ซิสโซโก้เบิ้ล!สิงห์ยังไม่ฟื้นเจอนิวพิฆาตสุดมันส์ 3-2

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport ซิสโซโก้เบิ้ล!สิงห์ยังไม่ฟื้นเจอนิวพิฆาตสุดมันส์ 3-2

สถิติของแฟรงค์ แลมพาร์ดจืดไปเลยหลังมุสซ่า ซิสโซโก้แข้งใหม่ของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดกลายเป็นฮีโร่ให้กับทีมไปเรียบร้อยแล้วหลังจัดการซัดสองประตูช่วยให้ทีมที่โดนแซงนำไปพลิกกลับมาเอาชนะเชลซีไปได้แบบสุดมันส์ 3-2

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3:2 เชลซี

ประตู : 1-0 กูเตียร์เรซ น.41, 1-1 แลมพาร์ด น.55, 1-2 มาต้า น.61, 2-2 ซิสโซโก้ น.68, 3-2 ซิสโซโก้ น.90

เกมนี้นิวคาสเซิ่ลใช้นักเตะชุดเดิมกับที่ปราบแอสตัน วิลล่ามาในกลางสัปดาห์ลงสนามมาทั้งหมด ส่วนเชลซีได้เช็คกลับมาเฝ้าเสาแล้วเช่นเดียวกับเทอรืรี่ที่เป็นตัวจริงคุมแนวรับและบาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหนือตอร์เรส

ด้านสถิติสิงห์บลูส์มาเยือนเซนต์ เจมส์ พาร์ค 5 เกมหลังสุดพวกเขาไม่แพ้เลยชนะถึง 3 และเสียเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น โดยชัยชนะของสาลิกาเหนือเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อพฤษภาคมปีก่อนเป็นเพียงนัดเดียวใน 11 เกมหลัง

ครึ่งแรก

นิวทักทายก่อนแต่ยังไม่มีอะไรมาก
เปิดมาเป็นเจ้าบ้านทักทายกันอย่างต่อเนื่องเลยแล้วก็มีโอกาสได้จบไปแล้วจากซิสโซโก้ฝากไปที่ซิสเซ่ก่อนจะต่อไปที่กุฟฟร็องลากจี้ขึ้นมาแล้วออกทางซ้ายไปให้ซานตอนเลี้ยงตัดเข้าในมายิงแต่เบาเกินไปเช็คล้มตัวรับไว้ไม่มีปัญหา

สิงห์เกือบนำ!แลมพ์เติมมายิงข้ามคาน
นาที 15 การจบหนแรกของสิงห์บลูส์ก็มาแล้วจากบอลกลางสนามโดยมาต้าที่วางเข้าเขตโทษให้กับโคลเติมขึ้นมาก่อนจะเปิดย้อนกลับมาให้แลมพาร์ดเติมมาไร้ตัวประกบโล่งๆได้ยิงแต่จังหวะบอลมาไม่ดีสูงไปนิดเลยยิงออกข้ามคานไป

ได้ลุ้น!ซิสเซ่หลุดมายิงยังเข้าซองเช็ค
สาลิกาเกือบฉวยโอกาสได้ลูกออกนำเลยจากจังหวะไปบล็อกลูกจ่ายกลางสนามแล้วมันไปเข้าเท้าของซิสโซโก้หันกลับไปเห็นซิสเซ่เลือกจ่ายทะลุช่องให้ซิสเซ่ได้มีโอกาสยิงจาก 18 หลาแต่เจอแนวรับเชลซีไล่บีบมุมเลยยิงไปเข้าซองเช็ค

มาโหดจุงเบย!ซานตอนวอลเลย์ไม่จับหลุดเสา
โอกาสของนิวคาสเซิ่ลให้ได้เสียวมาอีกแล้วจากจังหวะไปขึงหน้าเขตโทษเชลซีอยู่ซักพักก่อนเป็นเดบูชี่ได้ตั้งป้อมเปิดเข้าไปด้านในโดนโหม่งสกัดออกมาเข้าทางของซานตอนวอลเลย์สวนแบบไม่ต้องจับแต่บอลมันปลิ้นหลุดเสาไกลไม่เท่าไหร่

น่านำจริง!บาสังเวยตัวเองยิงติดเซฟโหม่งซ้ำหลุดกรอบ
นาที 33 สิงห์บลูส์เกือบได้ออกนำไปก่อนแล้วจากบอลสวนกลับโยนยาวไปให้กับบาสปีดแข่งกับโคลอชชินี่เพื่อนเก่าตามไปเก็บบอลก่อนได้เจอเบียดก็ยังไหวก่อนได้ยิงในเขตโทษติดเซฟครูล กระดอนมาเข้าทางโหม่งซ้ำหลุดเสาแถมจังหวะโหม่งเจอเท้าโคลอชชินี่ที่มาสกัดบอลเข้าเต็มหน้าเลย

เกือบอีกแล้ว!ซิสเซ่ยิงจ่อๆเช็คเซฟหวุดหวิด
นิวคาสเซิ่ลหวิดได้ขึ้นนำอีกแล้วจากการยิงไกลของกาบายเข้าไปติดซิสเซ่เองก่อนจะหันกลับมาเจอได้ยิงแบบจ่อๆแปไปทางขวามือแต่เช็คยังเซฟได้โหดสุดๆผวาปัดไว้ได้ทันไม่งั้นใส่สกอร์ได้เลย

โดนจนได้!โฮนาสโหม่งเช็ดบอลเข้าเสาไกล
แล้วช่วงก่อนหมดครึ่งแรก 4 นาทีสาลิกาก็ได้ประตูออกนำไปก่อนจนได้จากการเปิดบอลของกาบายออกไปทางซ้ายให้ซานตอนที่เติมขึ้นมาก่อนจะแตะหลบเข้าในแล้วเปิดเข้าไปมีกูเตียร์เรซโฉบมาโหม่งเช็ดสุดบางส่งบอลตกพื้นกระดอนเข้าเสาไกล นิวคาสเซิ่ลออกนำไปแล้ว 1-0

บาทนพิษบาดแผลไม่ไหวแล้ว
เล่นมาซักพักบาที่โดนเตะเข้าหน้าจนต้องมาแปะอุดจมูกห้ามเลือดไหลก็ต้องยอมแพ้เดินออกจากสนามไป เปลี่ยนให้ตอร์เรสลงสนามมาแทน ก่อนจะทดเวลากัน 4 นาทีและแม้นิวคาสเซิ่ลจะกดดันต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่เกิดประตูทำให้นำเชลซีอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

ประวัติศาสตร์!แลมพ์กดไกลสิงห์ไล่ตีเสมอ
กลับมาครึ่งหลังเชลซียังคงโดนนิวคาสเซิ่ลกดดันอย่างต่อเนื่องแต่นาที 55 พวกเขามาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะโคลครงบอลอยู่ริมเส้นก่อนจะไหลมาหยน้าเขตโทษให้กับแลมพาร์ดปล่อยบอลไหลเข้าเท้าขวาก่อนได้ยิงถนัดๆส่งบอลเข้าประตูอย่างสวยงาม เชลซีตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ ทำให้แลมพาร์ดกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ 10 ประตูขึ้นในพรีเมียร์ลีก 10 ฤดูกาลติดต่อกันด้วย

เกือบนำ!แลมพ์โหม่งจ่อๆเข้ามือครูล
แล้วได้คึกคักเลยสำหรับเชลซีเกือบได้ประตูออกนำเลยด้วยจากบอลออกไปทางขวาให้กับมาต้าหลุดมาก่อนจะได้เปิดเข้าไปด้านในบอลถึงหัวของแลมพาร์ดโขกจ่อๆแต่ครูลยังยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้ติดมือแบบเกือบไปสุดๆ

ไม่เหลือ!มาต้าปั่นเสียบเสาไกลอย่างงาม
นาที 61 สิงห์บลูส์ก็ทำสำเร็จมาได้ประตูออกนำจนได้จากรามิเรสจ่ายทะลุไปทางขวาให้กับอิวาโนวิชเติมขึ้นมาเปิดไปแฉลบกุฟฟร็องก่อนตอร์เรสวิ่งมาแปะคืนให้กับมาต้าได้ตั้งเท้าปั่นด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งหายเข้าเสาไกลไปแบบหมดจด เชลซีแซงนำเป็น 2-1 แล้ว

มาต้าได้ตีลังกายิงกดไม่ลง
มาได้แล้วมาเรื่อยเลยเชลซีได้โอกาสจบได้ลุ้นอีกแล้วจากแลมพาร์ดได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะไหลออกไปทางซ้ายให้ออสการ์ตามมารับก่อนจะเลี้ยงฝ่าไต่เส้นหลังมาแล้วตักไปตรงกลางให้มาต้าได้ตีลังกายิงแต่กดไม่ลงหลุดข้ามคานไป

ไม่ยอม!สาลิกาสวนกุฟฟร็องซัดติดเซฟซิสโซโก้ซ้ำหาย
แต่สาลิกายังไม่ยอมมาไล่ตีเสมอได้สำเร็จในจังหวะสวนกลับจากการจ่ายของซิสเซ่ให้กุฟฟร็องหลุดเดี่ยวมายาวๆจากกลางสนามเข้าเขตโทษก่อนจะยิงด้วยซ้ายไปติดเซฟเช็ค แต่ปัดออกมาแล้วเข้าทางของซิสโซโก้ตามมาซ้ำเข้าไปไม่เหลือ นิวคาสเซิ่ลไล่เจ๊าเป็น 2-2 ได้เรียบร้อย

ซิสโซโก้โชว์ขยันเกือบได้บวกอีกลูก
นาที 71 เกือบจะมีประตูนำของนิวคาสเซิ่ลเลยจากจังหวะขยันของซิสโซโก้ไปวิ่งกวดกับโคลแล้วแซงเห็นๆก่อนจะตามไปบอลเข้าไปในเขตโทษทางขวาแล้วตัดสินใจกดมุมแคบเลยแต่เช็คยังเซฟได้ปลายมือ

ซิสโซโก้มาอีกแล้วยังยิงเข้ามือเช็ค
เข้า 10 นาทีสุดท้ายแล้วเกมยังแลกกันได้ลุ้นตลอดบอลเปลี่ยนฝั่งกันไวพาไปป้วนเปี้ยนในเขตโทษได้ต่อเนื่องกันทั้งคู่แต่จังหวะจบยังไม่กันเท่าไหร่ นอกจากลูกโต้กลับที่กุฟฟร็องไหลออกมาให้ซิสโซโก้ทางซ้ายก่อนเลี้ยงใส่อิวาโนวิชแล้วแตะจนมีช่องก่อนจิ้มเสาแรกยังเข้ามือเช็ค

ได้จบทั้งสองทีมแต่ก็ยังไม่เข้าเป้า
โอกาสของทั้งสองทีมมาเรื่อยๆแต่ยังไม่มีตรงกรอบให้ได้ลุ้นเลยหนแรกเป็นของนิวคาสเซิ่ลก่อนจากบอลโดยมาร์กโวซ์เปิดเข้ามาแต่ซิสเซ่ยิงไม่ดีหลุดแบบไม่ได้ลุ้น ส่วนเชลซีก็ได้ลองยิงไกลจากแลมพาร์ดกับรามิเรสแต่ก็ขึ้นสแตนด์หายไปทั้งคู่

แต่นาทีสุดท้ายของเกมกลายเป็นเจ้าบ้านที่ได้เฮแบบสุดเสียงหลังมาได้ประตูออกนำอีกครั้งจากนักเตะตัวใหม่จากซิสโซโก้เป็นคนไปไล่เอาบอลมาเองก่อนจะออกไปทางซ้ายให้กับซานตอนค่อยๆเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษมาก่อนจ่ายคืนมาหน้นาประตูให้กับซิสโซโก้ซัดเรียดแบบไม่ต้องจับเช็คล้มตัวมาปัดแต่ก็ไม่ทันแล้วบอลเข้าไปตุงตาข่าย นิวคาสเซิ่ลนำ 3-2

แลมพาร์ดเกือบทำให้ทีมตีเสมอได้จากการยิงอัดเข้ามาแต่สุดท้ายจบเกมนิวคาสเซิ่ลก็เอาชนะเชลซีได้สำเร็จ 3-2 เป็นอีกหนึ่ง 3 แต้มสำคัญของพวกเขาไป ส่วนเชลซีก็เสมอเป็นเกมที่ 4 ติดกันในทุกรายการแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด : ทิม ครูล, ดาวิเด้ ซานตอน, มาติเยอ เดบูชี่, สตีเฟ่น เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, โยฮัน กาบาย, เจมส์ เพิร์ช

, มุสซ่า ซิสโซโก้

, โยอัน กุฟฟร็อง (มาร์กโวซ์ น.84), โฮนาส กูเตียร์เรซ

, ปาปิส ซิสเซ่

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โรเบิร์ต เอลเลียต, เวอร์น่อน อนิต้า, มาโป ยานก้า-เอ็มบิว่า, กาเอล บิกิริมาน่า, กาเบรียล โอแบร์ต็อง, โชล่า อเมโอบี้

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค, แอชลี่ย์ โคล

, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แฟรงค์ แลมพาร์ด

, รามิเรส

, ฆวน มาต้า, ออสการ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, เด็มบ้า บา (ตอร์เรส น.42)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : รอส เทิร์นบูลล์, เปาโล แฟร์เรร่า, เซวาร์ อัซปิลิกวยต้า, มาร์โก้ มาริน, ยอสซี่ เบนายูน, นาธาน เอเก้