เมื่อไม่กี่วันก่อนได้พูดถึง 10 อันดับนักเตะที่ซื้อแล้วใช้งานได้สุดคุ้มและเกินคุ้ม วันนี้ก็เลยจะมาดู 10 อันดับนักเตะที่ซื้อมาเสริมทัพแล้วกับใช้งานได้น่าผิดหวังที่สุดในฤดูกาล 2011/2012 ของศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันบ้าง!?
10อันดับแข้งเสริมทัพน่าผิดหวัง2011-12
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport 10อันดับแข้งเสริมทัพน่าผิดหวัง2011-12
10อันดับแข้งเสริมทัพน่าผิดหวัง2011-12พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2011-12
เมื่อไม่กี่วันก่อนได้พูดถึง 10 อันดับนักเตะที่ซื้อแล้วใช้งานได้สุดคุ้มและเกินคุ้ม วันนี้ก็เลยจะมาดู 10 อันดับนักเตะที่ซื้อมาเสริมทัพแล้วกับใช้งานได้น่าผิดหวังที่สุดในฤดูกาล 2011/2012 ของศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันบ้าง!? ไปเริ่มกันที่อันดับ..
1. สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง-จาก แอสตัน วิลล่า 20 ล้านปอนด์ (ราว 1 พันล้านบาท) ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มบ้าเลือดแลกกับปีกซ้ายทีมชาติอังกฤษ ที่ซัด 7 ประตู บวก 9 แอสซิสต์ให้กับสิงห์ผยองเมื่อปีที่แล้ว เพื่อมาเติมเต็มแนวรุกริมเส้น แต่ทว่าแข้งวัย 27 ปี กับมีฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาปีนี้ยังซัดในลีกไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวเท่านั้น แม้จะผ่านบอลได้ตามหน้าที่แต่เพื่อนไม่สามารถจบสกอร์ได้เลย
2.โรเจอร์ จอห์นสัน-จาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 7 ล้านปอนด์ (ราว 350 ล้านบาท) จับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ สก็อตต์ แดนน์ อย่างโดดเด่น แม้ว่า เบอร์มิงแฮม จะตกชั้นก็ตาม ด้วยค่าตัวถือว่าเป็นการซื้อที่น่าจะคุ้มค่าสำหรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมที่ตั้งรับไม่ค่อยจะเป็น สุดท้ายกลายเป็นบ่อน้ำมันมักจะผิดพลาดทำเข้าประตูตัวเองบ่อยครั้งสุดท้ายปีนี้หมาป่าก็มีอันต้องร่วงไปเล่นเดอะแชมเปี้ยนซิปในฤดูกาลหน้า
3.ชาร์ลส์ เอ็นซ็อคเบีย-จาก วีแกน แอธเลติก 9.5 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท) ถูก แอสตัน วิลล่า ดึงมาเพื่อเป็นตัวแทนของ แอชลี่ย์ ยัง และ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง หลังโดดเด่นพา วีแกน รอดตกชั้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้เป็นตัวเลือกภายใต้การคุมทัพของ อเล็กซ์ แม็คลีช เท่าที่ควรจนยิงไปได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ทั้งที่ปีก่อนมีทั้งลูกกระชากลากเลื้อยและฟรีคิกที่เชื่อใจได้
4.คอนนอร์ วิคแฮม-จาก อิปสวิช ทาวน์ 13 ล้านปอนด์ (ราว 650 ล้านบาท) ได้รับการยกย่องเกินจริงสมัยเล่นให้กับม้าขาวจนมีสโมสรยักษ์ใหญ่อยากได้ตัว ซันเดอร์แลนด์ จึงทุ่มบ้าเลือดตัดหน้าสุดท้ายยิงไปได้แค่ประตูเดียวบนเวทีพรีเมียร์ลีก ถือว่าเร็วเกินไปสำหรับแข้งวัย 19 ปีที่มาเล่นบนลีกสูงสุดของอังกฤษ แม้ว่าจะหน่วยก้านดีสูงถึง 189 เซนติเมตร โดยไม่ได้ออกสตาร์ทเลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา!
5.วิลสัน ปาลาซิออส-จาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 8 ล้านปอนด์ (ราว 400 ล้านบาท) กองกลางทีมชาติฮอนดูรัส โดดเด่นกับ สเปอร์ส ช่วง 2 ฤดูกาลแรก มีส่วนพาทีมทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ตัวตัดเกมที่ล้นทีมจึงถูกโละออกมาพร้อมกับฟอร์มเก่งหดหายสมัยเล่นให้กับ วีแกน แอธเลติก สุดท้ายไม่อาจสอดแทรกตำแหน่งตัวจริงในถิ่นบริทานเนีย สเตเดี้ยม รังเหย้าของ สโต๊ค ซิตี้ และยิ่งเหลือบดูราคาแล้ว ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
6.จอร์แดน เฮนเดอร์สัน-จาก ซันเดอร์แลนด์ 16 ล้านปอนด์ (ราว 800 ล้านบาท) เป็นแข้งที่ เคนนี่ ดัลกลิช เร่งมือซิวมาเสริมทัพเมื่อช่วงต้นซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นไปตามที่เกจิหลายสำนักฟันธงคือนักเตะระดับเกรด ซี แบบนี้ค่าตัวแพงเกินไป และเล่นไปเล่นมาไม่รู้ว่าจะเป็นปีกขวาหรือมิดฟิลด์ตัวกลางดี และแข้งวัย 21 ปี ยังต้องเรียนรู้อีกมากจากนักเตะอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด แข้งรุ่นพี่
7.เจย์ โบธรอยด์-จาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (ฟรีทรานเฟอร์) กองหน้าที่เคยติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ 1 นัด จากผลงานซัดกระจายให้กับ คาร์ดิฟฟ์ ศึกเดอะแชมเปี้ยนชิป แต่การย้ายมาอยู่กับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส หอกวัย 29 ปี เหมือนเลยจุดที่ดีที่สุดของชีวิตไปแล้วยิงได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ไม่อาจฝากความหวังในการหนีตกชั้น จนสุดท้ายทหารเสือราชินีต้องดึง บ็อบบี ซาโมร่า กับ ฌิบริล ซิสเซ่ เข้ามาช่วยแทน
8.ซาเมียร์ นาสรี่-จาก อาร์เซน่อล 24 ล้านปอนด์ (ราว 1,200 ล้านบาท) ถือเป็นความคาดหวังที่สูงเกินไปสำหรับ โรแบร์โต้ มันชินี่ กับการทุ่มเงินซื้อมาเพื่อเป็นจิ๊กซอว์ในการก้าวไปสู่แชมป์ ทว่าสุดท้ายเป็น ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ อกูเอโร่ ที่เรียกได้ว่าฝากความหวังได้มากกว่า แม้ซัดไป 5 ประตู แอสซิสต์ 9 ประตู แต่แล้วก็ตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะแทกติกของเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนใหญ่มักจะเน้นแพ็กกลางรับ 2-3 ตัวมากกว่า ยังดีที่ทีมได้คว้าแชมป์ลีกปีนี้มาครอง
9.โรเมลู ลูกากู-จาก อันเดอร์เลชท์ 18 ล้านปอนด์ (ราว 900 ล้านบาท) วัดแค่รูปร่างและหน้าตาจึงได้ฉายานิว ดิดิเยร์ ดร็อกบาด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปีถือว่า เชลซี เสี่ยงไม่น้อยที่ดึงกองหน้าทีมชาติเบลเยียมรายนี้ สุดท้ายกระดูกยังไม่ถึงยิงให้กับทีมไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวจากทั้งหมด 10 นัด ไม่แน่ฤดูกาลหน้าอาจจะต้องปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้มากกว่านี้
10.ดาวิด เอ็นก็อก-จาก ลิเวอร์พูล 4 ล้านปอนด์ (ราว 200 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 3 ปี ลงเล่น 63 นัดบนเวทีพรีเมียร์ลีก ส่วนใหญ่เป็นตัวสำรองซัดไป 9 ประตู โบลตัน วันเดอเรอร์ส ยังกล้าเสี่ยงดึงแข้งวัย 23 ปี ร่วมถิ่นรีบ็อค สเตเดี้ยม พร้อมสัญญาใจจะได้เป็นตัวจริงตลอด หากไม่เจ็บไม่ไข้ โดย 27 นัด หลังสุดไม่ยิงสักลูก ที่ผ่านมาควานหาสกอร์เจอแค่ 4 ครั้งตั้งแต่เดือนมกราคมยิงได้แค่ประตูเดียวในลีกจนเวลานี้ทีมก็หล่นตกชั้นไปเป็นที่เรียบร้อย!
แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ teenee
เมื่อไม่กี่วันก่อนได้พูดถึง 10 อันดับนักเตะที่ซื้อแล้วใช้งานได้สุดคุ้มและเกินคุ้ม วันนี้ก็เลยจะมาดู 10 อันดับนักเตะที่ซื้อมาเสริมทัพแล้วกับใช้งานได้น่าผิดหวังที่สุดในฤดูกาล 2011/2012 ของศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันบ้าง!? ไปเริ่มกันที่อันดับ..
1. สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง-จาก แอสตัน วิลล่า 20 ล้านปอนด์ (ราว 1 พันล้านบาท) ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มบ้าเลือดแลกกับปีกซ้ายทีมชาติอังกฤษ ที่ซัด 7 ประตู บวก 9 แอสซิสต์ให้กับสิงห์ผยองเมื่อปีที่แล้ว เพื่อมาเติมเต็มแนวรุกริมเส้น แต่ทว่าแข้งวัย 27 ปี กับมีฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาปีนี้ยังซัดในลีกไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวเท่านั้น แม้จะผ่านบอลได้ตามหน้าที่แต่เพื่อนไม่สามารถจบสกอร์ได้เลย
2.โรเจอร์ จอห์นสัน-จาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 7 ล้านปอนด์ (ราว 350 ล้านบาท) จับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ สก็อตต์ แดนน์ อย่างโดดเด่น แม้ว่า เบอร์มิงแฮม จะตกชั้นก็ตาม ด้วยค่าตัวถือว่าเป็นการซื้อที่น่าจะคุ้มค่าสำหรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมที่ตั้งรับไม่ค่อยจะเป็น สุดท้ายกลายเป็นบ่อน้ำมันมักจะผิดพลาดทำเข้าประตูตัวเองบ่อยครั้งสุดท้ายปีนี้หมาป่าก็มีอันต้องร่วงไปเล่นเดอะแชมเปี้ยนซิปในฤดูกาลหน้า
3.ชาร์ลส์ เอ็นซ็อคเบีย-จาก วีแกน แอธเลติก 9.5 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท) ถูก แอสตัน วิลล่า ดึงมาเพื่อเป็นตัวแทนของ แอชลี่ย์ ยัง และ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง หลังโดดเด่นพา วีแกน รอดตกชั้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้เป็นตัวเลือกภายใต้การคุมทัพของ อเล็กซ์ แม็คลีช เท่าที่ควรจนยิงไปได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ทั้งที่ปีก่อนมีทั้งลูกกระชากลากเลื้อยและฟรีคิกที่เชื่อใจได้
4.คอนนอร์ วิคแฮม-จาก อิปสวิช ทาวน์ 13 ล้านปอนด์ (ราว 650 ล้านบาท) ได้รับการยกย่องเกินจริงสมัยเล่นให้กับม้าขาวจนมีสโมสรยักษ์ใหญ่อยากได้ตัว ซันเดอร์แลนด์ จึงทุ่มบ้าเลือดตัดหน้าสุดท้ายยิงไปได้แค่ประตูเดียวบนเวทีพรีเมียร์ลีก ถือว่าเร็วเกินไปสำหรับแข้งวัย 19 ปีที่มาเล่นบนลีกสูงสุดของอังกฤษ แม้ว่าจะหน่วยก้านดีสูงถึง 189 เซนติเมตร โดยไม่ได้ออกสตาร์ทเลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา!
5.วิลสัน ปาลาซิออส-จาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 8 ล้านปอนด์ (ราว 400 ล้านบาท) กองกลางทีมชาติฮอนดูรัส โดดเด่นกับ สเปอร์ส ช่วง 2 ฤดูกาลแรก มีส่วนพาทีมทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ตัวตัดเกมที่ล้นทีมจึงถูกโละออกมาพร้อมกับฟอร์มเก่งหดหายสมัยเล่นให้กับ วีแกน แอธเลติก สุดท้ายไม่อาจสอดแทรกตำแหน่งตัวจริงในถิ่นบริทานเนีย สเตเดี้ยม รังเหย้าของ สโต๊ค ซิตี้ และยิ่งเหลือบดูราคาแล้ว ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
6.จอร์แดน เฮนเดอร์สัน-จาก ซันเดอร์แลนด์ 16 ล้านปอนด์ (ราว 800 ล้านบาท) เป็นแข้งที่ เคนนี่ ดัลกลิช เร่งมือซิวมาเสริมทัพเมื่อช่วงต้นซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นไปตามที่เกจิหลายสำนักฟันธงคือนักเตะระดับเกรด ซี แบบนี้ค่าตัวแพงเกินไป และเล่นไปเล่นมาไม่รู้ว่าจะเป็นปีกขวาหรือมิดฟิลด์ตัวกลางดี และแข้งวัย 21 ปี ยังต้องเรียนรู้อีกมากจากนักเตะอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด แข้งรุ่นพี่
7.เจย์ โบธรอยด์-จาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (ฟรีทรานเฟอร์) กองหน้าที่เคยติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ 1 นัด จากผลงานซัดกระจายให้กับ คาร์ดิฟฟ์ ศึกเดอะแชมเปี้ยนชิป แต่การย้ายมาอยู่กับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส หอกวัย 29 ปี เหมือนเลยจุดที่ดีที่สุดของชีวิตไปแล้วยิงได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น ไม่อาจฝากความหวังในการหนีตกชั้น จนสุดท้ายทหารเสือราชินีต้องดึง บ็อบบี ซาโมร่า กับ ฌิบริล ซิสเซ่ เข้ามาช่วยแทน
8.ซาเมียร์ นาสรี่-จาก อาร์เซน่อล 24 ล้านปอนด์ (ราว 1,200 ล้านบาท) ถือเป็นความคาดหวังที่สูงเกินไปสำหรับ โรแบร์โต้ มันชินี่ กับการทุ่มเงินซื้อมาเพื่อเป็นจิ๊กซอว์ในการก้าวไปสู่แชมป์ ทว่าสุดท้ายเป็น ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ อกูเอโร่ ที่เรียกได้ว่าฝากความหวังได้มากกว่า แม้ซัดไป 5 ประตู แอสซิสต์ 9 ประตู แต่แล้วก็ตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะแทกติกของเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนใหญ่มักจะเน้นแพ็กกลางรับ 2-3 ตัวมากกว่า ยังดีที่ทีมได้คว้าแชมป์ลีกปีนี้มาครอง
9.โรเมลู ลูกากู-จาก อันเดอร์เลชท์ 18 ล้านปอนด์ (ราว 900 ล้านบาท) วัดแค่รูปร่างและหน้าตาจึงได้ฉายานิว ดิดิเยร์ ดร็อกบาด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปีถือว่า เชลซี เสี่ยงไม่น้อยที่ดึงกองหน้าทีมชาติเบลเยียมรายนี้ สุดท้ายกระดูกยังไม่ถึงยิงให้กับทีมไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวจากทั้งหมด 10 นัด ไม่แน่ฤดูกาลหน้าอาจจะต้องปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้มากกว่านี้
10.ดาวิด เอ็นก็อก-จาก ลิเวอร์พูล 4 ล้านปอนด์ (ราว 200 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 3 ปี ลงเล่น 63 นัดบนเวทีพรีเมียร์ลีก ส่วนใหญ่เป็นตัวสำรองซัดไป 9 ประตู โบลตัน วันเดอเรอร์ส ยังกล้าเสี่ยงดึงแข้งวัย 23 ปี ร่วมถิ่นรีบ็อค สเตเดี้ยม พร้อมสัญญาใจจะได้เป็นตัวจริงตลอด หากไม่เจ็บไม่ไข้ โดย 27 นัด หลังสุดไม่ยิงสักลูก ที่ผ่านมาควานหาสกอร์เจอแค่ 4 ครั้งตั้งแต่เดือนมกราคมยิงได้แค่ประตูเดียวในลีกจนเวลานี้ทีมก็หล่นตกชั้นไปเป็นที่เรียบร้อย!
แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ teenee
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!