แย่จังโดน........ลวนลามค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ๆเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้หนูก็มีประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ คือเรื่องมีอยู่ว่า หนูได้มีโอกาศเดินทางไปทำงานที่จังหวัดนึงๆ ทางภาคเหนือ [เป็นพิธีกรค่ะ] หนูเดินทางพร้อมเพื่อนสาวอีกคนนึง[สาวเทียมแต่ตัวควายค่ะ] หนูขับรถมาจากกรุงเทพ พอมาถึง ที่ ก็ดึกมากแล้ว พวกหนูเหนื่อยกันมาก กะว่าจะหาโรงแรมหรูๆพักกัน เพราะค่าที่พักทางคนจ้างออกให้ค่ะ ที่ไหนได้ ดันเต็มซะหมด หนูกับเพื่อนจึงขับรถวนเวียนไปตาม โรงแรมต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ก็เต็มหมด ตอนแรกพวกหนูกะว่าจะนอนในรถกัน แต่ว่า ไม่รู้ว่าสวรรค๋โปรด หรือ นรกแกล้งนะค่ะ ทำให้พวกหนูมาเจอกับ โรงแรมแห่งหนึ่ง สภาพโรงแรมนี้ ทรุดโทรมมาก หรือในภาษา ชาวบ้านก็ โรงแรมจิ้งหรัดอะละค่ะ แต่ตอนนั้นพวกหนูไม่สนใจกันแล้ว เพราะว่าเหนื่อยมาก อยากนอนมากกว่า พวกหนู จึงขอเปิดห้องหนึ่งห้อง ภาพห้อง ก็แอบสกปรกเล็กน้อย เพดานด้านบนก็ผุพังไปเกือบหมด เพื่อนหนูบอกว่า จะมีผีมั้ย แต่หนูเป็นคนไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ค่ะ หลังจากนั้นพวกหนูก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะออกไปกินข้าวกัน หนูให้เพื่อนหนูอาบก่อน และด้วยความเหนื่อยจากการเดินทาง จึงทำให้หนู หลับไป หลับไปซักพักเพื่อนก็มาปลุกให้ไปอาบน้ำ แต่ว่าหนูบอกเพื่อนไปว่า ให้ออกไปกินเลยแล้วซื้อมาฝากหนูด้วย และก็ให้กดล็อคประตูให่ด้วย ตอนแรก ชีก็ทำสะดิ้งใส่ค่ะ แต่หนูจ้องตาสะกด ทำให้ชีหงอลงไป แล้วก็เดินสะบัดก้นออกไป หลังจากนั้นหนูจึงนอนต่อ นอนไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ระหว่างกำลังเคลิ้มๆ หนูรู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบหน้าอกอันเขื่องของหนู ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะค่ะ แต่หลายครั้งมาก และด้วยความที่ไม่เชื่อเรื่องลึกลับนี้ ทำให้หนูคิดว่า เพื่อนสาวของหนูมันกลับใจค่ะ[ต้องเข้าใจนะค่ะหนูโดนมาเยอะ จิตตกนิดๆอะคะ] ด้วยความเหนื่อย+โมโห หนูจึงเอื้อมมือไปหยิบปราด้า[หลับตางัวเงียๆอยู่] หวังจะหยิบมีดสปาต้าออกมาฟันแขนเพื่อนเล่น[คือง่วงมากอาจทำอะไรไม่ยั้งคิดค่ะ] แต่ก็มาเอะใจเพราะหนูรู้สึกว่า มีใคร มากระซิบข้างหู ของหนู เป็นของผมนะ เอ้ะ!!! เสียงนี้ไม่ใช่เพื่อนหนูนี่นา คิดได้ดังนั้น หนูจึงรีบลืมตา แต่ว่า มันเอามือปิดตาหนูเอาไว้ พร้อมกับรู้สึกถึงรสสัมผัสที่ลิ้นของหนู ใช่ค่ะ!! มันกำลังพยายามจูบริมฝีปากอันอวบอิ่มได้รูปของหนู หนูดิ้นสุดแรงพร้อมกับ ถีบสิ่งนั้นสุดแรง หลังจากดิ้นหลุดมาได้ หนูจึงรีบหยิบ สปาต้าขึ้นมาป้องกันตัว แต่หนูก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะห้องทั้งห้องมีแต่ความว่างปล่าว!!! ห้องทั้งห้องเงียบมาก มีเพียงเสียงพัดลม และเสียงหายใจหอบระรินของหนู ตอนนี้หนูรีบวิ่งไปกลางห้อง พร้อมกับตั้งท่าป้องกันตัว ระหว่างนั้นเอง มีแจกันปลิวมาจากไหนไม่ทราบ มากระแทกโดนหลังหนูเต็มๆ หนูเจ็บมาก แต่ก็ยังคงไม่เห็นอะไร ตอนนั้นหนูคิดว่าใช่แล้ว มันต้องเป็น สิ่งนั้นแน่นอน ใช่ค่ะ มันคือมนุษย์ล่องหน!!!! คิดได้ดังนั้น หนูจึงรีบวิ่งไปหยิบถุงเลือดมาจากกระเป๋า ปราด้า พร้อมกับสาดลงที่พื้น หวังว่าถ้าสิ่งนั้นเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ หนูจะเห็นรอยเท้า แต่ว่า ไร้ผลค่ะ!! สิ่งนั้นยังคงปาของเข้ามาทำร้ายหนู ตอนนั้นหนูจึงถึงบางอ้อว่า สิ่งนั้นไม่ใช่มนุษย์!!! ใช่แล้วค่ะ มันคือ.....มนุษย์ล่องหนที่บินได้!!!! หนูไม่รู้จะสู้กับสิ่งนี้ยังไงดี จึงได้แต่กวัดแกว่งมีดไปตามลม แต่ดูเหมือนจะไร้ผล สิ่งนั้นยังคงตรงเข้ามาดึงกระโปรงหนูลง เผยให้เห็นน่องขาอันเรียวขาวของหนู พร้อมกับผลักหนูลงไปบนเตียง ตอนนี้หนูไม่สามารถขยับมือได้เลย หนูถูกล็อคข้อมือเอาไว้ด้วยแรงช้างสารที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแรงมนุษย์!!![แต่ก็เป็นมนุษย์] ตอนนั้น หนูร้องไห้เลย พรรมพจจรย์ของหนูที่อุตส่า ปกป้องไว้ ต้องมาเสียให้กับมนุษย์ที่หนูมองไม่เห็น แม้หน้าตา แต่เหมือนพระเจ้าทรงโปรด เพื่อนสาวเทียมของหนูมาเคาะห้อง หนูจึงรวบรวมแรงที่เหลือ บอกให้เพื่อนของหนูพังประตู เข้ามาเลย ได้ผล่ค่ะ ชีถีบประตูเข้ามาสุดแรง แมนมากๆๆ พร้อมกันนั้น หนูก็ได้ยินเสียง ผู้ชายร้องทรมารสุดเสียงแล้วเสียงนั้นก็เงียบหายไป หนูจึงคิดว่ามันไปแล้ว แต่ก็น่าแปลกใจอยู่อย่าง ที่ต่อให้มีเพื่อนมาช่วย สิ่งนั้นก็น่าจะกำจัดเราสองคนได้ง่ายๆ หนูจึงเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงบอกว่า เค้าห้อยพระเอาไว้ป้องกันตัว[เพื่อนหนูกลัวเรื่องแบบนี้มากตรงข้ามกับหนู] หนูจึงบอกเพื่อนไปว่า เพ้อเจ้อ มนุษย์ล่องหนคนนั้น คงไปทำอะไรไม่ดีกับพระเอาไว้ พอเจอพระ ก็เลยกลัวและสำนึกผิดหนีไป เพื่อนหนูทำท่าจะเถียงต่อ หนูจึงเบรคเอาไว้ และบอกว่า ให้ไปนอนในรถกันดีกว่า เผื่อสิ่งนั้น ย้อนกลับมา พวกหนูจึงลงไปนอนในรถ พอรุ่งเช้า พวกหนูจึงไปกินก๋วยเตี๋ยว ตรงข้ามโรงแรม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว จึงถามว่าพวกหนูพักที่นั้น เหรอ หนูก็ตอบว่าใช่ค่ะ พี่เจ้าของเลยบอกว่า ไม่มีใครไปพักที่นั่นหรอก เพราะว่า เคยมีคน ผูกคอตายที่นั้น เพื่อนสาวของหนูกรี้ดปรอทแทบแตก แต่หนูเฉยๆ เพราะหนูมีคำตอบในใจแล้ว หนูเดาว่า คงมีนักวิทยาศาสตร์ท่านนึง ที่เก่งมากๆๆ มาขอเช่าโรงแรม ทำเป็นห้องทดลองส่วนตัว[เพราะเห็นไม่มีคน] เค้าคงคิดค้นยาอะไรซักอย่างที่ทำให้หายตัวได้ค่ะ
และนี่แหละค่ะ คือการคิด+ ตามหลักของนาต้าลี เกลโบว่า หนูคิดว่าเพื่อนหนูนี่ช่างเพ้อเจ้อจิงๆ คิดอะไรไปไกล ช่างไร้สาระที่สุด!!!!!!!!!!!!!!!!!!