วันอังคารที่ 31 มกราคม 2555 
สวอนซี 1 : 1 เชลซี 
ประตู : 1-0 ซินแคลร์ น.39, 1-1 เทย์เลอร์(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.90+2
"หงส์ขาว"สวอนซีเล่นในบ้านนับว่าน่ากลัวมากล่าสุดก็เพิ่งเฉือนเอาชนะอาร์เซน่อลมาได้ 3-2 นัดนี้ยังส่งผู้เล่นชุดเดียวกันกับนัดที่เจอ"ปืนใหญ่"ทั้งมิเชล วอร์ม นีล เทย์เลอร์และแดนนี่ เกรแฮมลงสนามทั้งหมดขณะที่คนอื่นๆก็ยังอยู่กันครบ
ด้าน"สิงห์ไฮโซ"เชลซีนัดนี้ไม่มี 3 ผู้เล่นคนสำคัญอย่างแฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น เทอร์รี่และรามิเรสลงสนามเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บทั้งหมด ทำให้ต้องปรับมาใช้ดาวิด หลุยส์ยืนคู่กับอิวาโนวิชส่วนแกร์รี่ เคฮิลล์ยังคงเป็นสำรองตามเดิมขณะที่ฟลอร็อง มาลูด้าได้โอกาสลงเล่นแทนรามิเรสในแดนกลางส่วนหน้าเป้าเป็นเฟร์นานโด ตอร์เรส
ครึ่งแรก
สวอนซีครองบอลมากกว่า
ช่วง 5 นาทีของครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ครองบอลกันตามสไตล์เมื่อได้เล่นในบ้าน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มีมาให้เห็นขณะที่เชลซีก็ดูจะลงไปตั้งรับกันค่อนข้างลึกทำให้เปอร์เซ็นต์การครองบอลในช่วงนี้เป็น 80-20 เลยทีเดียว 
นาทีที่ 7 สวอนซีก็ได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกเมื่อซิเกิร์ดสันเปิดลูกฟรีคิกทางกราบขวาให้กับคอล์กเกอร์ได้โหม่งแต่โดนไม่เต็มบอลไปตกหน้าเกรแฮมที่ได้ง้างเท้ายิงแล้วแต่อิวานโนวิชก็พุ่งมาสไลด์ขวางไว้ได้ก่อนพลาดโอกาสขึ้นนำไปสำหรับเจ้าถิ่นที่วันนี้มาดีเหลือเกิน
สิงห์เริ่มบุกสวนบ้าง
ถูกกดหัวมาเป็น 10 นาทีตั้งแต่ต้นเกมในที่สุดเชลซีก็ได้ลืมตาอ้าปากบ้างเมื่องดาวิด หลุยส์เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดเข้ากลางให้กับตอร์เรสที่จับบอลไม่อยู่บอลไปเข้าทางสเตอร์ริดจ์ได้จับบอลก่อนจะล็อกหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายบอลลอดขากองหลังเจ้าถิ่นเฉี่ยวเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
เช็กพลาด!หงส์ขาวยิงกันไม่ได้เอง
นาทีที่ 16 ปีเตอร์ เช็กผู้รักษาประตูของเชลซีออกมาตัดบอลพลาดนอกกรอบเขตโทษทำให้เกรมแฮมได้พาบอลเข้าไปจะยิงประตูแต่ถูกกองหลังทีมเยือนที่วิ่งกันมาอออยู่หน้าปากประตูสกัดทิ้งออกจากเส้นไปได้ รอดตัวโดนด่าไปสำหรับเช็กในจังหวะนี้
ดายเออร์ลองส่อง-เช็กรับหนึบ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงของเกมเป็นเชลซีที่เริ่มเล่นตามเกมของตัวเองได้แล้วและเป็นฝ่ายครองบอลกดดันใส่เจ้าถิ่นแต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ขณะที่สวอนซีก็ได้บุกสวนขึ้นมาบ้างเมื่อนาธาน ดายเออร์ลากบอลมาจากทางปีกขวาก่อนตัดสินใจซัดเต็มข้อแต่ก็ตรงตัวเช็กที่ล้มตัวรับไว้ได้สบาย สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
โคตรงาม!ซินแคลร์ได้ยิงทีมเก่า
นาทีที่ 39 สวอนซีก็มาได้ประตูออกนำไปก่อนเมื่อได้เปิดลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาเข้ามา กองหลังเชลซีสกัดกันไม่ขาดบอลลอยย้อนหลังซินแคลร์ไปแต่อดีตเด็กปั้นของ"สิงห์ไฮโซ" ก็เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายบอลย้อยเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 โดยประตูนี้ทางซินแคลร์ก็ไม่ได้เเสดงอาการดีใจอต่อย่างใดเนื่องจากเป็นการยิงประตูทีมเก่าของเขานั่นเอง
ผู้เล่นสิงห์รับใบเหลืองส่งท้ายครึ่งแรก
ช่วงท้ายแอชลี่ย์ โคลกับฟลอร็อง มาลูด้าก็มารับใบเหลืองกันไปคนละใบจากการไปทำฟาล์วใส่ผู้เล่นของเจ้าถิ่น จบครึ่งแรกสวอนซีนำเชลซีอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
เชลซีเริ่มได้ดี
เริ่มเกมครึ่งหลังเป็นเชลซีที่ได้ครองบอลบุกใส่เจ้าถิ่นโดยตลอดแต่จังหวะเปิดบอลสุดท้ายยังทำกันได้ไม่ดีนัก แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแฟนและในนาทีที่ 48 โรเมอูก็ได้โอกาสส่องไกลประมาณ 25 หลาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไปแบบได้ลุ้นเหมือนกัน 
ผ่านไป 1 ชั่วโมงของเกมเป็นเชลซีที่ยังคงครองบอลบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นเพื่อหาโอกาสยิงตีเสมอให้ได้แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆอยู่ทำให้ข้างสนามมีเอสเซียงออกมายืดเส้นยืดสายแล้ว
ไบซันลงมาก็ได้ลองของเลย
นาทีที่ 64 อังเดร วิลลาส โบอาสกุนซือของเชลซีเปลี่ยนเอาเอสเซียงลงมาแทนโรเมอูและก็กองกลางชาวกานาก็เกือบตีเสมอให้กับทีมได้เมื่อได้ซัดเต็มๆจากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลก็เหินข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
เจ้าถิ่นโงหัวไม่ขึ้น
ครึ่งหลังเหลืออีก 20 นาทีและตอนนี้ก็เป็นเชลซีที่พับสนามบุกใส่เจ้าถิ่นอยู่ฝั่งเดียวแต่เมื่อหาโอกาสได้เสียวจริงๆต้องบอกว่าแทบไม่มีเลยเมื่อผู้เล่นในแนวรุกอย่างตอร์เรส, มาลูด้าและสเตอร์ริดจ์ต่างก็โชว์ฟอร์มกันไม่ค่อยและโดยเฉพาะตัวจักรสำคัญอย่างมาต้าที่วันนี้ก็ดูเงียบๆไปซึ่งส่วนหนึ่งต้องชมเกมรับของสวอนซีด้วยที่เล่นกันได้มีวินัยเอามากๆ
สิงห์เปลี่ยนลูกากูลงมา
นาทีที่ 79 ทีมเยือนก็ส่งลูกากูลงมาเพิ่มอาวุธในแนวรุกอีก 1 คนโดยถอดเอามาลูด้าที่วันนี้ยังคงออกทะเลอยู่เหมือนเดิมต้องมาดูกันว่าดาวเตะชาวเบลเยียมจะทำได้ดีแค่ไหน
โปรถีบยิงข้ามคาน
นาทีที่ 84 เชลซีเคาะบอลกันไปมาหน้ากรอบเขตและสุดท้ายเมเรเลสก็ไหลบอลให้กับโบซิงว่าทางขวาก่อนที่แบ็กขวาชาวโปรตุเกสจะล็อกเข้าซ้ายแล้วตัดสินใจยิงทันทีแต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปอีก
ลำบาก!ทีมเยือนเหลือ 10 คน
นาทีที่ 85 เชลซีก็ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อแอชลี่ย์ โคลไปโดนใบเหลืองที่ 2 จากการไปเข้าสกัดช้าใส่ดายเออร์ 2 นาทีต่อมาเมเรเลสก็โดนเหลืองไปอีกคน
โปรถีบยิงแฉลบตีเสมอจนได้
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 โบซิงวาก็มาพังประตูตีเสมอได้สำเร็จหลังจากที่ลุยขึ้นมาจนถึงเขตโทษฝั่งขวาก่อนจะยิงบอลแฉลบกองหลังทีมเยือนเข้าประตูไป จบเกมเชลซีบุกมาไล่เจ๊าสวอนซี 1-1 ทำให้ถูกอันดับอย่าง 3 สเปอร์สที่ชนะวีแกนได้ทิ้งห่างออกไปเป็น 7 คะแนนแล้วขณะที่สวอนซียังอยู่อันดับ 13 เท่าเดิมมี 27 คะแนนจาก 23 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สวอนซี : มิเชล วอร์ม6.0, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์7.5, นีล เทย์เลอร์
6.0, สตีเฟ่น คอล์กเกอร์6.5, อังเคล แรนเคล5.0, ลีออน บริตตัน7.0, สก็อต ซินแคลร์
7.5(ลุค มัวร์ น.77), นาธาน ดายเออร์8.0, โจ อัลเลน7.0, กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน5.0(เคมี่ ออกุสติน น.66 5.0), แดนนี เกรแฮม4.5
สำรองไม่ได้ลง : เจราร์ด เทรมเมล, แกรี่ มังค์, เวย์น เราท์เล็ดจ์, แอชลี่ย์ ริชาร์ดส์, ลีรอย ลิต้า
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก5.0, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช6.5, แอชลี่ย์ โคล
3.5, ดาวิด หลุยส์5.0, โจเซ่ โบซิงวา6.5, โอริโอล โรเมอู5.0(มิคาเอล เอสเซียง น.64 6.5), ฟลอร็อง มาลูด้า4.5(โรเมลู ลูกากู น.79), ราอูล เมเรเลส4.5, เฟร์นานโด ตอร์เรส5.0, ฆวน มาต้า5.0, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์7.5
สำรองไม่ได้ลง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, เปาโล เฟร์ไรร่า, แกรี่ เคฮิลล์, ไรอัน เบอร์ทรานด์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว