การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2013 วันเสาร์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ จ.ชลบุรี “โลมาฟ้าขาว” พัทยา ยูไนเต็ด อันดับ 15 พบกับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตาราง เริ่มเกม พัทยา มีโอกาสทำประตูหลายครั้งแต่ไม่เฉียบคมพอ ส่วนทีมเยือนพยายามเจาะตามช่องกระทั่งนาที 35 ธีรศิลป์ แดงดา ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนชิพมาที่เสาสองให้ ศราวุฒิ มาสุข วิ่งเข้ามายิงไม่เหลือซาก ใส่สกอร์ให้ เอสซีจี เมืองทอง นำ 1-0 และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

              ครึ่งหลัง เอสซีจี เมืองทอง น่าได้ประตูนำห่างนาที 58 จากการหลุดเดี่ยวของ จักรพันธ์ พรใส แต่กลับซัดหลุดเสาอย่างเหลือเชื่อ และท้ายเกม พัทยา มีโอกาสยิงประตูหลายครั้งแต่ไม่เฉียบคมพอ จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บเกิดเรื่องวุ่นเมื่อ จุน จี โซ กองหน้าพัทยา หลุดเดี่ยวแล้วล้มลงไปเหมือนโดนทำฟาวล์ แต่ผู้ตัดสิน นิวัฒน์ อินสะอาด ไม่เป่า และในจังหวะโต้กลับของ เอสซีจี เมืองทอง ปริญญา แสนคำหมื่น พุ่งเสียบ จักรพันธ์ พรใส ได้รับใบเหลืองที่ 2 เป็นไปแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้กองเชียร์พัทยาไม่พอใจ ขว้างปาแก้วน้ำและขวดน้ำลงสนาม ทำให้เกมต้องหยุดไปนาน ก่อนที่ เอสซีจี เมืองทอง เอาชนะไปได้ 1-0 มีเพิ่มเป็น 18 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของตารางต่อไป

              ที่สนาม อบจ.สระบุรี "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี อันดับ 11 พบกับ "นกใหญ่" ชัยนาท อันดับ 8 เกมนี้ โอสถฯ มีโอกาสทำประตูจาก แทงจินี ซิเปา และลาซาลัส คัมเบ ที่ได้ล่อเป้าเดี่ยวๆ แต่ซัดหลุดกรอบ กระทั่งนาที 33 ชิเปา วอลเลย์ตุงตาข่ายแต่โดนจับเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ทำให้หมดครึ่งแรกเสมอ 0-0 ครึ่งหลังนาที 54 ชัยนาท ขึ้นนำจาก นพพล ปิตะฝ่าย ที่เปิดให้ สมเจตร สัตบุษ โหม่งเข้าประตู “นกใหญ่” นำ 1-0 อย่างไรก็ตามนาที 68 เจ้าบ้านตีเสมอสำเร็จจากจังหวะชุลมุนหน้าประตู ก่อนที่ แอนโธนี โมเมนัม จะยิงเข้าประตู ตีเสมอ 1-1 เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเสมอ 1-1 แบ่งทีมละ 1 คะแนน

              ที่สนามกีฬา จ.ราชบุรี "ราชันมังกร" ราชบุรี อันดับ 13 พบกับ “แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตาราง เปิดฉากมานาที 34 แบงค็อก เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ อานิสงส์ เจริญธรรม ตัดเกมบริเวณกลางสนาม ทำให้โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม และนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเจ้าถิ่นหวิดขึ้นนำจาก เอกลักษณ์ ทองกริต ที่ขึ้นโขกเต็มๆ แต่บอลชนเสาอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกเสมอ 0-0

              ครึ่งหลังเล่นมาได้ 2 นาที ราชบุรี ทะยานขึ้นนำจากการเปิดลูกเตะมุมของ รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ให้ ดักลาส การ์โดโซ โหม่งไม่เหลือ 1-0 จากนั้นนาที 64 แบงค็อก ชวดได้ประตูตีเสมอจากฟรีคิกของ พลวัฒน์ ปิ่นกอง แต่บอลชนคาน และจบเกม ราชบุรี ชนะ 1-0 ส่งผลให้ แบงค็อก ยังไม่ชนะใครและรั้งอันดับสุดท้ายของตารางเหมือนเดิม
             
              ที่สนามยูไนเต็ด "กว่างโซ้ง" เชียงราย ยูไนเต็ด อันดับ 16 พบกับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อันดับ 3 เริ่มเกมมาได้ 6 นาที ทีมเยือนออกนำ 1-0 จากลูกที่ ฆวน เกวโร ปาดให้ อนาวิน จูจีน แปเน้นๆ เข้าไป จากนั้นนาที 13 ฆาเบียร์ ปาติโญ หลุดเข้าไปส่งบอลสู่ก้นตาข่ายอีกครั้ง แต่ถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน และนาที 22 เลอันโดร อัสซัมเซา กองหน้าเชียงราย โหม่งเข้าประตู แต่โดนจับฟาวล์เสียก่อนเช่นกัน ครึ่งหลังนาที 56 บุรีรัมย์ เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ สุรีย์ สุขะ เจตนาดึง เลอันโดร อัสซัมเซา ในจังหวะหลุดเดี่ยว ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และจากฟรีคิก 20 หลาหน้าประตู เลอันโดร อัสซัมเซา ซัดเข้าประตูอย่างสวยงาม ตีเสมอ 1-1 จากนั้นนาที 72 คาร์เมโล กอนซาเลซ ซัดให้ บุรีรัมย์ นำอีกครั้ง 2-1 อย่างไรก็ตาม 3 นาทีถัดมา อานนท์ นานอก เปิดฟรีคิกให้ อานนท์ สังสระน้อย โหม่งเข้าไป ตีเสมอ 2-2 และจบเกมที่สกอร์นี้ ทำให้ บุรีรัมย์ ขยับแซง สุพรรณบุรี ขึ้นไปอยู่ที่ 2 แม้จะมี 14 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียดีกว่า

              ผลฟุตบอลดิวิชั่น 1 นครปฐม แพ้ แอร์ฟอร์ซ 0-2, บางกอก เสมอ ตราด 1-1, ระยอง เอฟซี เสมอ ศรีราชา 1-1, สิงห์ท่าเรือ ชนะ ราชนาวี 2-1