากโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกของไทยนั้นไม่สอดคล้องกับปฏิทินการฟาดแข้งของทางฟีฟ่า
อย่างไรก็ตามล่าสุดสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศปรับเปลี่ยนโปรแกรมการแข่งขันภายในประเทศ ให้มีความสอดคล้องกับปฏิทินการแข่งขันของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ
นั่นหมายความว่าเมื่อทีมชาติมาซีโดเนียต้องลงแข่งในรอบคัดเลือกของรายการเมเจอร์ที่ทวีปยุโรปโปรแกรมการแข่งขันของสโมสรในไทยลีกก็จะต้องหยุดพัก เพื่อเปิดทางให้มาริโอกลับไปรับใช้ชาติเช่นกัน
ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่า มาริโอ ยูรอฟสกี้ น่าจะมีโอกาสกลับมาติดทีมชาติมาซีโดเนีย (ภายใต้การคุมทีมของ "บอชโก ยูรอฟสกี้" ผู้เป็นลุงของเขา) อีกครั้งหนึ่ง ในปี ค.ศ.2015 ที่จะถึงนี้
ก่อนจะถึงเวลานั้น มาริโอได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเซอร์เบียที่ชื่อว่า "คูเรียร์" บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ถูกถอดความเป็นภาษาอังกฤษโดยเว็บไซต์ www.macedonianfootball.com โดยมีคำถาม-คำตอบบางส่วนที่มีเนื้อหาน่าสนใจ ดังนี้
: คุณจะกลับมาเล่นให้ทีมชาติมาซีโดเนียอีกครั้งใช่หรือไม่?
ก่อนหน้านี้ ด้วยภารกิจของผมที่ประเทศไทย ทำให้ผมไม่สามารถกลับไปเตะฟุตบอลให้มาซีโดเนียได้ ถึงแม้ว่าผมจะเคยถูกเรียกตัวโดยโค้ชทีมชาติก็ตาม และอันที่จริงแล้ว ทีมชาติก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับผมอยู่เสมอมา
ตอนนี้ โปรแกรมการแข่งขันของฟุตบอลลีกไทยถูกปรับเปลี่ยนให้มีความสอดคล้องกับปฏิทินฟีฟ่าแล้ว ดังนั้น ผมเชื่อว่า ผมจะสามารถเดินทางกลับไปรับใช้ชาติได้ ในกรณีที่โค้ชเรียกตัวผมกลับไปเล่นน่ะนะ
: คุณรู้สึกยังไง กับการได้เป็นสตาร์ดังในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก?
ผมมีช่วงเวลาเริ่มต้นที่มหัศจรรย์สุดๆในประเทศไทยมันอาจจะอธิบายให้คนแถวบอลข่านเข้าใจได้ยากสักหน่อย ดังนั้น ผมเลยพยายามจะพูดถึงเรื่องนี้ให้น้อยเข้าไว้
เอาเป็นว่า สำหรับคนไทยแล้ว แม้ผมอาจยังไม่ใช่ "เทพเจ้า" สำหรับพวกเขา แต่หลายคนจะต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมทำถูกต้องแล้ว ถ้าจะตัดสินใจปักหลักค้าแข้งอยู่ในประเทศแห่งนี้ต่อไปอีกห้าปี
: อยากให้คุณพูดถึงฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกซักหน่อย?
คนที่เซอร์เบียมักคิดว่าลีกของไทยเต็มไปด้วยนักฟุตบอลสมัครเล่นซึ่งนั่นเป็นการคาดการณ์ที่ผิดถนัด"เจย์ โบธรอยด์" อดีตนักเตะดาวรุ่งของอาร์เซนอล เดินทางมาที่นี่ เพื่อพบกับความล้มเหลว เขาได้ลงเตะเพียงแค่ 16 เกมเท่านั้น ความล้มเหลวแบบเดียวกันเกิดขึ้นกับ "เจย์ ซิมป์สัน" (อีกหนึ่งอดีตดาวรุ่งของอาร์เซนอล) ส่วน "เจอร์เมน เพนแนนต์" ก็เดินทางมาทดสอบฝีเท้ากับสโมสรในไทย แต่ไม่ผ่านการทดสอบ สโมสรเหล่านั้นไม่พอใจในฟอร์มปัจจุบันของเขา แม้ว่าเพนแนนต์จะเคยเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ กับทีมลิเวอร์พูล มาแล้วก็ตาม
: ที่นั่น มีการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ บ้างมั้ย?
มันมีการขับเคี่ยวสำคัญระหว่างสามสโมสรยักษ์ใหญ่ คือ เมืองทองฯ ชลบุรีฯ แล้วก็บุรีรัมย์ฯ การขับเคี่ยวระหว่างเมืองทองฯ กับบุรีรัมย์ฯ แชมป์สองฤดูกาลล่าสุด มันออกแนวเป็น "ศัตรูทางการเมือง" กันมากกว่า
แต่สำหรับผม ดาร์บี้แมตช์ ที่ใหญ่สุดจริงๆ กลับเป็นการแข่งขันระหว่างเมืองทองฯ กับชลบุรีฯ เมื่อพวกเราลงฟาดแข้งกับพวกเขา จะมีแฟนบอลแน่นสนามไปหมด แม้กระทั่งนอกสนามแข่ง ก็มีแฟนๆ ยืนอออยู่ร่วม 4 พันคนเห็นจะได้
: ชีวิตในเมืองไทยเป็นไงบ้าง?
มันยอดมาก เหมือนที่เซอร์เบียเลย (หัวเราะ) คุณต้องไปชมวัดวาอารามต่างๆ ของพวกเขา แล้วก็ไปตลาดที่ใหญ่ที่สุดอย่างจตุจักร ไปเยี่ยมเยือนความรุ่มรวยของถนนพระอาทิตย์ ไปเที่ยวชายทะเลอันน่ามหัศจรรย์ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งแบบสุดๆ ก็ได้แก่ ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา แล้วก็ไม่ควรพลาด "ปิงปองโชว์" อันโด่งดังด้วย แต่อย่างว่านะ ผมไม่ควรพูดอะไรเกี่ยวกับเจ้าเรื่องหลังสุดนี่ให้มากไปกว่านี้ในบทสัมภาษณ์ (หัวเราะ)
: คุณคิดยังไงกับการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก?
มันไม่เลวนักหรอก เสียแต่ว่ามีการจัดแบ่งโซนการแข่งขันที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ พวกเขาจัดโปรแกรมให้ทีมจากอาหรับเล่นกันเองในสายหนึ่ง ส่วนอีกสายหนึ่งเป็นการพบกันระหว่างทีมจากออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งไทย การแยกโซนอย่างนี้ ส่งผลให้ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกของเอเชีย ไม่มีวันเทียบเท่าแชมเปี้ยนส์ลีกของยุโรปได้ อย่างไรก็ตาม มันนับเป็นโอกาสอันดี ที่เราในฐานะนักฟุตบอลจะได้ลงฟาดแข้งกับสโมสรชั้นเลิศ อย่าง อุราวะ เรด ไดมอนด์ส (จากญี่ปุ่น) หรือ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ (จากจีน)
: แล้วคนไทยล่ะเป็นยังไงบ้าง?
พวกเขาคือชาติที่เราควรให้ความเคารพ คนไทยทุกคนขยันหมั่นเพียรในการทำงาน พวกเขาขายอาหาร และขายนู่นนี่เต็มไปหมด แทบไม่มีใครที่จะยอมหยุดพักจากการทำมาหากิน ตั้งแต่เด็กถึงคนชรา แต่น่าเหลือเชื่อสุดๆ เลย ที่พอเราหันไปมองยังมาตรฐานการครองชีพของพวกเขา เรากลับได้พบว่าประเทศนี้ไม่มี "คนชั้นกลาง" พวกเขามีแค่ "คนรวย" กับ "คนจน" เท่านั้น
: คุณคิดว่าตัวเองเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จหรือไม่?
ผมรู้สึกมีความสุขกับชีวิตค้าแข้งในประเทศไทยสัญญาของผมกับเมืองทองฯยังเหลืออยู่อีกหนึ่งปี ในเมื่อการค้าแข้งในทวีปยุโรปกลายเป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง ผมเลยรู้สึกมีความสุขกับประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้ผมได้ค้นพบตัวเอง
ที่ประเทศแห่งนี้ ผมได้รับการยกย่องและยอมรับ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันจะไขว่คว้ามาครอบครองตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก แต่พวกคุณไม่รู้หรอกว่า เมื่อตอนผมเริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลอาชีพในเซอร์เบียนั้น ผมกลับทำสิ่งผิดพลาดบางอย่างลงไป ซึ่งผมตัดสินใจทิ้งเรื่องราวพวกนั้นเอาไว้ในอดีตหมดแล้ว
ส่วนตอนนี้ ก็มุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในฐานะนักฟุตบอลอาชีพมากขึ้น แต่ผมก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่นะ ที่ตัวเองไม่ได้ไปค้าแข้งในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในลีกอิตาลีและเนเธอร์แลนด์