วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2:0 โบลตัน วอนเดอร์เรอร์
ประตู : 1-0 สไตน์สัน(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.24, 2-0 บาโลเตลลี่ น.69
งานนี้แมนฯ ซิตี้พักตัวหลักอย่างซิลบากับอเกวโร่ไว้และให้ทางจอห์นสันกับปิซาร์โร่ลงสนามมาแทนและมีซาบาเลต้าลงมาเล่นแบ็คขวา ด้านฟอร์มก็ยังดีต่อเนื่องในบ้านยังชนะต่อเนื่องมาเรื่อยอีกทั้ง 6 นัดหลังที่เจอโบลตันก็ไม่เคยแพ้ให้เลย
ครึ่งแรก
มาถึงได้ลุ้น!โอ้ยิงชนเสา-นาสรี่ซ้ำเจอเซฟ
เปิดเกมมาเพียงแค่ 2 นาทีแมนฯ ซิตี้น่าจะออกนำไปก่อนจริงๆหลังบาโลเตลลี่ได้หลุดเข้าเขตโทษแบบเดี่ยวๆแล้วก่อนจะยิงผ่านมือบ็อกดานแต่บอลดันชนเสาเต็มๆ มาเข้าทางนาสรี่ซ้ำก็ยังเจอบ็อกดานกลับมาพุ่งปัดเอาไว้เฉียดฉิว
เฉียดอีกแล้ว!โอ้ยิงหลุดเสานิดเดียว
ผ่านพ้นมาอีกแค่ 2 นาทีเป็นอีกครั้งที่"เรือใบสีฟ้า"น่าได้ประตูขึ้นนำจริงๆจากจอห์นสันที่ทำชิ่งหนึ่งสองหลุดเข้าเขตโทษไปจนสุดเส้นหลังก่อนจะตบกลับเข้ากลางมาถึงบาโลเตลลี่ย้อนหลังไปหน่อยเลยต้องยืดขากลับมากรับก่อนจะยิงส่งบอลหลุดเสาไปแบบน่าเสียดาย
เรือกางใบ!กลิชี่ยิงแฉลบสไตน์สันเข้าประตู
เกมยังเป็นของเจ้าบ้านมาต่อเนื่องและจนในนาที 24 พวกเขาก็ได้ประตูขึ้นนำเสียทีจากจังหวะที่กลิชี่เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเลือกยิงจากหน้าเขตโทษเข้ามาเลย บอลพุ่งแรงสไตน์สันพยายามโหม่งสกัดแต่ไม่ดีกลายเป็นแฉลบนิดหน่อยให้บ็อกดานขาตายพุ่งเซฟไม่ทัน แมนฯ ซิตี้ออกนำไปแล้ว 1-0
โอ้ลองฟรีคิกบ้างยังข้ามคาน
"เรือใบ"มีโอกาสได้ลุ้นประตูที่สองต่อเลยจากการมาได้ฟรีคิกตรงบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษก่อนจะเป็นบาโลเตลลี่ที่รับหน้าที่ยิงแต่กดไม่ลงบอลลอยข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว
โบลตันบ้าง!เอ็นก็อกหลุดมายิงยังโดนปัด
คราวนี้มาเป็นโอกาสของโบลตันกันบ้างจากโคเกอร์ที่พาบอลขึ้นมาเจอมาเบียดแย่งเอาไว้แต่ยังตื้อจนผ่านบอลผ่านมาได้ ก่อนจะไหลเข้าเขตโทษให้กับเอ็นก็อกโฉบมายิงมุมแคบแต่ฮาร์ทยังทุบเอาไว้
หนูเรียวส่องบ้างฮาร์ทยังปัดเช่นเคย
"เดอะ ทรอตเตอร์"มาได้โอกาสส่องอีกครั้งนึงจากจังหวะบอลโยนยาวมาข้างหน้า เอ็นก็อกโหม่งเช็ดมาให้ทางเจ้าหนูเรียวที่วันนี้ป่วนใช้ได้ ตูเร่พยายามล้มตัวสกัดแต่ไม่โดนมิยาอิชิพาบอลเข้าเขตโทษไปก่อนจะได้ยิงไปเสาสองแต่ฮาร์ทคนเดิมยังปัดทิ้งได้อยู่
เรือน่าได้อีกแล้ว!โอ้ยิงเจอเซฟด้วยจา
ช่วงท้ายครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้เกือบด้ประตูที่สองอีกครั้งนึงจากการพาบอลตะลุยเข้ามาในเขตโทษของกลิชี่ก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้กับกอมปานีได้บังบอลไว้แล้วออกมาทางซ้ายให้กับบาโลเตลลี่จับบอลก่อนทีนึงแล้วยิงแต่บ็อกดานยังใช้ขาเซฟไว้ได้
ครึ่งหลัง
โอ้อีกแล้ว!ยิงอีกแต่ติดเซฟเหมือนเดิม
เปิดเกมกลับมาครึ่งหลังแมฯ ซิตี้ก็มีโอกาสได้ลุ้นลูกที่สองทันทีจากการจ่ายบอลทะลุช่องของแบร์รี่ให้กับบาโลเตลลี่ได้ล่อเป้าอีกแล้วแต่ก็ยังติดบ็อกดานเช่นเคย
ตูเร่ผู้พี่เติมมายิงหลุดเสา
เข้านาที 60 "เรือใบสีฟ้า"ก็เกือบได้ประตูที่สองอีกครั้งนึงจากตูเร่ที่พาบอลจากริมเส้รเข้ามาก่อนจะจ่ายทำชิ่งหนึ่งสองกับนาสรี่บอลมาเข้าเท้าคราวนี้ไม่ต้องจับสับไกทันทีบอลผ่านเสาออกหลังนิดเดียว
โบลตันเกือบสงเคราะห์ลูกสองให้เรือ
โบลตันเกือบจะสงเคราะห์ให้แมนฯ ซิตี้ขึ้นนำลูกที่สองอีกแล้วจากจังหวะที่เซโก้นั้นจับบอลหน้าเขตโทษ แพรทลี่ย์วิ่งลงมาช่วยจิ้มไว้ได้แต่เกือบกลายเป็นไม่ดีเพราะบอลลอยโด่งเลยบ็อกดานไปชนคานเต็มๆรอดตัวไป
จนได้!โอ้ได้ยิงสมใจแล้ว
ในที่สุด"เรือใบสีฟ้า"ก็มาได้ลูกที่สองเสียทีจากจังหวะที่จอห์นสันเลี้ยงจี้เจ้าเขตโทษ ก่อนจะสับหลอกแล้วฝ่าสองผู้เล่นโบลตันเข้ากรอบ 6 หลาก่อนจะโชว์ตอกส้นส่งบอลผ่านบ็อกดานที่ปิดมุมมาให้บาโลเตลลี่ได้มีชื่อเป็นคนทำสกอร์เสียที นาที 69 แมนฯ ซิตี้ทิ้งห่างเป็น 2-0
เรือเกือบได้ลูกสาม
ก่อนจะหมดเวลาแมนฯ ซิตี้เกือบได้ลุ้นลูกที่สี่แล้วจากตูเร่ที่เติมขึ้นมาจากแบ็คขวามีจอห์นสันแทงบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษให้หลุดไปจนถึงเส้นหลังก่อนจะปาดกลับมาเสาแรกให้เซโก้ยิงแต่ว่าหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกมแมนฯ ซิตี้ก็ไม่มีปัญหาเอาชนะโบลตันไปได้ 2-0 เก็บชัยในบ้านต่อเนื่องนัดที่ 14 ต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดฤดูกาลเลยแถมยังเป็นคลีนชีท 4 นัดติดด้วย ส่วนโบลตันยังคงจมรองบ๊วยต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 7.0, โจลีออน เลสคอตต์ 6.5, แวร์นซองต์ กอมปานี 7.0, กาเอล กลิชี่ 7.0, ปาโบล ซาบาเลต้า 6.0 (ตูเร่ น.19 7.0), แกเร็ธ แบร์รี่ 6.5, ดาวิด ปิซาร์โร่ 7.0 (เซโก้ น.62 6.5), ยาย่า ตูเร่ 7.5, ซามีร์ นาสรี่ 6.5 (มิลเนอร์ น.84 -), อดัม จอห์นสัน 6.0, มาริโอ บาโลเตลลี่ 7.5*
รายชื่อนักเตะตัวสำรอง : ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, คอสเทล พานทิลิมอน
โบลตัน วอนเดอร์เรอร์ : อดัม บ็อกดาน 7.0, แซท ไนท์ 4.5, เดวิด วีเทอร์ 5.0, ซามูเอล ริคเกตต์ 5.5, เกรตาร์ สไตน์สัน 5.5, ไนเจล ริโอ-โคเกอร์ 6.0, ทิม รีม 4.0, ดาร์เรน แพรทลี่ย์ 5.0, เรียว มิยาอิชิ 6.0, มาร์ค เดวี่ส์ 6.0, ดาวิด เอ็นก็อก 5.5
รายชื่อนักเตะตัวสำรอง : พอล โรบินสัน, ยุนซี่ ยัสเคไลเน่น, อิวาน คลาสนิช, มาร์ติน เปตรอฟ, คริส อีเกิลส์, ฟาบริช มูอัมบ้า, มาร์วิน ซอร์เดลล์
_________________