"ไก่ จิก ปืน แตก คา คลัง แสง"
ไก่ จิก ปืน แตก คา คลัง แสง
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน มีโปรแกรมลอนดอน ดาร์บี้ แมชท์ระทึก ระดับนรกแตก ระหว่าง ปืนโต อาร์เซน่อล ทีมขวัญใจของผองเรา เปิดรังต้อนรับ น้องไก่ ท็อตแน่มฮอร์ต สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 เมื่อปีกลาย
ก่อนเกมส์เริ่มบรรดาผองเราต่างมั่นใจว่าคืนนี้จะจับไก่ต้มกินเสียให้เอร็ดปาก หลังจากบรรดาซุป’ตาร์ ต่างเริ่มบอกลานางพยาบาลสาว ขาว เอ็กซ์ กลับมายืดเส้นยืดสายบรรเลงเพลงแข้งในฟลอร์สนามหญ้ากันบ้างแล้ว ต่างคนต่างฟันธงว่าเราจะถลกหนังไก่ด้วยสรรพวุธที่เรามีอยู่ในมือ
หมากในกระดานที่ขงเบ้งเฟร้นช์แมนจัดลงมาเตรียมสู้กับน้องไก่ประกอบไปด้วย ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ที่พ้นโทษแบนกลับมายืนคู่กับ เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ – เดนิลสัน(เดอ ลูกรัก)ที่ได้รับโอกาสลงเล่นแทนหนูแจ๊คที่ได้รับบาดเจ็บ, อเล็กซ์ ซง - ซามีร์ นาสรี่, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน - มารูอาน ชามัค
เริ่มเกมส์ขึ้นมาก็เป็นเราเจ้าบ้านที่ไร้พ่ายในคลังแสงมา 10 กว่าปี ก็ดาหน้าเดินเครื่องบุกแหลก และเพียงแค่ 8 นาที ก็เป็นซามีร์ นาสรี่ ที่วิ่งสอดหนี เบอร์นัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ ไปรับลูกยิงจากการเปิดของเอล กัปปิตัน เข้าไปปั๊มบอลจากมือเฮเรญโญ่ โกเมส บอลเกือบหลุดออกเส้นหลังแต่นาสรี่ก็ไวพอที่จะปาดบอลบางๆให้กลิ้งหลุนๆเข้าประตูไปเป็นประตูขึ้นนำ 1-0
และเพียง 26 นาที เราก็เปิดแผลที่ 2 ได้สำมะเร็จ เมื่ออาร์ชาวิน ได้บอลที่กรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วครอสเข้ากลางให้กับ มารูอาน ชามัคร์ชาร์จบอลเข้าประตูเป็น 2-0 ผมเชื่อว่าถึงวินาทีที่พวกเราๆชาวกูนเนอร์สคงเตรียมตัวฉลองการเป็นจ่าฝูงชั่วคราวเป็นแน่แท้ เพราะด้วยฟอร์มการเล่นประดุจเทพจุติของเหล่ากันเนอร์ส คงมิมีหนทางใดที่น้องไก่จะกลับมาได้เป็นแน่แท้ และเราก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
แต่ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง เมื่อเริ่มครึ่งหลังเกมส์กลับตาลปัตรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่อเกมส์ของน้องไก่ทำได้ดีขึ้นเมื่อได้รับการแก้ไขจากกุนซือตาปรือว่าที่แคนดิเดตกุนซือสิงโตคำราม แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ชะอุ๊ยช์!!! ไม่ใช่ๆๆ แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ต่างหาก เมื่อเรดแน็ปป์ส่งเจอร์เมน เดโฟลงมาแทน อารอน เลนน่อน
และเพียงเริ่มครึ่งหลังมาได้ 5 นาที เค้าลางความชิบหายก็มาเยือนเมื่อฟาน เดอร์ ฟาร์ท ดีดบอลให้ปีกวานรความเร็วสูงแกร์แร็ธ เบลล์สปีดหนี เดนิลสัน เดอ ลูกรัก ที่วันนี้ได้โอกาสลงเล่นแทนหนูแจ๊ค แล้วดีดบอลด้วยซ้ายเข้าเสาไกล สุดเกล้าที่ฟาเบียนส์กี้จะรับได้
เค้าลางและสัญญาณหายนะก็ชักเริ่มก่อตัวเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นเมื่อ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ซัดฟรีคิกไปโดนแขนเอลกัปปิตัน ฟรานเชสก์ ฟาเบรกัส โซแลร์ ที่ยกขึ้นอย่างโง่ๆ ตุลาการ ฟิล ดาวด์ก็ไม่ลังเลใจที่จะเป่าเป็นจุดโทษทันทีและเป็นฟาน เดอร์ ฟาร์ท รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
นาที 71 เค้าลางหายนะก็เริ่มมีกลิ่นตุๆเมื่อซามีร์ นาสรี่เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาเข้าไปในกรอบบอลหลุดไปถึงเอล กัปปิตันที่เสาไกลโหม่งชงต่อให้เซบาสเตียง สกิลลาชี่ ซัดโล่งๆกลางประตูตุงตาข่ายแต่โดนจับเป็นลูกล้ำหน้าของเชสก์ไปก่อนแล้วชวดได้ประตูไปตามระเบียบ
แล้วในนาทีที่ 85 ของเกมส์ ความวิบัติก็มาเยือนดั่งสังหรณ์เมื่อน้องไก่ทีมเยือนพลิกยิงแซงขึ้นนำ 3-2 เมื่อได้ฟรีคิกตรงริมเส้นฝั่งขวาเกือบครึ่งสนามราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เปิดเข้าไปหน้าประตูยูเนส กาบุล ขึ้นโหม่งเช็ดบอลเสียบเสาไกลตุงตาข่ายและเป็นประตูชัยที่พราก 3 แต้มจากอ้อมอก และเป็นการฉุดรั้งการขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราวอย่างเจ็บแสบ
และนี่ก็เป็นอีกคำรบที่พ่ายแพ้แบบมิควร ทั้งที่โอกาสและฟอร์มในครึ่งแรกประดุจเทพเทวา แต่ครึ่งหลังประดุจผีห่าซาตานเข้าสิง ทิ้งฟอร์มเทพลงโถส้วมห้องพักกันหรือไงก็มิอาจทราบได้
ฤาจะเป็นเพราะอาการประมาทที่เห็นว่าฟอร์มครึ่งแรกของน้องไก่ย่ำแย่เหลือประมาณ ทำให้ครึ่งหลังเรากลับมาเล่นด้วยอาการจองหองพองขนคิดว่าเราเอาอยู่ ถ้าเป็นเช่นนี้จริงก็คงต้องขอเขกกบาลสักโป๊ก สองโป๊ก
แต่ที่แน่ๆในฤดูกาลนี้ยามที่เราเล่นในคลังแสงเอมิเรสต์ กลายเป็นไม่หนักแน่นคือเก่า กล่าวคือ เราไม่สามารถเชื่อใจได้ว่าจะชนะเมื่อเล่นในบ้าน นี่หรือ คือทีมที่จะอหังการตนเองว่าจะเป็นแชมป์?
ทีมที่จะเป็นแชมป์ฟอร์มมันต้องแจ่มทั้งในและนอกบ้าน ใครๆก็รู้ แต่อยู่ที่ว่าใครจะทำได้ดี และสม่ำเสมอกว่ากัน ใครทำได้ทีมนั้นก็คู่ควรกับตำแหน่งอันทรงเกียรตินั้น และหากว่าเรายังไม่สม่ำเสมออยู่เยี่ยงนี้ ก็บอกลาตำแหน่งอันทรงเกียรตินั้นไปซะ แล้วก็คงต้องพูดประโยคเดิมๆว่า “ปีหน้าเอาใหม่” กันอีกปี
แต่ถ้าหากยังคิดฝันจะเป็นแชมป์อยู่ก็ต้องโยนความพ่ายแพ้นัดนี้ลงถังขยะ แล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่ในเกมส์หน้า แต่ว่าหมดโอกาสที่จะแพ้หรือหลุดเสมอออกทะเลแล้วด้วยประการทั้งปวง
ผมว่าทีมเรามีศักยภาพพอที่จะเป็นแชมป์ เพียงแต่เราต้องเพิ่มศักยภาพความคมและความเด็ดขาดให้ทีมมากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย “แค่นี้เอง” ที่จะสามารถทำให้เราเป็นแชมป์ได้
แต่ไอ้ “แค่นี้เอง” นี่แหล่ะ ที่ยากบรรลัย จริงมั๊ยครับพวกเรา?
แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ขอจบบทความมันดื้อๆตรงนี้ก่อนละครับ เพราะยังช็อคและรับไม่ได้กับผลการแข่งขัน และฟอร์มการเล่นที่พลิกผันดังนรกสาปแช่งในนัดที่เราโดน “ไก่ จิก ปืน แตก คา คลัง แสง”
เซ็งไก่จริงๆขอรับใต้เท้า เฮ้อ!!!!
--------------------