เรือหงายเงิบ!เจอตอกส้นพิฆาตพ่ายลิสบอน 1-0

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport เรือหงายเงิบ!เจอตอกส้นพิฆาตพ่ายลิสบอน 1-0

ฟุตบอลยูโรป้าลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555

สนาม : โจเซ่ อวาลาเด้

สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1:0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประตู : 1-0 ซานเดา น.51

แมนฯ ซิตี้ที่รอบที่แล้วผ่านปอร์โต้มาได้จะเจอกับลิสบอนที่เอาชนะลีเกียมาได้ โดยวันนี้"เรือใบสีฟ้า"ส่งให้กลิชี่ลงมาเล่นแบ็คขวา ส่วนเด ยองกับมิลเนอร์จะได้ลงแทนยาย่าและนาสรี่

ครึ่งแรก

มาถึงเรือก็ต้องเสียกอมปานีเลย
เริ่มเกมมาทาง"เรือใบสีฟ้า"ที่ดูจะเป็นฝ่ายบุกได้มากกว่าก็ต้องมาใช้โควต้าเปลีย่นตัวแต่หัววันเลยหลังกอมปานีเจ็บเตะบอลทิ้งเองก่อนจะเปลี่ยนให้เลสคอตต์ลงสนามลงมาแทน

ลิสบอนได้ลองส่อง
แล้วเป็นลิสบอนที่ได้โอกาสจบแบบน่าลุ้นกันก่อนจากการพาบอลขึ้นมาของเปเรร่าแบ็คขวาทำชิ่งหนึ่งสองจนทะลุเข้าเขตโทษก่อนจะสับไกด้วยขวาแต่ฮาร์ทยังพุ่งปัดออกมาได้

เรือเกือบแล้ว!ตูเร่โขกติดเซฟ
คราวนี้เป็นทางแมนฯ ซิตี้ที่ได้ลุ้นกันบ้างจากจังหวะเตะมุมทางซ้าย เปิดเข้ามาโดยมิลเนอร์บอลลอยมาทางเสาสองให้กับตูเร่ที่เบียดเอาชนะตัวประกบแล้วโหม่งแต่ปาทริซิโอ้ยังไวล้มตัวปัดได้เช่นกัน

นิดนึง!แบร์รี่ได้ยิงบอลเลี้ยวหลุดเสา
เกมมาถึงนาที 23 ทีมเยือนจากเมืองผู้ดีมีโอกาสได้ครองบอลลุยเข้าใส่เยอะกว่าก็มาได้ลุ้นอีกแล้วจากจังหวะที่ซิลบาจะแหวกจากริมเขตโทษทางซ้ายเข้ามาแต่เจอสกัดไว้ บอลยังไหลมาเข้าทางแบร์รี่กลางประตูวิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลเลี้ยวหลุดเสาแค่นิดเดียว

เฟร์นานเดซส่องไกลไม่่ตรงกรอบ
เป็นคราวของลิสบอนบ้างจากจังหวะที่เซโก้จ่ายบอลไม่ดีไปติดทางคาเปลก่อนจะจ่ายมาให้กับเฟร์นานเดซที่อยู่ตรงกลางได้ตั้งป้อมส่องไกลบอลพุ่งหลุดกรอบไปไม่เท่าไหร่

เฟร์นานเดซลุยสวยแต่ยิงติดบล็อก
ช่วงท้ายครึ่งแรกสปอร์ติ้งมีโอกาสได้บุกกดันเข้าใส่ชุดใหญ่และมีเสียวเหมือนกันจากเฟร์นานเดซที่ได้บอลทางขวาก่อนพลิกหนีโคลารอฟมาได้สวยแล้วพาเข้าเขตโทษก่อนจะสับหลอกเลสคอตต์แล้วยิงแต่ยังติดบล็อก ทำให้จบครึ่งเวลาแรกโดยยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

ซิลบาลองส่องก่อนข้ามคาน
กลับมาครึ่งหลังด้วยความคึกคักเลยสำหรับ"เรือใบ"หลังได้ลุ้นก่อนจากเซโก้ที่ไหลออกไปทางซ้ายให้กับโคลารอฟวิ่งเติมขึ้นมาโล่งๆก่อนเปิดเข้าเขตโทษ บอลเลยไปหมดกุนจะจับบอลก็ไม่ดีแต่มาเข้าทางซิลบาได้ยิงบอลข้ามคานออกหลังไป

เรืองานเข้า!ซานเดาตอกส้นจ่อๆลิสบอนนำ
แต่แล้วนาที 51 เจ้าบ้านได้เฮกันสุดเสียงหลังได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องไปทางซ้ายและเป็นเฟร์นานเดซรับหน้าที่ยิงเข้ามา บอลพุ่งโค้งเลี้ยงลงจะเสียบเสาไกลฮาร์ทพุ่งมาเซฟไว้บอลไม่ไปไหน ซานเดาเข้ามาซ้ำทีแรกยังติดฮาร์ทแต่บอลยังเข้าทางจัดการโชว์ตอกส้นส่งบอลเข้าไปประตูไปเลย ลิสบอนขึ้นนำแล้ว 1-0

เรือเกือบตีเสมอได้
แมนฯ ซิตี้อยู่ไม่สุขแล้วและคราวนี้เกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกเล่นสั้นไหลมาหน้าเขตโทษให้กับโคลารอฟจับบอลก่อนทีนึงแล้วก็ยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งโค้งเลี้ยวหนีสามเหลี่ยมออกหลังไปแค่ไม่กี่ฟุตเท่านั้น

เรือเสียวเว้ย!ลิสบอนเกือบได้ลูกสอง
เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูที่สองเสียแล้วจากการยกบอลข้ามแผงแนวรับแมนฯ ซิตี้ให้กับอินซัวหลุดเข้าเขตโทษแบบโล่งๆไร้ตัวประกบก่อนจะเล็งแล้วจ่ายมาให้โวลฟ์วินเคิลได้แปเน้นๆแต่เบาไปและมุมไม่ดีพอเจอฮาร์ทเซฟเอาไว้ได้

เกือบมีโชค!โคลารอฟเปิดบนตกใส่คาน
เข้านาที 68 "เรือใบ"ยังเดินหน้าบุกใส่ลิสบอนที่วันนี้ถือว่าดีในเกมรับต่อไปและก็มีโอกาสเกือบได้โชคช่วยเหมือนกันจากการเติมขึ้นมาของโคลารอฟก่อนจะได้เข้ากลางไปบอลลอยโด่งข้ามหัวปาทริซิโอ้ไปแล้วแต่น่าเสียดายที่บอลตกบนคาน

สไตล์โพ้ม!โอ้โขว์ไขว้เปิดเรือเกือบตีเสมอ
แมนฯ ซิตี้ส่งทางบาโลเ้ตลลี่ลงสนามมาแทนเซโก้แล้วเกือบจะทำให้ทีมได้ประตูตีเสมอซะด้วยจากจังหวะที่ได้พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะกระชากสุ้เส้นหลังแล้วโชว์ไขว้เปิด ซิลบาพุ่งมาแหย่ขาจิ้มบอลแต่หลุดออกเสาแรก

โอ้เซ็ง!โหม่งชนคานเต็มๆ
ช่วงท้ายเกม"เรือใบ"เกือบได้ประตูตีเสมอแล้วจากลูกเตะมุมโดยซิลบาที่เปิดเข้าไปตรงกลางให้กับบาโลเตลลี่โหนโหม่งบอลลอยผ่านมือปาทริซิโอ้ไปแล้วแต่ชนคานเต็มๆอดได้ประตูอีกครั้ง

เรือเกือบตีเสมอได้อีกแล้ว
นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาแมนฯ ซิตี้เกือบได้ประตูอีกแล้วโดยเป็นกลิชี่ที่พาบอลจากขวาเลี้ยงตัดเข้าในมาแล้วส่องไกลติดบล็อก บอลกระดอนไปเข้าทางอเกวโร่ยกบอลข้ามปาทริซิโอ้ไปแล้วแต่ยังเจอนักเตะลิสบอนวิ่งมาขวางทัน พยายามฟ้องเอาแฮนด์บอลแต่กรรมการก็ไม่ได้ให้อะไร

สุดท้ายแมนฯ ซิตี้ก็ทำไม่สำเร็จบุกมาพ่ายให้กับลิสบอนไปก่อนนัดแรก 1-0 และได้เปรียบที่ไม่ต้องเสียอเวย์โกลก่อนจะต้องไปลุ้นในเกมนัดสองที่เอติฮัด สเตเดี้ยม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สปอร์ติ้ง ลิสบอน : รุย ปาทริซิโอ้ 6.5, เจา เปเรร่า 6.0, อันแดร์สัน โพลก้า

6.0, เอมิเลียโน่ อินซัว 6.0, ดาเนียล คาร์ริโก้ 6.5, อเล็กซานเดร ลุยซ์ ซานเดา

6.5, สไตจ์น ชาร์ส 6.5, มาติอัส เฟร์นานเดซ 7.0* (เนโต้ น.69

5.5), ดิเอโก้ คาเปล 6.0 (คาร์ริโญ่ น.75 5.5), มาราท อิซไมลอฟ

5.5 (เปเรรินญ่า น.59 5.5), ริคกี้ ฟาน โวลฟ์วินเคิ่ล 5.5

รายชื่อนักเตะตัวสำรอง : มาร์เซโล่ โบเอค, ซานโตส เอวัลโด้, อัลแบร์โต้ โรดริเกซ, ดิเอโก้ รูบิโอ้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6.0, โคโล่ ตูเร่ 6.5, แวร์นซองต์ กอมปานี - (เลสคอตต์ น.12 6.5), กาเอล กิลชี่ 6.0, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ

6.5, แกเร็ธ แบร์รี่ 6.0 (นาสรี่ น.59 6.0), ไนเจล เด ยอง

6.0, เจมส์ มิลเนอร์ 6.0, ดาบิด ซิลบา 6.0, เอดิน เซโก้ 5.0 (บาโลเตลลี่ น.71 6.5), เซร์คิโอ้ อเกวโร่ 5.5
รายชื่อนักเตะตัวสำรอง : คอสเทล พานทิลิมอน, สเตฟาน ซาวิช, ดาวิด ปิซาร์โร่, อดัม จอห์นสัน