ไม่ได้โม้!“วินนี”โวนัดสอง 7-0 แต่“อนุชา”ส่อชวด

         “ช้างศึก” ทีมชาติไทย บุกไปแพ้ “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ในเกมแรก 1-3 ทำให้นัดสองต้องชนะ 2-0 หรือหากเสียประตูจะต้องชนะผลต่างตั้งแต่ 3 ลูกขึ้นไป จึงจะคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ซึ่งรอบชิงชนะเลิศ นัดสอง จะเตะวันที่ 22 ธันวาคม ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น.

          โดยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทัพนักเตะ ทีมชาติไทย เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้แย ช่วงเวลา 17.45 น. ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 414 ซึ่งทันทีที่ถึงสนามบิน “วินนี” สั่งลูกทีมขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปฝึกซ้อมต่อทันทีที่สนาม ม.รามคำแหง “วินนี”กล่าวถึงเกแรกว่าตนเองผิดหวังกับสกอร์ที่ออกมา พร้อมบ่นเสียดายเมื่อได้ดูเทปย้อนหลังและยืนยันว่า ทีมชาติไทย สมควรได้ลูกจุดโทษหลังจากผู้เล่น สิงคโปร์ เจตนาทำแฮนด์บอล อย่างไรก็ตามเกมนัดสองยังมั่นใจว่าจะพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์ได้ 

          ทั้งนี้เมื่อถามถึงแท็คติกการเล่น “วินนี” ยอมรับว่าอาจจะปรับแท็คติกเพื่อเปิดเกมรุกอย่างหนัก แต่ต้องระมัดระวังการสวนกลับและกำชับลูกทีมห้ามเสียประตูเป็นอันขาด ขณะเดียวกัน “วินนี” ได้บอกด้วยว่าสมัยที่ตนเองเป็นผู้เล่นกับสโมสรคาร์สลูร์ในเยอรมัน เคยลงสนามในศึกชิงแชมป์สโมสรยุโรป เจอกับ บาเลนเซีย จากสเปน ปรากฏว่าเกมแรกแพ้ 1-3 ทว่านัดสองเอาชนะได้ถึง 7-0 

         ด้าน นพ.พรเทพ ม้ามณี แพทย์ประจำ รพ.กรุงเทพ และ ทีมชาติไทย กล่าวถึงอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักอย่าง บอย” อนุชา กิจพงษ์ศรี, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, ดัสกร ทองเหลา และอดุล หละโสะ ซึ่งรายแรกอาการน่าเป็นห่วงที่สุดเนื่องจากกล้ามเนื้อฉีก ภานุพงษ์ เจ็บแผ่นหลังแต่ไม่น่ามีปัญหา ส่วนดัสกรเจ็บกล้ามเนื้อและคิดว่าจะหายทันในช่วง 1-2 วันจากนี้ ด้านอดุลถูกศอกจนเนื้อบริเวณใต้ตาแตก ทว่าสามารถลงเล่นได้ อย่างไรก็ตามอนุชาน่าเป็นห่วงที่สุด และโอกาสลงสนามมีน้อยเต็มทน อยู่ที่ว่า “วินนี” จะตัดสินใจอย่างไร