เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้พลาดโอกาสไล่จี้ปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 2 คะแนนหลังจากบุกไปเสมอคิวพีอาร์ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 0-0 โดยฮูลิโอ เซซาร์โชว์เซฟหนึบๆหลายครั้งส่งให้ตามหลังคู่ปรับร่วมเมือง 4 แต้มแถมแข่งมากกว่า 1 นัด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 29 มกราคม 2556
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม : ลอฟตัส โร้ด
ประตู : -
เกมนี้แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ต้องเน้นเต็มที่เพราะรั้งตำแหน่งบ๊วยอยู่โดยเขาส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแกนรุกนำโดยโลอิก เรมี่ดาวยิงตัวใหม่ล่าตาข่ายและให้ทารับต์คอยทำเกมอยู่ด้านหลัง
ด้านทีมเยือนมีปัญหาในแดนหลังเมื่อไม่มีกอมปานีกัปตันทีมคนเก่งทำให้ต้องส่งมาร์ติเนซลงมาจับคู่กับเลสต็อตต์แทน
แดนหน้าไร้ชื่อของมาริโอ บาโลเตลลี่ที่กำลังจะย้ายไปอยู่เอซี มิลานโดยเป็นชื่อของอเกวโร่ล่าตาข่ายกับเตเบซโดยมีเชโก้รอโอกาสบนม้านั่งสำรอง
ครึ่งแรก
เรือเปิดก่อนเลสค็อตต์ยิงได้เสียว
เริ่มเกมมา 9 นาทีเป็นฝั่งของทีมเยือนได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ซิลบาไหลบอลมาให้กุนได้ยิงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่บอลไปโดนบล็อคออกหลังไป
จากจังหวะเตะมุมเซซาร์ปัดบอลไม่ดีมาเข้าทางปืนของเลสค็อตต์ได้ยิงในกรอบเขตโทษด้านขวาทว่าบอลลอยโด่งข้ามคานออกไปนิดเดียว
รอดตาย!ซาบาเลต้าโขกชนคานสนั่น
มาถึงนาทีที่ 20 เจ้าบ้านรอดพ้นการเสียประตูเหลือเชื่อเมื่อกุนแย่งบอลได้จากริมเส้นด้านซ้ายก่อนไหลไปให้ซิลบาลากจนสุดเส้นแล้วเปิดเข้ามาให้ซาบาเลต้าพุ่งโขกกลางประตูแต่บอลไปชนคานเข้าอย่างจัง
คิวพีอาร์มีโต้...เรมี่ยิงติดบล็อค
โอกาสแรกของเจ้าบ้านมาถึงในนาทีที่ 25 เมื่อเรมี่ได้ยิงในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่บอลไปติดบล็อคของเลสต็อตต์แล้วออกเสาไกลไปทำให้แฟนเจ้าบ้านได้ครางฮือเหมือนกัน
กุนซัดตุงแต่ล้ำหน้า
แมน ซิตี้ส่งบอลไปตุงตาข่ายแล้วแต่ไม่ได้ประตูในจังหวะที่ซิลบาปะทะกับกราเนโร่ก่อนหลุดเข้าไปเปิดบอลด้านขวาของเขตโทษให้กุนเข้าฮอร์สไม่เหลือแต่ดาวเตะอาร์เจนไตน์ล้ำหน้าไปแล้ว
ทารับต์หลุดยิงติดฮาร์ท
บุกอยู่ดีๆทีมเยือนเกือบเสียประตูเหมือนกันในนาทีที่ 39 เมื่อทารับต์ได้จังหวะโต้กลับก่อนกระชากใส่กลีชี่จนถึงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วตัดสินใจยิงไปติดบล็อคของฮาร์ทที่ออกมาได้ไว
เซซาร์ช่วยชีวิต...แบร์รี่ยิงเต็มติดเซฟเฉย
เจ้าบ้านรอดตัวอีกแล้วงานนี้ต้องขอบคุณเซซาร์คนเดียวเมื่อเตเบซได้บอลจากริมเส้นด้านขวาก่อนตบมาให้แบร์รี่ได้แปด้วยซ้ายข้างถนัดตรงเส้นเขตโทษบอลพุ่งไปหาเสาซ้ายมือจะเสียบอยู่แล้วแต่จอมหนึบบราซิลยังบินปัดออกไป
จังหวะถัดมานาสรี่ได้ส่องไกลระยะ 20 หลาทว่าบอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
ครึ่งหลัง
เริ่มครึ่งหลังบดกันแดนกลาง
เริ่มเกมครึ่งหลังมาในช่วง 15 นาทีแรกทั้งสองทีมยังพยายามดูเชิงชิงบอลกันอยู่กลางสนามทำให้ยังไม่มีโอกาสได้ส่องกันหมากเหมือนในครึ่งแรกและมันชินี่ตัดสินใจส่งเชโก้ลงมาเติมเกมรุกแทนนาสรี่ในนาทีที่ 59
เรมี่ได้ยิงอีกแต่ข้ามคานไกล
นาทีที่ 63 เจ้าบ้านได้ลุ้นในจังหวะที่เรมี่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนล็อคมาเข้าเท้าขวาแล้วยิงหวังปั่นเข้าเสาสองทว่าบอลลอยโด่งออกไป
เชโก้จับวืดอดยิงเลย
ถัดมาไม่นานมิลเนอร์ลากบอลเดี่ยวมาตรงกลางสนามก่อนพยายามแทงบอลทะลุช่องไปให้เชโก้ในกรอบเขตโทษด้ายซ้ายแต่ดาวยิงบอสเนียตั้งหลักไม่ทันจับบอลไม่อยู่ทำให้พลาดโอกาสยิงอย่างน่าเสียดาย
ซิลบายิงยัด...เซซาร์ยังไม่พลาด
เกมมาถึงนาทีที่ 69 เรือใบสีฟ้าได้ลุ้นอีกรอบเมื่อซิลบาทำชิ่งกับกุนหน้ากรอบเขตโทษก่อนเจ้าตัวตัดสินใจยิงยัดผ่านกองหลังเจ้าถิ่นไปหมดแล้วทว่าเซซาร์ยังล้มตัวตะครุบบอลเอาไว้ได้หนึบเหมือนมีแม่เหล็กติดเอาไว้ที่ถุงมือเลย
กุนวอลเล่ย์นกหนีพรึบ
กุนมีโอกาสได้ยิงอีกแล้วแต่ทำไม่ดีเมื่อมิลเนอร์เปิดบอลยาวจากระยะกว่า 40 หลาไปให้ซาบาเลต้าที่เติมขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านขวาโขกตั้งให้กุนตวัดยิงแถวๆเส้นกรอบเขตโทษแต่บอลลอยโด่งงานนี้นกตายกันเพียบเลย
เรมี่ถลาล้มแต่อดจุดโทษ
แฟนบอลเจ้าถิ่นลุกขึ้นเรียกร้องจะเอาลูกจุดโทษกันเป็นแถวในจังหวะที่เรมี่กระชากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่เลสค็อตต์พยายามยื่นขามาขวาเอาไว้ซึ่งดาวยิงฝรั่งเศสก็ล้มไปตามสเต็ปทว่าฟิล ดาวด์กลับไม่เป่าว่าเป็นลูกฟาวล์
เซซาร์อีกแล้ว...ช่วยคิวพีอาร์ไม่เสียประตู
มาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายต้องขอบคุณเซซาร์อีกแล้วเมื่อเชโก้ปาดบอลจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายไปให้ซิลบาวิ่งเข้ามาอัดเต็มเหนี่ยวแต่เซซาร์ยังยืนได้ตรงจุดปัดบอลออกไปได้แบบสุดเหลือเชื่อ
ดาวด์ใจแข็งไม่ให้จุดโทษเรือ
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีทีมเยือนพยายามเรียกร้องเอาจุดโทษในจังหวะที่ซินแคลร์เลี้ยงไปโดนโอนูโอฮาสกัดล้มจากทางด้านหลังแต่ดาวด์ชูมือบอกให้เล่นต่อไป
เรือบ้อท่าได้แค่แต้มเดียว
สุดท้ายแล้วเรือใบสีฟ้าก็ไร้ปัญญายิงบอลให้ผ่านมือของเซซาร์ไปได้ทำให้เก็บได้เพียงคะแนนเดียวไล่หลังปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 แต้มส่วนคิวพีอาร์ยังรั้งบ๊วยตามเติมตามหลังรองบ๊วยอย่างเร้ดดิ้ง 3 คะแนน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส : ฮูลิโอ เซซาร์, อาร์กมองด์ ตราโอเร่, เนดุม โอนูโอฮา, ไรอัน เนลเซ่น, สเตฟาน เอ็มเบีย (อเลฮานโดร ฟาอูร์ลิน น. 92), ชอน เดอร์รี่, คลิ้นท์ ฮิลล์, อเดล ทารับต์, เอสเตบัน กราเนโร่ (ปาร์ค จี-ซุง น. 90), โลอิก เรมี่ (บ็อบบี้ ซาโมร่า น. 92), ฟาบิโอ
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โรเบิร์ต กรีน, ไบรอัน เมอร์ฟี่, ทาล เบน ฮาอิม, เจย์ โบธรอยด์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า , เจมส์ มิลเนอร์ (สกอตต์ ซินแคลร์ น. 86), ฆาบี การ์เซีย, กาแอล กลิชี่, โจลีออน เลสค็อตต์, ซาเมียร์ นาสรี่ (เอดิน เชโก้ น. 59), เซร์คิโอ อเกวโร่, แกเร็ธ แบร์รี่ , ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเบซ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น. 72)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คอสเทล ปานติลิม่อน, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, มาติย่า นาสตาซิช, คาริม เรกิก