ราชันเซ็ง!ซีเอสเคเอโกงตายฮึดตีเจ๊าทดเจ็บ 1-1


ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย 

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555
 

 ซีเอสเคเอ มอสโก 1 : 1 เรอัล มาดริด  

สนาม : โอลิมเปียสกี้ สตาดิโอน ลุซห์นิกี้ 

ประตู : 0-1 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.28, 1-1 พอนตุส เวิร์นบลูม น.90+3
 
 

ซีเอสเคเอ มอสโกชวดใช้งานอิกอร์ อคินเฟเยฟผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่เจ็บเข่าทำให้ต้องดันเซร์เกย์ เรฟยาคินนายด่านวัย 16 ปีขึ้นมาเป็นมือสอง ขณะที่เคย์ซุเกะ ฮอนดะที่ไม่ฟิตร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องออกสตาร์ทที่ม้านั่งสำรอง โดยเกมนี้พวกเขาใช้อลัน ซาโกเยฟปั้นเกมรุกอยู่หลังหน้าเป้าอย่างเซย์ดู ดูมเบีย 

เรอัล มาดริดไม่มีชื่อของอังเคล ดิ มาเรียที่เจ็บซ้ำแผลเก่าต้องพักยาวอีกสามสัปดาห์แต่ได้อัลบาโร่ อาร์เบลัวสลัดคราบเดี้ยงลงประจำการแบ็คขวา ส่วนแนวรุกโฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อนได้รับโอกาสก่อนหน้ากาก้าให้ลงมาประสานงานกับตัวหลักอย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้และคาริม เบนเซม่า 

ครึ่งแรก 

เปิดฉากไม่นานราชันหวิดเงิบ 
เกมที่ลุซห์นิกี้เล่นกันภายใต้สภาพอากาศติดลบ 15 องศาเซลเซียสและออกสตาร์ทมาได้เพียง 7 นาทีซีเอสเคเอก็ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่เชนนิคอฟกระชากบอลลุยขึ้นมาจุดสุดเส้นด้านขวาแล้วบรรจงเปิดบอลเข้ามาให้เซโกเยฟวอลเล่ย์จากระยะ 8 หลาหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียวไส้ 

เบนซ์ยิงแล้วเจ็บ-อิกวาอินลงแทน 
แต่นาที 14 "ราชันชุดขาว"ก็ได้โอกาสตอบโต้บ้างเมื่อเคห์ดิร่างัดบอลจากทางด้านขวาไปให้เบนเซม่าพักบอลลงด้วยอกก่อนเอี้ยวตัววอลเล่ย์ทันทีจากระยะ 25 หลาหลุดเสาซ้ายไปแถมเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบขึ้นมาเลยทำให้ต้องเปลี่ยนเอาอิกวาอินลงมาแทน 


OMG!เชปชูกอฟเซฟสองดอกติด
 
อีกสามนาทีถัดมา"โลส บลังโกส"น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆเมื่อโรนัลโด้ทำชิ่งเร็วไปให้อิกวาอินวางเท้ายิงด้านขวาที่หน้ากรอบเขตโทษแต่เชปชูกอฟเซฟเอาไว้ได้แล้วพอบอลกระดอนออกมาเข้าทางเคห์ดิร่าได้เข้าซ้ำนายด่านเจ้าบ้านก็ยังลุกขึ้นมาปัดบอลออกหลังได้อีก 

นำจนได้!โรนัลโด้กดเต็มหลอด 
อย่างไรก็ตามความผิดพลาดในแนวรับของเจ้าบ้านก็ทำให้เรอัล มาดริดชิงได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 28 หลังโคเอนเทราเติมขึ้นมาครอสบอลจากทางกราบซ้ายเข้ามาที่เสาไกลแล้วโทซิชโหม่งเคลียร์บอลแบบแป๊กๆทำให้บอลทะลักมาถึงโรนัลโด้ได้ฮาร์ฟวอลเล่ย์เต็มข้อเสียบเสาซ้ายอย่างเด็ดขาด 

ทำให้แข้งทีมชาติโปรตุเกสซัดไปแล้ว 36 ประตูจากการลงสนามทุกรายการ 35 เกมในซีซั่นนี้และยังเป็นประตูที่ 122 ใน 124 นัดนับแต่ย้ายมาเล่นให้กับเรอัล มาดริด 

โรนัลโด้กระทุ้งฟรีคิก 
นาที 34 คาซิญาสออกจากเส้นประตูมาขวางโอกาสเข้าทำของดูมเบียจนกองหน้าตัวความหวังของซีเอสเคเอเสียจังหวะแล้วหลังจากนั้น"โลส บลังโกส"ก็ได้สวนกลับเร็วแต่บอลไปหยุดลงเมื่อโรนัลโด้ถูกอิ๊กนาเชวิชทำฟาวล์แล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาอัดฟรีคิกไปชนกำแพง 

ดูมเบียได้โขกหลุดกรอบ 
อีกสี่นาทีให้หลังเป็นโอกาสเข้าทำของเจ้าถิ่นบ้างเมื่ออัลโดรินเติมเกมขึ้นมาเปิดบอลให้ดูมเบียที่เทคตัวเอาชนะอาร์เบลัวเข้าโหม่งแต่ก็หลุดกรอบประตูไปโดยที่คาซิญาสได้แต่ยืนมอง ทำให้จบครึ่งแรกเรอัล มาดริดบุกมานำซีเอสเคเอ 1-0 จากประตูของโรนัลโด้ 

ครึ่งหลัง 

กาเญฆ่อนทิ้งโอกาสทอง 
"ราชันชุดขาว"ประเดิมครึ่งหลังด้วยโอกาสทองในนาที 51 เมื่อโรนัลโด้พาบอลมาทางซ้ายของรกรอบเขตโทษก่อนไหลทะลุช่องให้กาเญฆ่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปแต่เชปชูกอฟออกมาปิดมุมไวเลยทำให้ตกใจจนยิงหลุดเสาไปเยอะพอสมควร 

เชปชูคอฟอ่านเกมเยี่ยม 
นาที 54 เคห์ดิร่าฉวยโอกาสผ่านบอลยาวทะลุไปหน้าประตูของซีเอสเคเอโดยมีอิกวาอินวิ่งควบตามไปติดๆทว่าเชปชูคอฟที่ทำหน้าที่ในวันนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมอ่านเกมขาดวิ่งออกจากเส้นประตูมาเคลียร์ทิ้งได้ทัน 


ฮอนดะลงมาแล้ว
 
หลังจากนั้นในนาที 61 โรนัลโด้เก็บบอลได้ที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนลองสับไกยิงจากระยะ 30 หลาแต่ก็ข้ามคานก่อนที่ซีเอสเคเอตัดสินใจปรับทัพด้วยการส่งฮอนดะลงมาแทนอัลโดนินหวังเพิ่มโอกาสจบสกอร์ 

ในขณะที่คาซิญาสยังคงเป็นผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวในแชมเปี้ยนลีกส์ซีซั่นนี้ที่เก็บคลีนชี๊ทได้ 100% จากการลงสนาม 5 นัดให้กับ"ราชันชุดขาว" 

เชปชูกอฟยังเหนียว 
"โลส บลังโกส"ตัดสินใจเปลี่ยนเอากาก้าลงมาลุยแทนกาเญฆ่อนในนาที 74 แล้วจังหวะการเล่นลูกเตะมุมฝั่งขวาของพวกเขาที่โอซิลเปิดบอลมาให้รามอสโหม่งเต็มๆก็ยังไปเข้ามือของเชปชูกอฟที่ยืนตำแหน่งดีเลยดักรับไว้ได้ 

โรนัลโด้พลิกเข้าซัดติดเซฟ 
นาทีถัดมาอลองโซ่โชว์เทรดมาร์กวางบอลยาวขึ้นหน้าไปให้โรนัลโด้เอาบอลลงด้วยอกแต่พอพลิกไปก็ต้องเผชิญหน้ากับเชปชูกอฟที่ออกจากเส้นมาล้มตัวเซฟลูกยิงของปีกโปรตุกีสด้วยปลายมือซ้ายส่งบอลออกหลังประตู 

ท้ายเกมผลัดกันทำ 
นาที 82 ซีเอสเคเอมาได้ลูกฟรีคิกเกือบสุดเส้นหลังฝั่งขวาแล้วเป็นฮอนดะที่กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามากดดันจนคาซิญาสต้องสวมวิญญาณซูเปอร์แมนชกบอลด้วยสองมือทิ้งออกมาได้ แต่หลังจากนั้นเรอัล มาดริดก็ขึ้นเกมสวนกลับก่อนที่กาก้าจ่ายบอลทะลุช่องไปโดนกองหลังตัวสุดท้ายของเจ้าถิ่นสกัดมาเข้าทางปืนโรนัลโด้กดหลุดเสา 

ราชันเงิบ!โดนตีเจ๊าทดเจ็บ 
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายซีเอสเคเอมาพลิกพังประตูตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ซาโกเยฟเปิดฟรีคิกเข้าไปที่กลางกรอบเขตโทษแล้วเป็นคู่พี่น้องเบเรซุตสกี้ที่โหม่งชงบอลไปมาจนมาเข้าทางปืนเวิร์นบลูมกระหน่ำเต็มๆผ่านตัวคาซิญาสเข้าไป 

จบเกมเรอัล มาดริดทำได้แค่บุกมาเสมอซีเอสเคเอ มอสโก 1-1 แต่ยังกุมความได้เปรียบเรื่องอเวย์โกลกลับไปรอรับมือนัดสองที่บ้านตัวเองต่อไปในศึกแชมเปี้ยนลีกส์รอบ 16 ทีมสุดท้าย 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

ซีเอสเคเอ มอสโก : 
เซร์กี้ เชปชูกอฟ 6.5, อเล็คซี่ เบเรซุตสกี้  5.5, วาซิลี เบเรซุตสกี้ 5.5, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช 5.5, จอร์จี้ เชนนิคอฟ 5.5, พอนตุส เวิร์นบลูม   6, เยฟเกนี่ อัลโดนิน 5 (เคย์ซุเกะ ฮอนดะ น.68, 5.5), โซรัน โทซิช 4.5 (โธมัส เนซิด น.80, 5.5), อลัน ซาโกเยฟ 5.5, อาห์เหม็ด มูซ่า 5.5 (เซกู โอลิเซห์ น.64, 5.5), เซย์ดู ดูมเบีย 6 

สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์เกย์ เรฟยาคิน, เดวิดาส เซมเบราส, คิม อิน-ซุง, เอลเวียร์ ราฮิมิช 

เทรนเนอร์ : เลโอนิด สลัตสกี้ 

เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซิยาส 6, อัลบาโร่ อาร์เบลัว 5.5, เปเป้ 7, เซร์กิโอ รามอส  6, ฟาบิโอ โคเอนเทรา  6.5, ชาบี อลอนโซ่  6.5, ซามี เคดิร่า 6.5, เมซุต โอซิล 6 (ราอูล อัลบิโอล น.85, 5), โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน 5.5 (กาก้า น.75, 6), คริสติอาโน่ โรนัลโด้  ***7, คาริม เบนเซม่า 5(กอนซาโล่ อิกวาอิน น.14, 6) 

สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, มาร์เซโล่, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เอสเตบัน กราเนโร่ 

เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่
 

 
 
  
 
 
   
   
 
  
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์