นับตั้งแต่สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยก่อตั้งขึ้นมากว่า 40 ปี ยังไม่เคยมี "มนุษย์" (นักกีฬา) คนไหนประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองชิงแชมป์โลกกลับมาได้สักครั้งเลย อย่างดีสุดก็แค่เหรียญทองแดงเท่านั้น
จนกระทั่งมาถึงศึก "2011 ดับเบิลยูทีเอฟ เวิลด์ เทควันโด แชมเปี้ยนชิพ" ที่เมืองกองจู ประเทศเกาหลีใต้ บันทึกประวัติศาสตร์หน้าแรก ก็ได้เกิดขึ้นจากฝีเท้าของ "น้องจูน" รังสิยา นิสัยสม นักเทควันโดสาววัย 17 ปีจากเมืองน้ำเค็ม จ.ชลบุรี ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประมุขใหญ่กีฬาชนิดนี้ยิ่งนัก จากนั้นมาดูเหมือนว่า ผลงานเถิดเทิงของ รังสิยา จะดร็อปลงไปพอสมควร แม้ว่าในการควอลิฟายโอลิมปิกที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปลายปี 54 "น้องจูน" จะคว้าเหรียญทองในรุ่น 57 กก.มาครองก็ตาม แต่ใช่ว่า สมาคมจะให้ตั๋วไปอลป.ต้องมีการประลองกันภายในอีกครั้งหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นในศึกเทควันโดชิงแชมป์เอเชีย 2012 ที่เวียดนาม เจ้าตัวดันฟอร์มตกพลาดท่าเจ๊งชัยรอบสองให้ แอนเดรีย พอลลี จากบาห์เรน 0-1 คะแนน เล่นเอา โค้ชเช ยอง ซอก อารมณ์เสีย...เกือบเปลี่ยนใจเอา "จูนเล็ก" วรวงษ์ พงษ์พานิช อดีตเหรียญทองยูธโอลิมปิก ที่สิงคโปร์ มาทำหน้าที่แทนแล้ว โชคยังดีที่ รังสิยา กลับมาพิสูจน์ความทรหดอดทนให้เห็นอีกครั้งในการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักตลอด 1 เดือนเต็มที่แดนกิมจิ หนำซ้ำ วรวงษ์ นั้นยังมีอาการบาดเจ็บไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก สมาคมจึงให้สิทธิ์ตั๋วอลป.กับรังสิยา เป็นคนสุดท้าย ล่าสุด
รังสิยา หรือ "จูนใหญ่" ที่เพื่อนๆ เรียกกันติดปาก กล่าวว่า ช่วงปีที่ผ่านมาผลงานในระดับนานาชาติไม่ดีเท่าไหร่นัก จึงทำให้การประกาศอันดับมือวางโลกไม่ติดอยู่ 1 ใน 8 ส่งผลให้ต้องไปจับสลากวัดดวงกับมือวางที่มีอยู่ทั้งหมด ส่วนตัวหากเป็นไปได้ไม่อยากอยู่สายบนร่วมกับ หลี่ เจิ้ง เส็ง เต็ง 1 จากไต้หวันเลย เพราะนักกีฬาคนนี้จัดจ้านครบเครื่องทุกอย่าง ยอมรับว่า เราค่อนข้างเป็นรอง แต่ถ้าโชคดีจับสลากในวันที่ 7 สิงหาคมนี้อยู่สายล่าง ร่วมกับเต็ง 2 คือ หยู ซู โหว ของจีน และยังมี วาห์บา เฮดายา มือวางอันดับ 3 ชาวอียิปต์กับ เมอร์เรนี เฮอร์นอย ของฝรั่งเศส ก็น่ามีสิทธิ์ลุ้นไปถึงรอบลึกๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะความคาดหวังขอทำเซอร์ไพรส์เข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศก็พอใจแล้ว เนื่องจากตัวเองไปในครั้งนี้ไม่ได้เป็นมือวางหรือตัวเต็งเหมือนเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คนดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ สำหรับโอลิมปิกหนนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตตัวเอง
ยอมรับว่า ตื่นเต้นและกดดันมากพอสมควร เพราะทุกคนจับจ้องมาที่พวกเรามาก ยิ่งสถานการณ์ข้างหน้าเราไม่สามารถบอกได้ว่า มันจะเจอกับอะไรบ้าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสมาธิและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งของตัวเอง ส่วนตัวขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอใจแล้ว "ไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะได้ไปร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มันเป็นความใฝ่ฝันในวัยเยาว์ตั้งแต่เริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้มาตอน 11 ขวบ ชอบที่ชุดมันสวยและเท่ดี แต่ไม่คิดว่า ตัวเองจะมีโอกาสยิ่งใหญ่ในชีวิตขนาดนี้ ดังนั้นจึงขอตั้งใจทุ่มเทเต็มที่ ยิ่งเวลานี้ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่การฝึกซ้อมและลงแข่งขันเท่านั้น ยิ่งเราไม่ได้เป็นนักกีฬาความหวังอะไร ไม่ค่อยกดดัน แต่ตัวเองก็มีทีเด็ดที่จะทำเซอร์ไพรส์เข้าไปถึงรอบตัดเชือก เพื่อเอาเหรียญมาฝากทุกคนให้ได้" รังสิยา เผยความรู้สึกให้รับทราบ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
